คอลัมนิสต์

โพสต์เตือนภัยยังมี'โจรออนไลน์'โกงเงิน!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  สายตรวจระวังภัย   โดย...  ทีมข่าวอาชญากรรม

 

 


          เรื่องฉ้อโกงที่เกิดขึ้นบนสังคมออนไลน์มีให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ “ตำรวจไซเบอร์” อย่าง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ก็ออกมาเตือนประชาชนให้ระแวดระวังอยู่เป็นระยะ รวมถึงผู้เสียหายก็โพสต์เรื่องราวเตือนภัยกันเอง แต่ก็ไม่วายมีโจรหน้าใหม่และเหยื่อป้ายแดงเกิดขึ้นตลอด 

 

 

          สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Pakpaew Kiattiya Tasee” ซึ่งเป็นของ น.ส.เครือมาศ พรหมสา อดีตนักข่าวสปริงนิวส์ ได้โพสต์เรื่องเพื่อเตือนภัยเนื่องจากถูกมิจฉาชีพออนไลน์ติดต่อขายสินค้าหลอกให้สั่งของ เมื่อโอนเงินให้แล้วกลับเงียบหายไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่งไว้ ซึ่งอาจทำเป็นขบวนการและสร้างความเดือดร้อนแก่คนทั่วไปได้ จึงโพสต์เรื่องราวแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้คนอื่นหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ

 

 

โพสต์เตือนภัยยังมี'โจรออนไลน์'โกงเงิน!!

 


          สำหรับเรื่องราวที่โพสต์เตือนภัยครั้งนี้ น.ส.เครือมาศ บอกว่า เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้เสียหายเป็นแฟนหนุ่มชื่อ นายเอกราช ทาสี เป็นผู้สั่งซื้อสินค้า โดยเริ่มจากมีมิจฉาชีพ ชื่อว่า “เจี๊ยบ” หรือ นายนิทัศน์ แซ่ตั้ง โทรมาเสนอสินค้าจำพวกวัตถุดิบทำน้ำหวาน ชา กาแฟ ซึ่งบอกว่าได้เบอร์มาจากเพจ เห็นขายของพวกนี้อยู่ เผื่อสนใจสินค้าของเขา เมื่อคุยกันไปสักพักรู้สึกว่านายเจี๊ยบดูรู้จักสินค้าดี พอโทรต่อรองราคากันเสร็จจึงตัดสินใจสั่งของกันผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยมิจฉาชีพรายนี้ใช้ชื่อไลน์ว่า “jeab” 


 


          “หลังสั่งของเสร็จ นายเจี๊ยบก็รวมยอดให้เป็นเงิน 50,600 บาท และแจ้งว่าจะต้องโอนเงินก่อนรับสินค้า แฟนของหนูจึงโอนเงินตามยอดที่แจ้งเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ของนายเจี๊ยบ ชื่อบัญชี นายนิทัศน์ แซ่ตั้ง ซึ่งโดยปกติที่ร้านเคยสั่งของมาขายแบบนี้ ก็จำเป็นต้องโอนเงินก่อนของมาส่ง เลยไม่ได้เอะใจอะไร จนลืมขอดูใบตัวแทนการค้า หรือชื่อบริษัท อันนี้ถือว่าพลาดเองจริงๆ พอโอนเงินเสร็จแล้ว ก็คุยเรื่องจัดส่งสินค้า ขอที่อยู่ โดยนายเจี๊ยบแจ้งว่าจะจัดส่งสินค้าในวันถัดไป พอถึงวันที่ต้องจัดส่งสินค้าผู้เสียหายโทรไปขอรายละเอียดการจัดส่ง แต่นายเจี๊ยบอ้างว่าจำชื่อขนส่งไม่ได้ และใบหลักฐานการส่งสินค้าอยู่ที่คนขับรถไม่ได้อยู่กับตน ก่อนจะเงียบหายบ่ายเบี่ยง โทรไปก็ไม่ยอมรับสาย ตัดสายและปิดเครื่อง ถามไถ่ไปทางไลน์ เปิดอ่านแต่ไม่ตอบกันเลย จึงเชื่อว่านายเจี๊ยบหลอกลวงให้โอนเงิน ส่อเป็นมิจฉาชีพ จึงไปแจ้งความที่ สภ.เซกา จ.บึงกาฬ เพื่อดำเนินคดีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม” น.ส.เครือมาศ กล่าว

 

 

 

โพสต์เตือนภัยยังมี'โจรออนไลน์'โกงเงิน!!

 


          ทว่าการไปแจ้งความครั้งนี้ตำรวจทำแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วบอกว่าค่อยนัดมาสอบปากคำทีหลัง เมื่อไปขอความช่วยเหลือกับทางธนาคารเพื่ออายัดบัญชีของมิจฉาชีพกลับทำอะไรไม่ได้เพราะต้องเป็นใบแจ้งความดำเนินคดีไม่ใช่แค่บันทึกประจำวันธรรมดา จึงทำให้ผู้เสียหายต้องย้อนกลับมาโรงพักเพื่อแจ้งความใหม่ในวันถัดมา แต่คำพูดของพนักงานสอบสวนกลับทำให้ผู้เสียหายที่ประสบเรื่องทุกข์ร้อนเสียความรู้สึก แม้สุดท้ายตำรวจจะโทรเรียกให้มาสอบปากคำและออกใบแจ้งความที่ไม่ใช่แค่การลงบันทึกประจำวันให้ก็ตาม


          ทั้งนี้ผู้เสียหายระบายว่าพอไปขอแจ้งความใหม่ตำรวจก็ออกลูกหงุดหงิด ชักสีหน้า บอกให้รอ เพราะลงบันทึกประจำวันให้แล้ว ขั้นตอนเยอะ คดีมีเป็นร้อยเป็นพัน และผู้ที่ถูกกล่าวหาเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ หรือเขาอาจถูกคนอื่นสวมรอย ต้องตรวจสอบอีกเยอะ เงินที่โอนไปคงไม่ได้คืน ขณะเดียวกันก็เต็มใจโอนให้เขา เรื่องสั่งของออนไลน์ถูกโกงกันเยอะ ยังจะสั่งกันอีกควรเลิกสั่งกันได้แล้ว สุดท้ายก็ต้องมาเดือดร้อนตำรวจ โดยคำพูดเหล่านี้ทำให้เสียความรู้สึกของผู้มีเรื่องทุกข์ร้อนหวังจะมาพึ่งเย็น เพราะคิดว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน แม้ไม่ได้เงินคืนแต่อยากให้เร่งดำเนินการเอาคนผิดมาลงโทษ ตัดวงจรมิจฉาชีพไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่คนอื่นอีก และหวังว่าบทสรุปจะเป็นเช่นนั้น

 

 

 

โพสต์เตือนภัยยังมี'โจรออนไลน์'โกงเงิน!!

 


          เชื่อว่าคดีฉ้อโกงจากโจรออนไลน์ที่เกิดขึ้นบนสังคมยุคโซเชียลมีเดียจะยังไม่ใช่คดีสุดท้าย ยิ่งทำธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านช่องทางนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังตรวจสอบให้ถ้วนถี่ ถ้าเกิดเรื่องแล้วหวังพึ่งตำรวจฝ่ายเดียวคงต้องทำใจ เพราะบางทีอาจเจอตำรวจ(บางคน) ที่มักจะใส่เกียร์ว่าง..!!

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ