คอลัมนิสต์

กกต.ส่อไม่รับรอง"ธนาธร" 9 พฤษภา!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... รักแผ่นดิน  โดย... ฅนไท ที่มา... นสพ.กรุงเทพธุรกิจ

 

 

          ปัญหาคุณสมบัติความเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหมายเลข 1 ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ต่อการถือครองหุ้น บริษัทวีลัค มีเดีย ซึ่งเป็นบริษัททำสื่อ อันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ กำลังถูกสำนักงานคณะกรรมการ กกต.ที่มี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เป็นเลขาธิการ ตั้งชุดสืบสวนสอบสวน ก่อนจะส่งเรื่องให้ 7 กกต.ชุดใหญ่วินิจฉัยว่า คุณสมบัติมีปัญหาหรือไม่ 

 

 

          หากเห็นว่าเป็นปัญหาตามที่สื่อเสนอข่าว ก็จะมีมติส่งให้ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งตัดสิน เหมือนกับกรณีอื่น ๆ ที่เคยปฏิบัติมาก่อนหน้านี้ แต่หาก 7 กกต.เห็นว่า หลักฐานและข้อมูลที่มีการนำเสนอตามข่าว และที่สำนักงาน กกต.ของ จรุงวิทย์ เสนอขึ้นไป ไม่มีมูล ก็จะมีมติจำหน่าย(ยุติเรื่อง) ที่ร้องเรียนขึ้นมา 


          นี่คือขั้นตอนปฏิบัติตามกฎหมาย ที่ต้องเดินไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกระทำเหมือนกับผู้สมัครทุกคนที่ถูกร้องเรียนหรือ กกต.ตรวจพบ มิสามารถเลือกปฏิบัติได้ เพราะหาก กกต.เลือกปฏิบัติ ผู้ร้องอย่าง ศรีสุวรรณ จรรยา ก็จะไปฟ้องร้องเอาผิดกับ กกต.ในข้อหาความผิดตามมาตรา 157 ว่าด้วยการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบ ที่มี “คุก” มาให้เห็นหลายคดีมาแล้ว


          ปัญหาในขณะนี้คือ ความล่าช้าในการทำงานตรวจสอบเรื่องนี้ ของสำนักงานเลขาธิการ กกต.ที่จรุงวิทย์ กุมบังเหียน ทั้งที่เรื่องนี้นักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แม้แต่ กกต.บางคนยังบ่นว่าการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ยาก เพราะตรวจสอบจากเอกสารเป็นสำคัญ ว่าในวันสมัคร ส.ส. 6 กุมภาพันธ์ 2562 ธนาธร ยังถือครองหุ้นบริษัทดังกล่าวอยู่หรือไม่ เอกสารทางราชการนั้น ธนาธรถือครองหุ้นจนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2562 หลังวันสมัคร ส.ส.

 

          แต่คำให้สัมภาษณ์ และเอกสารของธนาธร ระบุว่า เขาขายหุ้นให้มารดา ตั้งแต่ 8 มกราคม 2562 ก่อนการสมัคร ส.ส.จึงไม่มีอะไรซับซ้อน ที่อนุกรรมการสืบสวนสอบสวนที่จรุงวิทย์ ตั้งมาสอบสวนเบื้องต้น ต้องใช้เวลานานมาก จนทำให้เสียเวลาแผ่นดิน และทำให้ประเด็นนี้เป็นข้อกังขาของสังคมนานเกินไป และหากต้องใช้เวลามากไปกว่านี้ กกต.ควรจะใช้ดุลพินิจเปลี่ยนผู้รับผิดชอบต่อทั้งคดีนี้และสำนักงาน กกต. ด้วยเหตุทำเรื่องง่ายๆ ให้กลายเป็นเรื่องยาก





          มีคำถามว่า หาก กกต.พิจารณาไม่ทันวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 วันที่ กกต.กำหนดเป็นเส้นตายในการรับรองส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ตามรัฐธรรมนูญ หรือมีมติส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง “จวนเจียน” จนทำให้ศาลตัดสินไม่ทัน แล้วจะทำอย่างไร ต้องรับรอง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปก่อนไหม


          ในทางปฏิบัติ เมื่อมีข้อสงสัยและอยู่ในระหว่างการสอบสวน หรือมีมติส่งให้ศาลพิจารณาแล้ว กกต. มีอำนาจ “ไม่รับรอง” ความเป็น ส.ส.ของธนาธร ไว้ก่อน จนกว่าจะมีข้อยุติ ธนาธรก็จะเป็น 1 ในร้อยละ 5 ที่กกต.รับรองทีหลังได้ หากพบว่าไม่มีปัญหาในคุณสมบัติแล้ว เพราะถ้า “รับรองไปก่อน” ทั้งๆ ที่มีข้อกังขา ความเสียหายจะเกิดกับแผ่นดิน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ