เกมขั้วที่ 3 ของพี่มาร์คงวดนี้ จะออกหัวออกก้อย หรือ มะลิลาเป็นมะลิซ้อนเรามารอดูกัน
“มาร์คเป็นตัวของตัวเอง มาร์คผิดตรงไหน” ไม่ใช่โฆษณาแว่นแถมนาฬิกา แต่เป็นลีลาเที่ยวล่าของคนรูปหล่อ “มาร์ค"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กับจุดยืน “สองไม่เอา ตู่-แม้ว" คือนอกจากไม่เอาขั้วเครือข่าย “อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร” ตามอุดมการณ์เดิมแล้ว ที่เพิ่มเติมคือไม่ร่วมแผนหนุน “บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้งอีกด้วย
ที่สุดสถาปนาค่ายพระแม่ธรณีเป็น “ขั้วที่ 3” ในสนามรบเลือกตั้ง จากที่เคยเจอกระแส “เอาให้ชัด” วันนี้เลยชัดยิ่งกว่าชัดเสียอีก เมื่อทุกอย่างออกมาเป็นมติพรรคว่า “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต”
กลยุทธ์นี้ของหัวหน้ามาร์คจะไม่ปรบมือก็คงไม่ได้เพราะหันไปดูอีก 2 ขั้ว ก็ทำเอากระเทือนไปเหมือนกัน
คสช.โนแคร์?
ที่จริงคนไทยรู้จักสไตล์นายกฯ ลุงตู่ กันดีว่าถ้าลองไปถามเรื่องนี้ปฏิกิริยาจะออกมาแบบ “ไม่สน ไม่แคร์” อย่างที่เห็น เอาเวลาไปปรับภาพลักษณ์เป็น “โอปป้าตู่” ดีกว่า
แต่ถ้าไปจับอาการของคนอื่นๆ ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขั้วการเมืองที่่ประกาศหนุนบิ๊กตู่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้น ก็ดุเด็ดเผ็ดจัด!
อย่าง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ผู้ที่รู้กันดีว่าเป็นกุนซือใหญ่แห่งค่ายพลังประชารัฐ จากที่คนไทยไม่ค่อยได้เห็นออกลีลาอะไรมากนักทางการเมือง
แต่ในการสัมมนาผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ เมื่อ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ดร.สมคิด ถึงกับหัวร้อนออกมาเฉ่งถึงเกมครั้งนี้ของพี่มาร์คว่าทำให้การลงทุนที่รอดูอยู่ต้องชะงักงัน
เพราะหลายคนหวังว่าหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นคาดว่าจะเป็นรัฐบาลผสม แต่การแสดงจุดยืนนี้ทำให้เกิดความสับสน ที่สำคัญหากตั้งรัฐบาลไม่ได้ขึ้นมา การเมืองก็อาจถึงทางตันเข้าจนได้
ก็ไม่รู้ทางตันของใคร แต่ที่แน่ๆ เจ้าของขั้วที่ 3 ออกมาระบุทันทีที่ประกาศตัวชัดว่าไม่หนุน “บิ๊กตู่” ทำไมตลาดหุ้นขึ้นติดๆ กัน 2 วัน แต่คำพูดของ ดร.สมคิด ที่บอก “ถ้าไม่ให้เลือกตั้งก็ได้” จะสับสนมากกว่ามั้ง!
อย่างไรก็ดีภาพที่ว่าเดือดของสองคู่ชกคู่นี้ หลายคนมองออกว่าอาจเป็นเพียงฉากหนึ่งของละครการเมืองของคนหน้าหล่อ เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง ก่อนที่ภายหลังจะมาเกาะขอบโต๊ะพูดจาพาทีร่วมรัฐบาลผสมก็เป็นได้ ใครจะรู้
ดังความเห็นของ สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ที่ออกมาระบุว่าการประกาศเทบิ๊กตู่ของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่าเป็นการสืบทอดอำนาจนั้น เป็นเพียงวาทกรรมคำหล่อในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งเท่านั้น แถมยังสะท้อนความใจแคบของผู้พูดอีกด้วย
ก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่ที่แน่ๆ ไม่ต้องให้ใครมาชี้นำ เราคนไทยเห็นกันแล้วว่าคะแนนนิยมในฐานเสียงถิ่นสะตอ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เทไปทางพรรคอนาคตใหม่ จากโพลล์ของ “มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” ล่าสุด
งานนี้ถ้าพี่มาร์คไม่ทำอะไรให้ชัดๆ จะแจ้ง วัยโจ๋เขาไม่ชอบ ดังนั้นถ้าประกาศไม่เอาแม้วแล้วได้ใจคนใต้กลุ่มเดิมมาแล้วหนึ่งกระบุง ก็ต้องประกาศไม่เอาลุงเพิ่มเข้าไปอีก เพื่อคะแนนจากคนใต้รุ่นใหม่
อย่างว่าวันนี้ทุกอย่างมันชัดเจนแล้วว่าคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่เอาขั้วเดิมแน่ๆ งั้น ปชป. ขอเป็นทางเลือกที่เธอฝันก็แล้วกัน
เพื่อไทยโนเวย์?
หันไปดู “ขั้ว 2” พรรคเพื่อไทย งานนี้ชัดเจนว่า “ไม่โอเคและโนเวย์สเตชั่น” แต่ไม่ใช่เพราะไม่เอาทักษิณ เพราะเรื่องนี้รู้กันอยู่แล้วว่ายังไงเส้นทางสองพรรคนี้จะร่วมกันคงยาก
แต่น่าจะเป็นอาการหมั่นไส้ที่พรรคประชาธิปัตย์มาขโมยซีนตาใสเอาช่วงนี้มากกว่า แต่อะไรจะแรงเท่ากับที่คนเพื่อไทยล้วน “รู้ทัน” ในลีลาหล่อเนียนของหัวหน้ามาร์ค เพราะหากดูคำพูดของเขาวันแถลงจุดยืนที่ระบุไว้นั้น ฟังแล้วยังต้องพยามแปลไทยเป็นไทยอีกที เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดพรรคพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์จะอยู่ในส่วนไหน
คำตอบมีว่า “ผมไม่สนับสนุนคนโกงและไม่สนับสนุนเผด็จการ จะขอเป็นฝ่ายค้าน ไม่เป็นพรรคร่วม พรรคจะทำตามจุดยืน ใครรวมเสียงข้างมากได้ ตามหลักสากล ต่อให้พรรคที่ 1 ก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากต้องร่วมงานกับพรรคใดก็ตาม ทางพรรคประชาธิปัตย์ขอเวลาทบทวนและยืนยันต้องเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล และเดินตามนโยบายของพรรคเท่านั้น”
ดังนั้นลีลาของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สองแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย จึงออกมาระบุตรงกันโดยไม่ได้นัดหมายว่า ที่บอกไม่หนุนลุงตู่เป็นนายกฯ เพราะจะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เมื่อเปิดมาแบบนี้คุณหญิงหน่อยก็แสดงจุดยืนทันทีว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์เด็ดขาดเหมือนกัน!!
ในขณะที่ วัฒนา เมืองสุข ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางแค พรรคเพื่อไทย ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่างานนี้ฝ่ายพี่มาร์คน่าจะกำลังเล่นลิเกทางการเมือง หากหัวหน้าและพรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นกับประชาธิปไตยสุจริตอย่างที่ปากว่าโดยตาไม่ขยิบ ไม่มีเหตุผลใดที่จะร่วมสังฆกรรมกับพรรคที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจทุกรูปแบบ ประชาธิปไตยสุจริตไม่ได้เกิดขึ้นด้วยลมปาก แต่ต้องเริ่มจากสุจริตต่ออำนาจประชาชน
งานนี้ใครจะว่าอะไรก็ว่าไป เหลืออีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ผู้เพิ่งขอเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของคนไทย เวลานี้ก็ต้องเก็บปากเก็บคำ เก็บแต้มโกยคะแนนหลังเลือกตั้งดีกว่า
ถึงตอนนั้นจะออกลีลาหล่อแบบไหน รอดูกันอีกที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง