คอลัมนิสต์

เพราะ'ซองขาว(สินบน)'เป็นต้นเหตุ!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  สายตรวจระวังภัย  โดย...   ทีมข่าวอาชญากรรม

 


          การจัดระเบียบสังคมของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการกวาดล้างปราบปรามอบายมุข สิ่งผิดกฎหมายต่างๆ นั่นก็เพราะอยากให้สังคมเกิดความสงบสุข ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมีความปลอดภัย เพราะอบายมุขเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา แต่การจัดระเบียบปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ไป “ขัดขา” บรรดาธุรกิจสีเทา เพื่อให้อยู่รอด กอบโกยผลประโยชน์ ไม่โดนตรวจสอบจับกุม จึงยอมจ่ายเงินเล็กน้อยแลกกับการให้เจ้าหน้าที่ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ส่วย” หรือ “สินบน”

 


          สถานบริการ หรือสถานบันเทิงยามค่ำคืน อาจเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจสีเทา นั่นเพราะเป็นเสมือนหนึ่งแหล่งมั่วสุม ละเมิดกฎกติกาทางกฎหมาย หลายที่ปล่อยให้เด็กเยาวชนอายุต่ำว่า 20 ปี เข้าไปรื่นเริง หลายแห่งเป็นจุดรวมพลปาร์ตี้ยาเสพติด หลายร้านลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต บางที่ค้าประเวณีเข้าข่ายค้ามนุษย์ และอีกจำนวนไม่น้อยเปิดเกินเวลาก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรืออยู่ใกล้สถานศึกษา แต่ผลการดำเนินการของหน่วยงานรัฐ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือกรมการปกครอง จะปรากฏชัดว่าความผิดที่ร่ายมาส่วนใหญ่มีอยู่ในทุกร้านทุกสถานที่ที่เข้าตรวจสอบแทบทั้งสิ้น จึงไม่แปลกที่ธุรกิจประเภทนี้จะจ่ายส่วยให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


          ล่าสุดเป็นควันหลงวันวาเลนไทน์ เมื่อมีปลัดหนุ่มรายหนึ่งใน จ.นครปฐม สุดทนกับ “ซองขาว” ซึ่งมีสถานบันเทิงนำมาวางไว้ที่โต๊ะทำงาน โดยได้รับการเปิดเผยทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง” ที่ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวน่าชื่นชมของปลัดอำเภอนายหนึ่ง หลังเจ้าของสถานบริการได้นำซองขาวมาวางไว้ถึงโต๊ะทำงาน เพื่อคาดหวังติดสินบน พร้อมจ่าหน้าซองอีกว่ามาจากร้านไหน แต่เมื่อปลัดคนดังกล่าวเห็นจึงได้นำซองไปคืนเจ้าของร้านในช่วงค่ำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งผลลัพธ์สวนทางกับเจตนาของเจ้าของร้าน เนื่องจากพบว่าสถานบริการดังกล่าวได้ปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการ จึงได้ดำเนินการจับกุมเจ้าของร้านในทันที และควบคุมตัวไปทำบันทึกการจับกุมยังที่ว่าการอำเภอ จากนั้นได้มีการเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งปิด 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 22/2558


          ทั้งนี้ทั้งนั้น “ปลัดตรงฉิน” เขียนระบายในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "เหตุเกิดเพราะซองขาวหนึ่งซอง ไม่ทราบจะเริ่มอย่างไร แต่ผมสุดจะทน ตอนเช้าผมขึ้นมาทำงาน เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลยาเสพติดแจ้งว่า มีสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการแห่งหนึ่งฝากซองไว้ให้ เดี๋ยวนะ ทำไมต้องเอามาให้ ให้เพราะอะไร เพื่ออะไร ไม่ว่ากัน คืนนี้ผมเลยเอาซองไปคืนทางร้านตามที่จ่าหน้าซอง ผลการปฏิบัติพบบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปดื่มสุรา เข้าไปใช้บริการ จำนวน 15 ราย จึงได้ควบคุมผู้ดูแลร้านส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ซึ่งตั้งแต่มีคำสั่ง คสช. 22/2558 ทั้งจังหวัดปิดสถานประกอบการไปแล้ว 13 แห่ง เป็นสถานประกอบการในเขตอำเภอผม 8 แห่ง ผมเชื่อว่าการปฏิบัติงานของผมไม่ได้ปล่อยปละละเลย อาจจะมีคนมองว่าผมคุยกับผู้ประกอบการไม่รู้เรื่อง ซึ่งการที่ผมไปเตือนเขาว่าอย่าปล่อยเด็กเข้านะ ไม่ได้หมายความว่าผมอยากได้ปัจจัยจากเขา


          ผมไม่ทราบว่าในซองมีอะไร และไม่ได้เปิดดู รู้แต่ผมไม่อยากรับและต้องเอาไปคืน ขอบคุณผอ.และทีมเจ้าหน้าที่สถานพินิจ ศอ.กต. คสช. กรมพินิจฯ พี่ๆ ทหาร พี่ๆ ตำรวจ ท่านปลัดหัวหน้าฝ่ายทะเบียน ผู้ใหญ่บ้าน ท่านผู้ช่วย พี่อส.ที่ไปกับผม ขอบคุณครับ"


          หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของปลัดอำเภอนายนี้เป็นอย่างมาก แต่ต้องขอปิดบังใบหน้า ชื่อสกุล สถานที่ทำงานของปลัดเที่ยงตรงคนนี้ เพราะอาจจะทำให้กระทบต่อการปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ถึงกระนั้นยังก็มีการตั้งคำถามว่า ซองขาวมาวางไว้ที่โต๊ะปลัดได้อย่างไร ถ้าไม่มีคนในสมรู้ร่วมคิด


          สิ่งที่ปลัดนายนี้ทำสมควรได้รับการยกย่อง และเป็นแบบอย่างของข้าราชการที่ดี เพราะอย่าลืมว่าของแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง คนจ่ายส่วยมีแน่ แต่คนไม่รับส่วยจะมีแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า..!?

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ