คอลัมนิสต์

ทดสอบแรงปะทะ "พปชร."และลุงตู่" เกมแรก..หวิดม้วย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เริ่มต้นไม่ทันไรก็เริ่มเป๋ในทรงเสียแล้วสำหรับพรรคพลังประชารัฐและเครือข่าย

      โดย สมัชชา หุ่นสาระ 

      เริ่มต้นไม่ทันไรก็เริ่มเป๋ในทรงเสียแล้วสำหรับพรรคพลังประชารัฐและเครือข่ายเพราะการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ ไม่ทันนกกระจอกกินน้ำเมื่อ”วีระกร คำประกอบ”ส.ส.ปากน้ำโพ เขตสอง พปชร.ในฐานะทายาทคนการเมืองและอดีตส.ส.หลายสมัยก็สร้างบันทึกหน้าใหม่ขึ้นมาด้วยการเสนอเลื่อนญัตตินี้ออกไป ท่ามกลางการประท้วงจากส.ส.พรรคอื่นๆอื้ออึ้งถนนแจ้งวัฒนะ

        และกว่าจะแคะเหตุผลในการเลื่อนคราวนี้จาก”วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเดียวกันก็ลากเวลาและโดนด่าฟรีไปเป็นชั่วโมง   โดยวิรัชบอกว่า“ยามนี้พปชร.ยังไม่พร้อม” และกว่าจะกลับมาลงญัตติแบบขานรายชื่อแบบรายบุคคล ก็มี”ห้าอ.”พปชร.ไปโหวตไม่เห็นด้วย(คือไม่เลื่อนญัตติ)ทั้งๆที่เสียงยังก้ำกึ่งและลุ้นกันแบบเฉือนกันปลายจมูก และขั้วหนุนลุงตู่ก็โหวตเห็นด้วย(คือเลื่อนญัตติ)กันทั้งนั้น  สุดท้ายที่ประชุมส.ส.ก็ไม่เลื่อนและต้องลงมติ  ท่ามกลางเสียงด่าทอจากห้องประชุมและชาวบ้านที่ติดตามวาระแรกของการเมืองที่พ้นปลายกระบอกปืนมาหมาดๆ
“ห้าอ.”ของพปชร.จะลงมติผิดจริงหรือแสร้งว่า..ไม่นานนี้คำตอบจะออกมา

    แต่ที่แน่ๆเกมนี้พปชร.เสียแต้มไปอักโข   ยกแรกเริ่มแบบนี้ ชาวบ้านร้านตลาดจะอุ่นใจได้หรือว่า ว่าที่ครม.ชุดใหม่ที่มีพปชร.รวมทั้งลุงตู่และพรรคร่วมจะนำทัพและเดินได้สะดวกโยธิน...
     อย่าลืมว่าภาวะยามนี้แตกต่างกับช่วงห้าปีที่แล้วยิ่งนักสำหรับลุงตู่    เพราะคนการเมืองเจนจัดกว่าแม่ทัพนายกองในยามที่เล่นการเมืองแบบปลอดอำนาจท็อปบูท  และเจอยิ่งลูกล่อลูกชนของพรรคสีฟ้านั้น ใครต่อใครรู้ว่าปชป.ใช่ย่อยเสียที่ไหน..
       และกับปฐมบทที่แตะมือกับพปชร. "พรรคสีฟ้า"แสดงลีลามาแล้ว....ในวันนี้
      หลายวันก่อน สื่อหลากแขนงปิดกล่องข่าวแล้วว่า”ภท.กับปชป.”มาร่วมงานกับพปชร.แน่นอน..แต่เมื่อเข้าใกล้วันและเวลาในการเริ่มงาน “ปชป.กับภท.”กลับงัดลูกล่อลูกชนออกมาชนิดที่พปชร.อ่อนใจ เพราะดีลเก้าอี้นั้น พปชร.ไม่ผ่อนให้ปชป. จนปชป.งัดเกมที่หมกไว้มาใช้ในคราวนี้

       และพปชร.บางคนมองเงื่อนไขที่ใครบางคนไปเจรจากับปชป.ในโควตาประมุขฝ่ายนิติบัญญัตินี้ พปชร.มิควรมอบให้เพราะมองว่า หากปล่อยประมุขฝ่ายนิติบัญญัติไว้ในการดูแลของปชป.แล้วจะคุมจังหวะได้หรือในยามนี้และยามหน้า และเมื่อทราบว่านายหัวชวนจะมารับหน้าที่นี้ เกมมันเปลี่ยนตั้งแต่ค่ำวันศุกร์ทันควัน

        หากมองเกมในห้องประชุมตั้งแต่เช้ายันบ่ายวันเสาร์กว่าวาระการประชุมจะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติท่ามกลางการประท้วงกันหลายชั่วโมงนั้น เกมก็เดินตามกติกาและปฏิทินที่วางไว้โดยสุดท้ายแล้ว”ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่หนึ่ง”ของพปชร.”ณัฐฏพล ทีปสุวรรณ”เสนอชื่อ”ชวน หลีกภัย” จากพรรคสีฟ้าเข้าชิงประมุขนิติบัญญัติประชันกับ”สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จากขั้วเจ็ดพรรคต้านลุงตู่ และสุดท้ายเจ้าของฉายา”ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง”ได้กลับเข้ารับหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งที่สอง

โดยนายหัวชวนได้258คะเเนน สมพงษ์คว้า235เเต้ม

ปชป.คว้าชัยในขั้นเเรกเเละเป็นเสมือนเเต้มที่ขี่พปชร.ไปเเล้ว

เกมนี้พลิกมาพลิกไปจนใครบางคนเหนื่อยใจแทน... โดยเริ่มที่คนของปชป.เคยบอกว่าไม่เอาเก้าอี้นี้....แต่สองถึงสามวันก่อนการลงมติ ปชป.กลับบอกว่า”จะขอทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติ”ที่เป็นศัพท์ใหม่การเมืองขึ้นมาและไม่ต้องตีความให้เยอะเพราะมันแปลว่าปชป.จองประธานสภาผู้แทนราษฎร


และยังแทงกั๊กร่วมกับพรรคสีน้ำเงินว่า วาระนี้คือเลือกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ยังไม่มีการเจรจาความเรื่องร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพปชร. เมื่อเอากันแบบนี้ คนบางคนในพปชร.และขุนพลของคสช.ต้องอ่อนใจกับความเก๋าเกมที่พรรคสีฟ้างัดมาในนาทีสุดท้าย โดยที่มีลูกพ่วงจากพรรคสีน้ำเงินแถมมา เพราะแว่วว่าพรรคสีน้ำเงินขอพ่วงแรงบีบนี้ประกบด้วยเพราะบางเก้าอี้ครม.นั้น พรรคสีน้ำเงินมิพึงใจที่พปชร.มอบให้ ฉะนั้นเมื่อมีจังหวะขอแลกได้ “ภูมิใจไทย”จึงแลกด้วย จนคนโตแห่งพปชร.และคนหลังม่านตัวจริงของคสช.ที่บัญชาเกมเรียกตัวแทนการเจรจาของพปชร.กลับที่ตั้ง และรอคุยใหม่

และอย่าลืมว่า หลายวันก่อน”เสี่ยตั้น”คนที่วงการการเมืองรู้ว่าแนบชิดใครบ้างนั้น เคยบอกสังคมว่าพปชร.จะเสนอ”สุชาติ ตันเจริญ “ส.ส.แปดริ้วหลายสมัยลงชิงชัยในนามคนของพปชร.แต่เมื่อเกมพลิกแบบนาทีต่อนาทีจากเชิงมวยที่เหนือขั้นกว่าของค่ายสีฟ้าจนคนในพปชร.ต้องพลิกเกม เพื่อขอเลื่อนประชุมและเจรจาใหม่


 ว่ากันว่าในช่วงนั้นกระแสปัจจัยหลายสีในจำนวนที่ใครต่อใครคาดมิถึงไหลเข้าและไหลออกไปยังมือถือของส.ส.หลายพรรคและหลายชีวิตในข้อเสนอที่แทบมิอาจปฏิเสธได้
แต่เมื่อจังหวะมันมิให้ต้องไปดั่งใจพปชร.”ชัย ชิดชอบ”ประธานในที่ประชุมจึงต้องปล่อยเกมไหลให้มีการลงมติจนได้
เพราะต้องชมเชยคนจากขั้วต้านลุงตู่ว่าทำการบ้านมาแน่น เช่น ส.ส.เพื่อไทยและอนาคตใหม่ที่ประท้วงแบบถูกหลักการ
แต่คนที่กุมจังหวะได้สนิทคือวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากค่ายประชาชาติที่ลุกขึ้นคราวใด..ห้องประชุมนิ่งสนิท


และมิอาจมองข้าม”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่มารับลูกของ”วันนอร์” แม้ว่าตัวเองจะลงมติขอเลื่อนญัตติวันนี้ด้วยก็ตาม ตรงนี้แปลความได้หรือไม่ว่าอภิสิทธิ์รู้แล้วว่าจังหวะไหนควรจะทำอะไรบ้าง....

และสุดท้ายการเมืองวันนี้ก็ยังย้ำรอยเดิมที่อยู่ในวังวนเก่าๆแต่แนบเพิ่มด้วยลีลาและเชิงชั้นที่ไม่เคยบังเกิดขึ้นในเวทีการเมืองไทย


ถามว่า..เกมนี้ใครได้แต้ม คำตอบนั้นน่าจะเริ่มจากฝ่ายเสียราคาก่อนคือพปชร.,ขุนพลหลังม่านจากคสช.คือสองฝ่ายที่ต้องรับกรรมในยามนี้เป็นลำดับต้นๆเพราะเชิงมวยทางการเมืองนั้น นับว่าเสียเปรียบ โดนนับแปดและมีแผลแตกในยกแรกแบบกองเชียร์แทบถอดใจ

เพราะดีลการไปเจรจากับปชป.ในเงื่อนไขร่วมรัฐบาลนั้น ก็เสมือนพ่ายมา เพราะเงื่อนไขนี้มีเก้าอี้เสนาบดีผนวกกับเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติด้วยนั้น เคาะไม่จบทั้งๆที่หลายโควตาเคาะลงตัวแล้วแต่ยังเจรจาความไม่ถึงเส้นชัยเพราะตัวแปรคือกระทรวงพลังงานที่ไม่มีใครยอมใคร แม้พปชร.จะเลือกกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าแลก แต่ปชป.รู้ว่าใครอยู่หลังม่านดีลนี้และจะวางใครมาเป็นรมต.ดังนั้น ดีลนี้ก็ล้มและต้องนัดหารือใหม่และเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อพรรคสีฟ้าเคาะชื่อ”ชวน หลีกภัย”ชิงบัลลังก์คราวนี้ ความอลหม่านจากพปชร.บังเกิดพลัน เพราะลีลาของคนการเมืองจากตรังคนนี้ใช่ย่อยที่ไหน

พปชร.และขุนพลหลังม่านค่ายคสช.น่าจะรู้ว่า บารมีของนายหัวชวนนั้นยากที่จะต่อกร และยังหวาดวิตกว่า การใดๆในรัฐสภานั้นนายหัวชวนคือจอมหลักการที่มิยอมให้บางสิ่งบางอย่างมางัดให้เลยเส้นหลักการไปได้และดีไม่ดีหลากฝันของพปชร.จะพังในรัฐสภาเพราะ”นายหัวชวน”อาจไม่เล่นด้วย

วันนี้ความหวั่นใจของพปชร.ชัดแล้ว

“ปชป.”แม้จะเป็นพรรคอันดับสี่ ที่มีห้าสิบสองชีวิต แต่วันนี้กลับคุมเกมการเมืองไว้ได้เกือบหมด จนคีย์แมนพปชร. ขุนพลท็อปบูท ต้องถอนหายใจ แต่เมื่อเหตุมันมีผลออกมาแบบนี้

ถามใจคนวงในพปชร.และคนที่หนุนลุงตู่ว่าจะปล่อยในปชป.พลิกกลับมาคุมสภาแทนเช่นนี้หรือ.....

///////////////////

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ