คอลัมนิสต์

ตั้งรัฐบาลใหม่ "พปชร." แข็ง "พรรคตัวแปร" เขี้ยว!!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...   ณัฐภัทร พรหมแก้ว

 

 

 

          ธรรมชาติของการเลือกตั้งที่ไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงเกินครึ่งของสภา หรือการที่แต่ละพรรคได้ส.ส.ในจำนวนไม่ทิ้งห่างกันมาก อย่างการเลือกตั้งครั้งนี้ดุลต่อรองจึงอยู่ที่พรรคตัวแปรขนาดกลางอย่าง “ประชาธิปัตย์” และ “ภูมิใจไทย”

 

 

          ที่ผ่านมาพรรคตัวแปรมีอำนาจต่อรองมหาศาล เห็นได้จากครั้ง “รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” พรรคภูมิใจไทยถือว่าสมดังอารมณ์หมาย เมื่อได้คุมกระทรวงเกรดเออย่าง “คมนาคม” และ “มหาดไทย” เที่ยวนี้ความเขี้ยวแบบนั้นอาจใช้ต่อรองกับ “พลังประชารัฐ” ลำบาก


          เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตัวเต็งที่จะเป็นนายกฯ คนต่อไป ของ “พลังประชารัฐ” ออกตัวแล้วว่า กระทรวงเกรดพรีเมียมทั้ง กระทรวงกลาโหม มหาดไทย คมนาคม และ คลัง ต้องอยู่กับทีมบริหารชุดเดิม


          สัญญาณความไม่พอใจของพรรคที่คาดว่าจะมาร่วมตั้งรัฐบาลกับ “พลังประชารัฐ” ทั้ง “ภูมิใจไทย” และ “ประชาธิปัตย์” มีเล็ดลอดออกมาตลอด


          มีรายงานว่า “ภูมิใจไทย” จ้องตาเป็นมันว่าต้องการ 3 เก้าอี้ว่าการสำคัญอย่าง “คมนาคม” ที่นอกจากจะมีอำนาจบริหารโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่แล้ว ยังมีการคาดกันว่าอยากจะเข้ามาผลักดันการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปลอดอากร หรือดิวตี้ฟรี รวมถึงเก้าอี้กระทรวงหมอ “สาธารณสุข” ที่ภูมิใจไทยต้องการปลดล็อกในเรื่องกัญชา และเก้าอี้ “การท่องการเที่ยวและกีฬา” ที่อาจมีส่วนสนับสนุนต่อยอดกิจกรรมด้านกีฬาเพื่อยกระดับบางจังหวัดขึ้นแท่นท็อปคลาส

 

          ทว่ามีรายงานอีกเช่นเดียวกันว่า ข้อเสนอที่ “ภูมิใจไทย” ได้รับจาก “พลังประชารัฐ” ประมาณ 7 ที่นั่ง โดยได้ 1-2 เก้าอี้ว่าการ ส่วนที่เหลือเป็นรัฐมนตรีช่วยทั้งสิ้น เช่นเดียวกับ “พรรคประชาธิปัตย์” ที่มีบางกระแสระบุว่า หมายปอง มหาดไทย ศึกษาธิการ พาณิชย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คลัง แถมอาจจะได้ประธานสภาผู้แทนราษฎรไปด้วย

 


 


          ดังนั้นเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองกับ “พลังประชารัฐ” จึงเห็นภาพ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เลขาฯ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งวงกินข้าว คุยการเมือง


          แต่การตั้งวงต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีกับ “พลังประชารัฐ” นั้นไม่ง่าย เพราะ “พลังประชารัฐ” รู้ดีว่าพรรคร่วมต่างหวังสูง แต่ “พลังประชารัฐ” ก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เลยได้เห็นเกมปล่อยข่าว ขย่มเช้าขย่มเย็น ให้ผู้จัดการรัฐบาลคายกระทรวงเศรษฐกิจ และกระทรวงเกรดเอออกมาบ้าง


          เพราะตาม “โผครม.ล่าสุด” มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ควบรมว.กลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจได้นั่งรองนายกฯ หรือกระทรวงพลังงาน หรืออุตสาหกรรม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.มหาดไทย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นรมว.พาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ 


          นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นรมว.คมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา เป็นรมช.คมนาคม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี เป็นรมช.อุตสาหกรรม นายอิทธิพล คุณปลื้ม รองหัวหน้าพรรค เป็นรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคมีชื่อเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ เช่นเดียวกับนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค หรืออาจเป็นรมว.ศึกษาธิการ ขณะที่ นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ก็เป็นอีกคนที่อยู่ในข่ายถูกวางตัวนั่งรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน ซึ่งยังต้องรอความชัดเจน เช่นเดียวกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ


          โดยโควตาของประชาธิปัตย์ตามโผอาจได้ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ยุติธรรม, แรงงาน, รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรมช.มหาดไทย หรือ รมช.คลัง หรือ รมช.ศึกษาธิการ


          ขณะที่โควตาในส่วนของพรรคภูมิใจไทยจะได้ รมว.สาธารณสุข, รมช.สาธารณสุข, รมช.คมนาคม, รมช.มหาดไทย, รมช.เกษตรและสหกรณ์, รมช.คลัง, รมช.พาณิชย์ ซึ่งนอกจาก อนุทิน ชาญวีรกูล ที่มีชื่อนั่งรัฐมนตรีแล้ว ยังมีชื่อ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี มีชื่อคั่วเก้าอี้รัฐมนตรีด้วย


          ส่วน “พรรคชาติไทยพัฒนา” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอีก 1 เก้าอี้ รมช.กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ส่วนพรรคอื่นๆ ที่เหลือยังไม่มีความชัดเจน


          ทั้งนี้ในเมื่ออะไรๆ ยังไม่ลงตัว เกมตั้งรัฐบาลจึงออกลูกยื้อกันถึงนาทีสุดท้าย เรียกว่าต่างฝ่ายต่างแข็ง ยืนยันในจุดที่ตัวเองต้องการ ฝ่ายหนึ่งกันท่า ต้องการกระทรวงเกรดเอ ขณะที่พรรคร่วมก็ต้องการเช่นเดียวกัน 


          จึงต้องดูฝีมือผู้จัดการรัฐบาลตัวจริงว่าจะแข็งหรืออ่อนให้พรรคร่วมได้มากน้อยแค่ไหนเพื่อพยุงนาวาที่กำลังจะมีชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นั่งเป็นหัวเรือใหญ่

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ