คอลัมนิสต์

"ลุงตู่" นายกฯ1,000%

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  ถอดรหัสลายพราง  โดย...  พลซุ่มยิง 


 

          มาพนันกันเล่นๆ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะได้กลับมานั่งเก้าอี้บนตึกไทยคู่ฟ้าอีกสมัยหรือไม่ หลังผลการเลือกตั้งไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ทั้งเพื่อไทยและพลังประชารัฐ ไม่ว่าใครจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็จะมีเสียงปริ่มน้ำ จะส่งผลต่อการคงอยู่และการบริหารประเทศของรัฐบาลในอนาคต

 

 

          การจุดประกายรัฐบาลแห่งชาติ หวังขจัดปัญหาการเมืองกำลังถึงทางตัน และคลี่ปมความขัดแย้งให้ทั้งสองขั้วการเมืองได้แบบวิน-วิน อาจไม่ใช่ทางออกเพราะปัญหาคือการไม่ยอมรับกติกา และเป็นไปไม่ได้เลยจะเห็นพรรคการเมืองที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย กับพรรคการเมืองถูกผลักให้เป็นเผด็จการ จับมือร่วมกันบริหารประเทศที่มีนโยบายและหลักการขัดกัน


          เพราะแค่เริ่มต้นทั้งสองขั้วการเมืองพร้อมใจกันออกมาปฏิเสธ ‘ขุดหลุมฝังกลบ’ แนวคิดรัฐบาลแห่งชาติไม่ให้ผุดให้เกิด เพราะไม่อยากสูญเสียอำนาจให้ผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และยังเห็นตรงกันว่าสถานการณ์การเมืองยังไม่วิกฤติจนหาทางออกไม่ได้ แม้จะลุ่มๆ ดอนๆ แต่ทุกอย่างยังคงเดินหน้าตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย


          เช่นเดียวกับในอดีตมีการเสนอทฤษฎีดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหามาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา แต่คนที่พูดจนติดปากน่าจะเป็น “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามผลักดันแนวทางดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ยังไม่เคยถูกนำมาปฏิบัติใช้จริงแม้แต่ครั้งเดียว

 

          การมองข้ามช็อตไปถึงรัฐบาลแห่งชาติ ถือว่าเป็นเรื่องอีกยาวไกล เอาแค่เพียงจะชี้ชัดว่าพรรคใดจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลยังเร็วไปด้วยซ้ำ เพราะยังเหลือเวลา 15 วันให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สะสางปัญหาต่างๆ ให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งข้อร้องเรียน แจกใบแดง ใบส้ม รวมถึงการจัดการเลือกตั้งซ่อมให้บริสุทธิ์ยุติธรรม 

 


 


          ในระหว่างนี้กกต.จะต้องกู้ภาพลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประชาชน ต้องเคลียร์ข้อกังขา หรือข้อสงสัยให้ชัดเจน ทั้งจำนวนคน-บัตรไม่ตรงกัน โดยเฉพาะสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ ก่อนจะประกาศรับรองส.ส.อย่างเป็นทางการวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไปนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล


          กว่าจะถึงวันนั้นอะไรที่ว่าแน่ก็ยังไม่แน่ เหมือนคำกล่าวที่ว่า ‘สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร’ การจับมือลงนามสัตยาบัน หยุดการสืบทอดอำนาจ คสช. พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลก่อนหน้านั้นน่าจะมี ‘เซอร์ไพรส์’ ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ภายใต้บริบทการเมืองที่ซับซ้อนขึ้น 

 

          จุดยืนมั่นคงของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์​ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ไม่ขอร่วมงานพลังประชารัฐ เพราะอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกัน แต่ก็พร้อมจะถอนตัวจากฝั่งประชาธิปไตย หากคำว่าประชาธิปไตยเป็นแค่เพียงคำกล่าวอ้างแต่ไม่ได้หมายรวมถึงการทำเพื่อประชาชน ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง


          ฟากพลังประชารัฐไม่ได้นิ่งนอนใจแม้จะรวบรวมตัวเลขคร่าวๆได้ ส.ส.ไม่น้อยหน้าเพื่อไทย พอจะขับเคลื่อนการบริหารประเทศได้ แต่จำนวนที่ได้ยังไม่เพียงพอค้ำบัลลังก์ พล.อ.ประยุทธ์ ที่หวังให้นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างน้อยไปอีก 2 ปี จำต้องงัดทุกกลเม็ดและทำทุกวิถีทางตามที่ได้ประกาศไว้ รวบรวมพรรคการเมืองเข้าร่วมให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างเสถียรภาพ


          โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ (ปชป.) ฝั่ง นายชวน หลีกภัย และกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพรรคยังออกอาการพ่อแง่แม่งอน แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาต้องเลือกในสถานการณ์ ปชป.ที่ค่อนข้างลำบาก การอยู่กับพลังประชารัฐก็ยังดีกว่าต้องเป็นฝ่ายค้านกับเพื่อไทย ขัดหลักการ นโยายการทำงานที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


          การตั้งรัฐบาลนับเป็นโจทย์ยากและยังเป็นประเด็นคนให้ความสนใจมากที่สุดในเวลานี้ ว่าหลัง กกต.ประกาศรับรอง ส.ส. อย่างเป็นทางการแล้ว ระหว่างพลังประชารัฐและเพื่อไทย พรรคไหนจะสามารถรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล และเสียงข้างมากที่ได้ จะสร้างเสถียรภาพทางการเมืองได้หรือไม่


          แต่มีเสียงจากแหล่งข่าวความมั่นคงเอ่ยชวนนักข่าวเอาไว้ว่า พนันกันเอาไหม? พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี 1,000%

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ