คอลัมนิสต์

หลังหย่อนบัตร เมืองไทยไปทางไหน?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... จี้จุดตาย..คลายจุดเป็น โดย... เร้นกาย ไร้เงา


 

          ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 51,427,890 คน คือผู้กำหนดเส้นทางประชาธิปไตยของไทย เเละไม่กี่อึดใจข้างหน้าคนไทยส่วนใหญ่จะได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเเล้ว หลังจากมีการเลือกตั้งในต่างประเทศเเละเลือกตั้งล่วงหน้าไปเเล้ว

 

 

          โดยบรรยากาศในช่วงที่ผ่านมาเเม้จะมีอะไร “พิลึกๆ” ออกมาเเบบไม่น่าจะเกิดขึ้นหลายกรณี เเต่สิ่งหนึ่งที่ควรจดจำ คือ ความตื่นตัวที่น่าประทับใจของคนไทยที่มีมากกว่าการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านๆ มา เเละหวังใจว่าผู้ที่อาสามาทำงานการเมืองคราวนี้ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเเละเหมาะกับการไว้วางใจของคนไทย


          วันอาทิตย์นี้ตั้งเเต่เเปดโมงเช้ายันห้าโมงเย็น หน่วยเลือกตั้ง 92,336 หน่วยจะรองรับคนไทยที่จะออกไปเเสดงเจตจำนง


          ขอเพียงว่า...อย่าให้สิ่งนอกเหนือความคาดหมายบังเกิดขึ้นตามการคาดการณ์ของคนวงในการเมืองบางคนที่จับจ้องจังหวะนี้อยู่....


          เนื่องจากคนวงในการเมืองบางคนสะท้อนมุมมองที่น่าไตร่ตรองว่า เลือกตั้งครั้งนี้เสมือน “การเผาหลอก” เพราะมีเเนวโน้มความวุ่นวายหลากปัจจัยที่อาจเเป็นชนวน "เลือกตั้งโมฆะ” หลังการหย่อนบัตรยุติเเละทราบผลคะเเนนเบื้องต้นว่าใครเเละพรรคใดได้รับการชูมือจากประชาชน


          มีการประเมินเบื้องต้นของคนวงในหลายพรรคเเล้วว่าเเนวโน้มเลือกตั้งคราวนี้จะฟาวล์ จะมาจากหลายปัจจัยจนโอกาสเลือกตั้งใหม่มีสูง ทราบว่าที่ผ่านมาบางพรรคลดหรือระงับน้ำเลี้ยงให้ผู้สมัครส.ส. เเม้บางพรรคยังเดินหน้าก็ตาม


          เลือกตั้งครั้งนี้พ่วงทีเดียวสามนัย ทั้งการมี ส.ส. โอกาสการตั้งรัฐบาลเเละว่าที่นายกฯ ที่ผ่านมา เมื่อผลคะเเนนออกมาเบื้องต้นก็รู้สูตรเลยว่าการเมืองไทยจะไปเเบบใด เเต่ตอนนี้มองสูตรตั้งรัฐบาลลำบาก เพราะอันดับหนึ่งคราวนี้ไม่พ้นพรรคเพื่อไทย เเต่หากไม่มีพรรคอันดับสองหรือพรรคอันดับสามจับมือกับเพื่อไทยตั้งรัฐบาล จะตั้งรัฐบาลยาก เเม้เพื่อไทยจะมีพรรคเครือข่ายไม่เอาการสืบทอดอำนาจมาร่วมก็ตาม เเต่คะเเนนเสียงโดยรวมเเล้วหากไม่มีพรรคอันดับสองหรืออันดับสามมาร่วมเพื่อไทยเเละพรรคเเนวร่วมน่าจะทะลุสามร้อยส.ส.ยาก




          ประชาธิปัตย์วันนี้ไม่เอาทั้งระบอบทักษิณเเละการสืบทอดอำนาจของคสช.เหมือนอ่านเกมออกว่า อย่างไรเสียอันดับหนึ่งเเละอันดับสามต้องมาเจรจาด้วย เพราะตัวเเปรคืออันดับสอง เเละปชป.น่าจะมองว่าอันดับสามเบียดขึ้นมาตรงนี้ยาก ตอนนี้ปชป.ทำอย่างเดียวคือเก็บส.ส.เขตให้มากที่สุดเเละรอเวลา เพราะธรรมเนียมปฏิบัตินั้น ต้องรออันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลก่อน หากไม่ได้อันดับสองจะรับสิทธิ์ หากอันดับสามมีการขยับรับรองปชป.ออกมาถล่มเเน่


          พลังประชารัฐตอนนี้อยู่อันดับสาม เเม้จะพยายามเร่งเครื่องเข้าป้ายอันดับสองให้ได้ เเต่เวลาที่เหลือนี้ต้องดูว่าจะทะลุไปอันดับสองด้วยส.ส.กี่คนเเละจะใช้วิธีใด ตอนนี้คนวงในรับรู้กันเเล้ว เพียงเเต่รอดูว่าผลจะสัมฤทธิ์เเค่ไหน


          ส่วนพรรคอื่นๆ ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบ ขั้วไม่เอาบิ๊กตู่ เเน่นอนไปร่วมกับเพื่อไทย ส่วนพรรคขนาดกลางไปทางไหนก็ได้ เเละพรรคหนุนบิ๊กตู่ไปจับมือกับพปชร.เเน่นอน ตรงนี้ต้องรอดูว่าพรรคเหล่านี้จะมีส.ส.กี่คน


          เเละรอดูว่าบางพรรคอาจเจอเเจ็กพอตเหมือนพรรคที่เพิ่งโดนยุบไปในไม่ช้านี้


          ตรงนี้จะเป็นอีกตัวเเปรที่จะส่งผลการคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เเละอาจส่อเค้าให้คนที่เลือกพรรคนี้ไม่พอใจเเละอาจออกมาเคลื่อนไหวข้างนอก รวมทั้งการเเสดงออกในโลกออนไลน์ที่น่าจะเข้มข้น


          คนวงในมองกันไปอีกสถานการณ์หนึ่งเเล้วว่า “หากการรับรองผลส.ส.ที่น่าจะออกมาหลังช่วงกลางเดือนพฤษภาคมไปเเล้ว หากวุ่นวาย รับรองเลือกตั้งใหม่ชัวร์ เเละรอดูว่าใครคือเเพะ”


          ส่วนการดูเเลความเรียบร้อยนั้น คนในเเวดวงท็อปบู๊ทที่เกาะติดเเละวิเคราะห์การเมืองกำลังถอดรหัสว่า “การเมืองไทยหลังการหย่อนบัตรจะเดินไปในเเนวทางใด...” โดยยกสมมุติฐานจากการเลือกตั้งในประเทศเพื่อนบ้านมาเทียบเคียงว่าหลังการหย่อนบัตรในวันอาทิตย์นี้เมืองไทยจะเดินไปในเเนวทางใดของทางสองเเพร่ง

 

          “การเลือกตั้งในเเดนเสือเหลืองที่มหาธีร์ มูฮัมหมัด กลับมาชนะลูกศิษย์ "นาจิบ ราซัก” เมื่อปีที่เเล้วโดยคนรุ่นใหม่มาเลเซียเป็นตัวเเปรหลักที่ทำให้เกิดภาวะนี้ขึ้น”

 

          “เเละเหตุการณ์ 8888 เเห่งลุ่มน้ำอิรวดีเมื่อกว่าสามสิบปีที่เเล้วซึ่งชาวพม่าออกเรียกร้องการใช้สิทธิ์เลือกตั้งเเละทวงคืนประชาธิปไตยจนเกิดเหตุที่มิน่าจดจำ...”

 

          คำตอบที่พอเจาะมาได้คือ “หลังเลือกตั้งเเนวโน้มหากไม่วุ่นวายเหมือนการเลือกตั้งเเดนเสือเหลือง ส่วนผลเลือกตั้งจะเหมือนกันหรือไม่นั้น หากมีการยอมรับผลการเลือกตั้งเเบบมาเลย์ มันก็น่าจะดี หากไม่มีการยอมรับ หรือมีปัญหาเกิดขึ้น จนเกิดการเคลื่อนไหวของหลากฝ่าย สถานการณ์ตรงนี้อาจลุกลามไปเหมือนพม่า...”
เมื่อฟังการประเมินสถานการณ์เเละความเป็นไปได้นั้น ภาวนาอย่างเดียวว่าเลือกตั้งครั้งนี้เมืองไทยอย่าเดินย้ำรอยประวัติศาสตร์ด้านมืดของเพื่อนบ้านที่เป็นตราบาปหนึ่งของประชาธิปไตยโลกที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีที่เเล้วเลย


          เราควรมีด้านสวยงามของประชาธิปไตยที่สร้างด้วยมือคนไทยไว้บันทึกให้ลูกหลานจดจำน่าจะดีกว่า....

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ