คอลัมนิสต์

เพิ่มด่านสกัดปืน..สแกนพื้นที่'แดงฮาร์ดคอร์'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  สายตรวจเลือกตั้ง  โดย... มณเฑียร อินทะเกตุ 

 

 

          ความวุ่นวายการเมืองไทยในห้วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เหมือนดั่ง “กีฬาสี” แต่ที่ต่างออกไปคือไม่มีน้ำใจนักกีฬา เกิด “ม็อบ” ฝ่ายต้านและฝั่งเชียร์ในรูปแบบสีเสื้อ “เหลือง-แดง” การชุมนุมที่เกิดขึ้นไม่ได้สงบและปราศจากอาวุธอย่างที่ควรจะเป็น สถานการณ์ทางการเมืองบีบให้คนไทยเลือกฝั่งแบ่งฝ่าย คนเห็นต่างกลายเป็นศัตรู กระทั่งมีการเผชิญหน้า ปะทะห้ำหั่นจนเลือดตกยางออก ไม่ว่าจะเป็น “ม็อบชนม็อบ” หรือแม้แต่การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลให้ความเห็นต่างทางประชาธิปไตยมีผู้คนบาดเจ็บสูญเสียไปไม่ใช่น้อย จนนำมาซึ่งการ “ปฏิวัติรัฐประหาร” 

 

 

          การปฏิวัติ 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 8 ปี เกิดขึ้นในยุคที่มีผู้นำรัฐบาลเป็นสองศรีพี่น้องตระกูล “ชินวัตร” โดยปี 2549 “รัฐบาลทักษิณ” และปี 2557 “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” แต่ก็ไม่วายกับเรื่องไม่เอา “เผด็จการ” ทวงคืนประชาธิปไตย เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งจากกลุ่มคนหลายฝ่าย ซึ่งก็สมใจ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” สักที ที่จะได้ใช้สิทธิ์ออกเสียงในวันที่ 24 มีนาคม นี้ เป็นการขยับสู่โค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง เพราะถ้านับถอยหลังจะเหลือเวลาอีก 33 วัน ที่พรรคเล็ก พรรคใหญ่ พรรคหน้าใหม่ผลโพลล์ดีลงพื้นที่ชูนโยบายเรียกคะแนนเสียง ชนิดที่เรียกว่าเข้มข้นและดุเดือด

 


          สิ่งหนึ่งที่ต้องเข้มข้นไม่แพ้การหาเสียงของพรรคการเมืองและผู้สมัคร ส.ส. ก็คงไม่พ้น “งานความมั่นคง” โดยเฉพาะตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมาย เป็นเจ้าพนักงานที่ต้องสืบสวนสอบสวน เฝ้าระวัง รักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประสานและร้องขอมา รวมถึงเป็นหน้าที่โดยตรง นับตั้งแต่วันที่มีการ “ปลดล็อกทางการเมือง” ตลอดจนช่วงหาเสียง กระทั่งสิ้นสุดกระบวนการการเลือกตั้ง

 

          พื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) มีหลายจังหวัดที่เป็นฐานที่มั่นของแกนนำ “แดงฮาร์ดคอร์” อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ฯลฯ หลายสิบชีวิตตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาร้ายแรง หลายคนลี้ภัยไปอยู่ต่างแดน และยังไม่ทราบชะตากรรมก็มี โดยเฉพาะในรายของ “โกตี๋” นายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หัวโจกแดงฮาร์ดคอร์เมืองปทุม และในช่วงหลายปีที่มีการ “ป่วนเมือง” โดยเสียงระเบิดตามสถานที่ต่างๆ หลายครั้งถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ รวมถึงการจับกุมยึดอาวุธสงคราม เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด “ไปป์บอมบ์” ก็เกิดขึ้นในพื้นที่ สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี ฉะนั้นตำรวจจึงต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 





          เกี่ยวกับข้อกังวลเหล่านี้ “บิ๊กแซ็ก” พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ในฐานะแม่ทัพตำรวจภาค 1 ระบุว่า จากรายงานล่าสุดยังไม่พบว่ามีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวในการก่อความวุ่นวาย หรือสร้างสถานการณ์ทางการเมือง แต่ได้สั่งการให้เฝ้าระวังทุกจุด โดยให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่อง และมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม จับกุมคดีค้างเก่า อาวุธปืนและยาเสพติด เพื่อตัดวงจรไม่ให้มีการก่อเหตุในช่วงการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังได้ตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งได้มีการประชุมสรุปสถานการณ์ วางแผนรับมือ รวมทั้งการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเป็นระยะ และสั่งให้เพิ่มด่านความมั่นคงสำหรับกวดขันอาวุธปืนให้มากและถี่ขึ้นกว่าปกติ


          “เรื่องรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้ปฏิบัติตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเฝ้าระวัง จัดกำลังให้พร้อมในพื้นที่ สืบสวนหาข่าวอยู่เสมอ ซึ่งปกติก็เฝ้าระวังอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ช่วงเลือกตั้ง โดยเฉพาะงานด้านความมั่นคง เราได้ประสานงานกับทางสันติบาล ทหาร และ สมช.อยู่เป็นประจำ ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ต้องมีการอบรมให้ความรู้เรื่องกฎหมายเลือกตั้งใหม่ให้แก่กำลังพล เพื่อนำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง วางตัวเป็นกลาง รวมถึงให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ด้วย และดึงประชาชนมามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส” พล.ต.ท.อำพล กล่าวย้ำ


          เลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องของประชาธิปไตย โดย “บิ๊กแซ็ก” บอกถึงประเด็นนี้ว่า ตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย จึงต้องเรียกร้องไม่ให้มีการละเมิดกฎ ไม่ใส่ร้ายป้ายสี ไม่ทำลายป้ายหาเสียง ควรแข่งขัน เชียร์คนที่รัก พรรคที่ใช่อย่างสร้างสรรค์ ควรร่วมมือกันเดินไปข้างหน้า ถ้าอยากเป็นประชาธิปไตย ก็ช่วยกันออกมาใช้สิทธิ์ให้เยอะๆ ไม่ใช่เรียกร้องอยากเลือกตั้ง พอถึงวันกลับเลือกวิธี “นอนหลับทับสิทธิ์” ก็ไม่ถูกต้อง แม้จะไม่ผิดกฎหมายก็ตาม ส่วนกำลังพลจะเชียร์ใครเลือกพรรคไหน ก็เป็นสิทธิเสรีภาพ ก้าวก่ายไม่ได้ ส่วนการพกปืนถ้าไม่มีเหตุอันควรก็ไม่ควรพก เพราะส่อเจตนาไม่ดีตั้งแต่ต้น ตัวเองเป็น ผบช.ภ.1 แท้ๆ ถ้าไม่มีภารกิจปฏิบัติการพิเศษก็ไม่พกเลย


          แม้การข่าวยังไม่พบความเคลื่อนไหว แต่ต้องจับตาดูว่าตั้งแต่บัดนี้จนเสร็จสิ้นกระบวนการเลือกตั้ง ตำรวจภาค 1 จะควบคุมพื้นที่ที่ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นฐานหัวโจก “แดงฮาร์ดคอร์” ได้อยู่หมัดหรือไม่ การเลือกตั้งจะราบรื่นดังที่หลายฝ่ายตั้งเป้าไว้หรือเปล่า..!?

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ