คอลัมนิสต์

เปิดกลยุทธ์"วิรัช รัตนเศรษฐ" แม่ทัพน้อยอีสาน พปชร.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย... ณัฐภัทร พรหมแก้ว


 
 

          แกนนำกลุ่มนครชัยบุรินทร์  “วิรัช รัตนเศรษฐ” ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่รับผิดชอบพื้นที่นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และเลย ได้เปิด “บ้านรัตนเศรษฐ” ฐานบัญชาการเลือกตั้งครั้งนี้ ให้สัมภาษณ์พิเศษ “เครือเนชั่น” ในช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียงถึงสถานการณ์ในพื้นที่เมืองโคราช ที่หลายพรรคการเมืองต่างหมายมั่นปั้นมือหวังยึดเป็นเมืองหลวงให้ได้

 

 


          ขณะเดียวกันเลือกตั้งเที่ยวนี้สมาชิกใน “บ้านรัตนเศรษฐ” ต่างพาเหรดสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐกันพรึบพรับ โดย “วิรัช” ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 7 นางวลัยพร รัตนเศรษฐ น้องสาวแท้ๆ ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 29 นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชายคนเล็ก ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 35 นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ภรรยา เป็นผู้สมัคร ส.ส. เขต 7 นครราชสีมา นายอฐิรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชายคนโต ผู้สมัครส.ส. เขต 6 นครราชสีมา นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชายคนรอง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นครราชสีมา และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ น้องสาวภรรยานายวิรัช เป็นผู้สมัครส.ส. เขต 8 นครราชสีมา

 

          “วิรัช” ให้เหตุผลการมาร่วมชายคาเมื่อวันมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า “ได้สอบถามประชาชนว่ามีพรรคการเมืองใดที่ดูแลประชาชนชัดเจน เราจะอยู่ตรงนั้น วันนี้พรรคพลังประชารัฐดูแลชัดเจน”


          “วิรัช” เคยรับหน้าที่เลขานุการของ “บรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกฯ ผู้ล่วงลับ ได้เรียนรู้เคล็ดวิชามากมาย ผ่านการเป็นส.ส.มาหลายสมัย และเคยขึ้นถึงเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสมัยรัฐบาล "ชวน หลีกภัย" ครั้งสังกัดพรรคชาติไทย แต่ก็มีเหตุให้ต้องลาออกไป เนื่องจากเจอข้อครหา “โครงการผักสวนครัวรั้วกินได้" ด้วยการอนุมัติจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ผักแพงเกินจริงที่มอบให้ชาวบ้านนำไปปลูก


          ขณะที่ปัจจุบันยังมีกรณีถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ไต่สวนกรณีกล่าวหาความโปร่งใสโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลอีกด้วย

 

          “เรื่องนี้คงไม่เป็นปัญหาและต้องใช้เวลาอีกนาน ทุกคนต่างมีปัญหาหมด ไม่มีใครที่ไม่มี ผมไม่ได้กังวลอะไร และขอย้ำว่าการเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีเรื่องข้อแลกเปลี่ยนทางคดีในป.ป.ช.” วิรัช ชี้แจงเรื่องนี้ในวันสมัครสมาชิกพรรค

 


          หากในสนามเลือกตั้งเวลานี้บทบาทของ “วิรัช” เรียกว่าเป็น “แม่ทัพน้อยอีสาน” ของ “พลังประชารัฐ” ก็ไม่ผิด การเดินสายปราศรัยแทบทุกเวลาที เขาใช้ไม้เด็ดคือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่เขาให้ชื่อใหม่ว่า “บัตรลุงตู่” วิรัช พยายามตอกย้ำให้ชาวบ้านจดจำว่าของอุปโภคบริโภคที่ได้กินได้ใช้ก็เพราะบัตรใบนี้ หรือเพราะลุงตู่

 

          โดยเฉพาะกลยุทธ์หาเสียงโค้งสุดท้าย เขาบอกแค่ว่าต้องพยายามบอกกับประชาชนว่าสิ่งที่ชาวโคราชได้รับจากการดูแลของพล.อ.ประยุทธ์ ในหลายเรื่องเป็นอย่างไรเท่านั้น

เปิดกลยุทธ์"วิรัช รัตนเศรษฐ" แม่ทัพน้อยอีสาน พปชร.


          “คนโคราชชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะตั้งแต่มีนายกรัฐมนตรีมา ยังไม่เคยมีนายกฯ คนไหนมีผลงานเด่นชัดให้คนโคราชจับต้องได้เช่นนี้มาก่อน เห็นได้จากโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ และรัฐบาลนี้ยังได้อนุมัติรถไฟรางเบาวิ่งในเมืองโคราชอีกด้วย ตรงนี้ถือว่านครราชสีมาได้รับการดูแลอย่างจริงใจ เราต้องขอบคุณในฐานะตัวแทนพี่น้องประชาชน”


          พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นชาวโคราชด้วยนั้น มีผลกับความนิยมของพรรคมากน้อยแค่ไหนไม่รู้ แต่ที่ “วิรัช” สามารถพูดแทนคนโคราชได้ คือคนโคราชรู้สึกว่าใครที่ทำเพื่อบ้านเมืองคนโคราชสนับสนุน ขณะเดียวกันใครที่คิดเอาโคราชมาหลอกลวง คนโคราชจะลงโทษ 

 

          “ตลอดระยะเวลาที่ผมเป็นผู้แทนราษฎรมา 30 กว่าปี จนถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่ายังไม่มีนายกฯ คนไหนที่ดูแลประเทศไทย ให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกครัวเรือน ให้ทุกเดือนตรงเวลา ตรงนี้เป็นจุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถครองใจชาวบ้านได้” วิรัช กล่าวย้ำ


          แม้จะยอมรับว่าเป็นที่น่าเสียดายที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มาร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านพลาดโอกาสพบเจอแคนดิเดตนายกฯ ผู้นี้ แต่นั่นคงไม่มีผลกับกระแสความนิยมในพื้นที่ว่าจะดีหรือไม่ ซึ่งวิรัชระบุว่า เรื่องนี้ต้องบอกว่ากระแสดีขึ้นโดยระบบของมัน ถึง พล.อ.ประยุทธ์มา คนโคราชก็รัก ถึงไม่มาก็รัก จะยังไงก็รัก!!!


          ทั้งนี้ “นครราชสีมา” ถือเป็นจังหวัดใหญ่ มีถึง 14 เขตเลือกตั้ง “วิรัช” พูดจากความรู้สึกโดยตรงว่า “ผมอยากได้ทุกเขต แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าอาจจะขาดไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม กว่าพรรคอื่นจะชนะพลังประชารัฐ ก็ต้องบอกว่าลำบากจริงๆ ผมรู้ว่าทุกพรรคพยายามสุดความสามารถ แต่ในความพยายามนั้น เขาอาจแพ้เราบ้าง”


          นอกจากพื้นที่ “นครราชสีมา” แล้ว ยังมีพื้นที่รับผิดชอบอีก 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ-บุรีรัมย์-สุรินทร์ และเลย รวมกันทั้งหมดมี 38 เขตเลือกตั้ง ผู้สมัครของพรรคทุกคนพร้อมที่จะดูแลพี่น้องประชาชน ด้วยนโยบายที่ออกมาสามารถดูแลได้มากกว่าทุกพรรค อย่ามาใช้วาทกรรมเศรษฐกิจแย่ ความจริงมันไม่ได้แย่ ดังนั้นการที่ตั้งเป้ากวาด ส.ส. ให้ได้มากกว่าครึ่งจากทั้งหมด 38 เขตนั้น วันนี้ยังไม่รู้จะมากหรือน้อยกว่าที่คิดไว้

 


          “คนที่จะมาสร้างอีสาน มาดูแลพี่น้องชาวอีสาน นาทีนี้จากประสบการณ์ที่เป็นผู้แทนฯ มา 30 กว่าปี ไม่มีใครดีเท่า พล.อ.ประยุทธ์ ขอยืนยัน วันนี้จะใช้คำนี้ก็คงไม่ผิดว่า คนโคราชมีขวัญใจคนใหม่แล้ว คือ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะท่านทุ่มเทในการพัฒนานครราชสีมามากกว่าทุกๆ นายกรัฐมนตรีที่เคยมีมา”

 


          ส่วนเมื่อเปรียบเทียบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มีผลงานและคะแนนนิยมในภาคอีสาน ทาง “แม่ทัพน้อยอีสาน” ของพปชร. ตอบทันทีว่า “แน่นอน ผมกล้ายืนยันได้เลยว่ายังไม่มีโครงการไหนเลยที่นายทักษิณทำให้คนโคราชที่เห็นชัดเหมือนพล.อ.ประยุทธ์”


          “ส่วนใครจะบอกว่าท่านเป็นเผด็จการ ผมยืนยันได้เลยว่า วันนี้ท่านสืบทอดเจตนารมณ์เรื่องเดียวคือ ทำให้บ้านเมืองสงบ ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย นี่ถือว่าดีที่สุด แต่ถ้าเลือกคนอื่นผมไม่กล้าการันตีว่าอะไรจะเกิดขึ้น และพรรคพลังประชารัฐไม่ได้สืบทอดอำนาจจากใคร แต่สืบทอดความสงบเรียบร้อย”


          ดังนั้นงานสำคัญของ “วิรัช” และครอบครัว “รัตนเศรษฐ” เที่ยวนี้จะเป็นไปตามเป้ามากน้อยแค่ไหน จะได้รับการปูนบำเหน็จจากผู้ใหญ่ที่คอยแบ็กอัพอย่างเต็มที่ ด้วยการตอบแทนในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใด ทุกอย่างจะปรากฏหลังวันหย่อนบัตร 24 มีนาคม 2562

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ