คอลัมนิสต์

โอกาสสุดท้าย ของ "บิ๊กตู่"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

(อินไซต์การเมือง) โอกาสสุดท้าย ของ "บิ๊กตู่"

 

                 เหลือเวลาอีกวันเดียว “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ และหัวหน้า คสช.ต้อง “เปิด” ออกมาแล้วว่าจะเอาอย่างไรกับอนาคตของตัวเอง แม้ในความเป็นจริงน่าจะมีคำตอบอยู่ในใจมานานแล้ว

                 ตามกำหนดเวลาหลังจากพรรคพลังประชารัฐส่งเทียบเชิญไปเป็นนายกฯในบัญชีพรรคแล้ว “บิ๊กตู่” จะต้องตัดสินใจอย่างช้าที่สุดคือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐสามารถไปยื่นบัญชีนายกฯต่อ กกต.ได้ทันก่อนที่จะปิดรับสมัคร ส.ส.ในวันเดียวกัน

                 ดูจากสถานการณ์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันแรกที่ “บิ๊กตู่” เข้ามาในฐานะหัวหน้า คสช. จนเพิ่มอีกบทบาทในฐานะ นายกฯ คนที่ 29 ของไทย จนมาถึงวันนี้ต้องบอกว่าคะแนนนิยมและเครดิตในตัวอดีตผู้บัญชาการกองทัพบกคนนี้ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ

                 ด้วยระยะเวลาที่เคยบอกว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน” กลายเป็นอยู่นานกว่าที่คาด นานกว่าอายุรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งปกติที่มีอายุ 4 ปี บวกกับ “พฤติการณ์” ของรัฐบาลที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเจตนาที่จะยื้อเวลาการอยู่ในอำนาจไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากการใช้ “อภินิหารกฎหมาย” เลื่อนเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เครดิตของ พล.อ.ประยุทธ์ ตกลงไป

                 ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ชาวบ้านทั่วประเทศรู้สึกว่าขัดสน ขณะที่รัฐบาลถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มนายทุน เป็นอีกปัจจัย

                 ด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้นรอบด้าน ทำให้หลายครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถเก็บอารมณ์เกรี้ยวกราดของตัวเองเอาไว้ได้ หลุดคำที่ไม่เหมาะสมออกมานับครั้งไม่ถ้วน ก็เป็นอีกส่วน

                 ตัวอย่างเช่น

                 29 มกราคม 2558 ระหว่างให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่กระทรวงเกษตร ซึ่งนักข่าวถามถึงกรณีที่ คสช. ทยอยเรียกนักการเมืองเข้ามารายงานตัว ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มมีอารมณ์ และพูดว่า “ผมไม่ได้เป็นพวกบ้าอำนาจ ไม่เข้าใจกันสักที หาเรื่องกันอยู่นั่น... เมื่อวานทีนึงแล้ว โมโห ไอ้คนถ่ายรูป ถ่ายได้อย่างไร ผมก็ทำนิ้วของผมไปเรื่อย ไอ้ห่า ถ่ายออกมาว่าผมชี้นิ้วอย่างนั้นอย่างนี้ เนี่ยที่เขาเรียกว่าว่าจิตใจมันต่ำไง ด่าซะที ไม่กลัวหรอก ด่าแบบนี้ จะทำไม”

 

โอกาสสุดท้าย ของ "บิ๊กตู่"

(ดูคลิป คลิกที่นี่)

 

                 การให้สัมภาษณ์ของนายกฯในวันนั้นเป็นไปอย่างดุเดือดและมีคำสบถหลายคำทั้ง ไอ้บ้า ขี้ข้า พร้อมน้ำเสียงสีหน้าที่แสดงความไม่พอใจแทบตลอดเวลา แต่ก็พยายามบอกว่าที่เสียงดังไม่ได้โมโห

                 12 มกราคม 2559 ระหว่างการแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ หลังจากถูกถามอยู่พักหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าอารมณ์ไม่ดีแล้ว “1.ท่านบอกให้ผมไปทำถนน 2.ท่านบอกประโยชน์น้อย 3.ใช้งบประมาณเปลือง แล้วจะให้กูทำยังไงวะ ปัดโธ่ กระทรวงมหาดไทยจะทำถนนเส้นทางในหมู่บ้านก่อน... พอแล้ว ผมขี้เกียจตอบคุณ... พอแล้วไปถามไอ้นี่มัน..."

 

โอกาสสุดท้าย ของ "บิ๊กตู่"

(ดูคลิป คลิกที่นี่)

                 27 พฤศจิกายน 2560 ระหว่างลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวบ้านในการไปประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.ปัตตานี จู่ ๆ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตวาดใส่ชาวประมงที่มายื่นเรื่องและกำลังอธิบายเรื่องราว “อย่ามาส่งเสียงกับผมเข้าใจหรือเปล่า ผมฟังคุณ พูดดีๆก็ได้” ก่อนจะเดินไปแล้วบอกว่า “จะมากดดันผมไม่ได้” สร้างความงุนงงกับชาวประมงรายนั้นและผู้อยู่ในเหตุการณ์

 

โอกาสสุดท้าย ของ "บิ๊กตู่"

(ดูคลิป คลิกที่นี่)

 

                 30 พฤศจิกายน 2561 ระหว่างเป็นประธานประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก “สภาพัฒน์” พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึงการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการแบ่งเขตแบบ “พิสดาร” ในหลายพื้นที่

                 "สื่อที่อยู่ข้างนอกก็ถามกันอย่างเดียว เรื่องการแบ่งเขต แม่งจะตายห่ากันให้หมดหรืออย่างไร ก็ไม่รู้กับไอ้เรื่องซังกะบ๊วยพวกนี้”

                 ล่าสุด 1 กุมภาพันธ์ 2562 ระหว่างแถลงผลการดำเนินงานปีที่ 4 ของรัฐบาลคือ พล.อ.ประยุทธ์ ก็หลุดคำที่ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนมากที่สุดในบรรดาคำที่เคยพูดมา “มึงมาไล่ดูสิ” ที่หลายคนฟังแล้วบอกน่าจะเป็น “มึงมาไล่กูสิ” ด้วยซ้ำ

 

โอกาสสุดท้าย ของ "บิ๊กตู่"

(ดูคลิป คลิกที่นี่)

 

                 แทบทุกครั้งนายกฯก็จะออกมาหรือส่งโฆษกฯออกมาขอโทษหรือแสดงความเสียใจกับคำพูดที่ได้พูดไป

                 มีการมองไปว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นนายกฯที่กลไกการตรวจสอบของสภาฯทำงานได้ตามปกติ หากมีการอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์ในสภา รวมถึงหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นอย่างไร

                 ในสภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มี “ดาบอาญาสิทธิ์” คือ อำนาจตามมาตรา 44 เหมือนเดิม ในภาวะที่ผู้คนทั้งในสภานอกสภาไม่ต้องเกรงกลัวหรือกระทั่งเกรงอกเกรงใจเพราะอำนาจพิเศษนั้น “บิ๊กตู่” จะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

                 นั่นคือด้านหนึ่ง

                 อีกด้าน ต้องยอมรับว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ มาอยู่ในบัญชีนายกฯพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้เป็นนายกฯแน่นอน

                 โอกาสที่พรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.มาเป็นที่หนึ่ง และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นนายกฯอย่างสง่างามแทบจะเป็นศูนย์

                 พล.อ.ประยุทธ์ จะยิ่งถูกจับจ้อง ถูกตั้งคำถาม ถูกสงสัย ในทุกฝีก้าว ที่ส่งผลต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

                 ยังไม่รวมถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นผู้ลงนามในการเลือก 250 ส.ว.ที่จะต้องถูกครหาว่าเลือกมาเพื่อโหวตให้ตัวเองกลับมาเป็นนายกฯ

                 หนึ่งวันจากนี้ จึงเป็น “โอกาสสุดท้าย” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการเลือกอนาคตตัวเอง

 

โอกาสสุดท้าย ของ "บิ๊กตู่"

 

                 แน่นอน การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่ได้หมายถึงอนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ เองเท่านั้น แต่ยังหมายถึงอนาคตของประเทศไทยด้วย

 

=====================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ