คอลัมนิสต์

ทำไมพรรคเก่าแก่แพ้ "พลังลุงตู่" ราบคาบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... กระดานความคิด   โดย...  บางนา  บางปะกง


 

          นับแต่ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 ไม่มีความปราชัยครั้งใดที่จะยับเยินเท่าการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ปี 2522 ปชป.จะพ่ายหวิดสูญพันธุ์ในกรุงเทพฯ แต่ในต่างจังหวัด ปชป.ก็ยังได้ ส.ส.มาจำนวนมาก

 

 

          ต่างจากครั้งนี้ ปชป.สูญพันธุ์ในเมืองหลวง ภาคเหนือก็เหลือแค่ 1 ที่นั่ง ภาคอีสานได้มาแค่ 2 ที่นั่ง ภาคกลางก็ร่วงเกินครึ่งของอดีตส.ส.ปี 2554 รวมถึงภาคใต้ ถูกพรรคอื่นเจาะทั้งตอนล่างและตอนบน


          นพ.วรงค์ เดชกิจกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ที่สอบตกแบบเหลือเชื่อ ได้สรุปความพ่ายแพ้ของปชป.แบบตรงไปตรงมาว่า เป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ของพรรค


          “เราไม่ควรไปต่อสู้กับพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเราประเมินความผิดพลาดเป็นอย่างมาก” หมอวรงค์ หมายถึงคำขวัญเชิงยุทธศาสตร์ “ไม่เอาประยุทธ์” และคัดค้านการสืบทอดอำนาจ 


          ก่อนหน้านั้น “หมอวรงค์” ได้โพสต์ความเห็นลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “เรือที่ชื่อประชาธิปัตย์” โดยระบุว่ากัปตันท่านนี้ได้พิสูจน์ถึงความผิดพลาดครั้งใหญ่มากๆ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่อับปางน้ำรั่ว หรือผนังเรือพังเท่านั้น แต่เป็นการอับปางเกือบจะเหลือแต่ซาก


          กัปตันก็คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. “กัปตันและทีมแม้จะเอาชีวิตรอดมาได้ แต่ก็แลกกับชีวิตทางการเมืองของเพื่อนๆ หลายชีวิตมาก บนซากปรักหักพังนี้ ถึงเวลาจริงๆ แล้ว ที่พวกเราต้องไม่เกรงใจกัน ต้องเปลี่ยนทั้งวิธีคิด วิธีทำงานกันครั้งใหญ่”


          จริงหรือไม่? พรรค ปชป.พ่าย “กระแสลุงตู่” หมอวรงค์วิเคราะห์เกินจริงไปหรือไม่? ลองมาฟังคำตอบจากในสนามเลือกตั้ง


          สนามเลือกตั้งเพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ ชนะ “ยกจังหวัด” โดยกลุ่มอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่เคยเป็นขวัญใจคนเมืองเพชรมาตั้งปี 2550 ได้คะแนนต่ำกว่าเป้าเยอะ


          ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี ของ พปชร.ทั้ง 3 เขต ก็เป็นคนหน้าใหม่ แต่เดินหน้าหาเสียงโดยชู “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในช่วงสิบปีมานี้คนเพชรเป็นกองกำลังหลักในการต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นยุคพันธมิตรฯ หรือ กปปส.




          สมรภูมิภาคกลาง จะมีลักษณะใกล้เคียงกัน คะแนนที่หายไปจากพรรค ปชป. จะไปโผล่ที่พรรคพลังประชารัฐ เพราะผู้ที่เลือก ปชป. มองว่า “ลุงตู่” เป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และจะหักโค่นระบอบทักษิณได้


          ล่องใต้ไปที่นครศรีธรรมราช ฐานที่มั่นใหญ่ของพรรคเก่าแก่ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องสูญเสียเก้าอี้ ส.ส. 3 ที่นั่งให้แก่ค่าย พปชร. อย่างเขต 1 รงค์ บุญสวยขวัญ นักวิชาการภาควิชารัฐศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ เขต 2 สัณหพจน์ สุขศรีเมือง และเขต 7 สายัณห์ ยุติธรรม อดีตประธานสภา อบจ.นครศรีธรรมราช


          สภากาแฟเมืองคอนบอกว่าชัยชนะของพปชร.ใน 3 เขต ทำให้นิเวศทางการเมืองของนครศรีธรรมราช มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบกว่า 30 ปีที่ผ่านมา

 

          สนามสงขลาเป็นอีกพื้นที่หนึ่ง ปชป.ที่ชนะยกจังหวัดต้องสูญเสียให้พลังประชารัฐ 4 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง ส่วน ปชป.เหลือเพียง 3 ที่นั่ง (เขต 5, 6 และ 8)

 

          จุดชี้ขาดชัยของ พปชร.เมืองนครศรีธรรมราช และสงขลา ก็เป็นความชัดเจนในการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งมีจุดแข็งในการมีภาวะผู้นำสูง


          สัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง “อภิสิทธิ์” พร้อมคณะผู้บริหารพรรค ประเมินสถานการณ์ว่าพลังต้านการสืบทอดอำนาจมาแรง โดยเฉพาะในฐานที่มั่นภาคใต้และเมืองหลวง จึงตัดสินใจลั่นคำ “ไม่เอาประยุทธ์” 


          จะว่าไปแล้วเป็นการประเมินสถานการณ์โดยอัตวิสัยล้วนๆ ไม่ได้ยึดกุมสภาพที่เป็นจริง พลังที่หนุน “ลุงตู่” ก็คือกลุ่มคนที่ไม่เอาทุนสามานย์ ไม่เอาระบอบทักษิณ 

 

          ด้านหนึ่งเลือกตั้ง 2550 และ 2554 พรรค ปชป.ออกแคมเปญ “ต้านระบอบทักษิณ” จนส่งผลให้กระแสพรรคดียิ่งในภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ 

 

          แกนนำ ปชป.ยุคมาร์ค ประเมินกระแสรักลุงตู่ต่ำไป และสองวันสุดท้ายพรรคพลังประชารัฐเสนอคำขวัญทางยุทธวิธี “เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่” ผู้ที่เคยเทคะแนนให้ปชป. ก็เปลี่ยนใจทันที


          อดีตคนเสื้อเหลืองและกปปส.ไม่เคยไว้วางใจกลุ่มทุนสามานย์ทั้งในรูปแบบเก่าและใหม่ พวกเขามองว่าลุงตู่คือผู้นำที่จะต่อกรกับ “ทายาททุนสามานย์” ได้ จึงออกจากบ้านไปหย่อนบัตร เลือกคนดีมาปกครองบ้านเมือง 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ