คอลัมนิสต์

อ่านเกม 126 VS 376

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

(อินไซต์การเมือง) อ่านเกม 126 VS 376 ในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์

 

               การเลือกตั้งครั้งนี้มีปรากฏการณ์แปลกๆ หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ “จำนวน ส.ส.ในการตั้งรัฐบาล”

               ปกติตัวเลขเป้าหมายของพรรคที่หวังเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลคือ เกินครึ่งของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ มิหนำซ้ำทั้ง 2 ฝ่ายคู่แข่งมีเป้าหมายตัวเลขที่แตกต่างกัน

               ฝ่ายพรรคเพื่อไทย เป้าหมายครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่เกินครึ่งของ ส.ส. คือ 251 เสียงขึ้นไป แต่กลับเป็น 376 เสียงขึ้นไป

               ขณะที่ฝ่ายหนุน คสช. วางเป้าหมายเบื้องต้นเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลไว้ที่ตัวเลข 126 เท่านั้น

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?

               ก็เพราะในการเลือกนายกฯ ครั้งนี้ 250 ส.ว.ที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกของ คสช. จะเข้ามาร่วมโหวตเลือกนายกฯ ด้วย

 

อ่านเกม 126 VS 376

(อ่านต่อ...เอกซเรย์ที่มา-อำนาจ 250 ส.ว. ค้ำบัลลังก์ "บิ๊กตู่")

 

               มีการคาดการณ์ว่า ทั้ง 250 ส.ว.จะสนับสนุนคนของ “ฝ่าย คสช.” ให้เป็นนายกฯ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

               จำนวนมือที่จะเลือกนายกฯ หลังเลือกตั้งครั้งนี้ แทนที่จะเป็นเฉพาะมือของ 500 ส.ส. ก็จะรวม 250 ส.ว.เข้าไปด้วย และรัฐธรรมนูญกำหนดว่าคนที่จะได้รับเลือกเป็นนายกฯ จะต้องได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง คือ 376 เสียงขึ้นไป

               ในเมื่อฝ่ายหนุน คสช.มีเสียง 250 ส.ว. เป็นทุนอยู่แล้ว เป้าหมายขั้นต่ำจึงอยู่ที่ 126 เสียง เพื่อให้เกินครึ่ง ขณะที่อีกฝ่ายต้องได้ ส.ส.อย่างน้อย 376 เสียง จึงจะมีโอกาสตั้งรัฐบาลได้

               ต้องบอกว่า เป้าหมาย 126 เสียงของฝ่าย คสช. ก็ไม่ใช่เป้าหมายเพื่อตั้งรัฐบาลซะทีเดียว แต่เป็นเป้าหมายเพื่อสกัดไม่ให้อีกฝ่ายได้เสียงเกินครึ่ง ตั้งรัฐบาลไม่ได้

               ในขั้นตอนแรกฝ่าย คสช.จะมี “250 ส.ว.” เป็นตัวช่วยแล้ว หากเบื้องต้นรวมเสียงได้เข้าเป้า 126 รวมเป็น 376 เสียง ก็ทำให้อีกฝ่ายติดล็อกตั้งรัฐบาลไม่ได้

               แต่ในการตั้งรัฐบาล ก็ต้องมีกลไกการทำงานในสภา ซึ่งต้องการเสียงขั้นต่ำครึ่งหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยในการโหวตเรื่องต่างๆ รวมไปถึงเรื่องสำคัญที่สุดที่หมายถึงรัฐบาลจะอยู่ต่อได้หรือไม่ คือ ญัตติอภิปรายไม่ไว้างใจ

               แต่เนื่องจากฝ่าย คสช.ยังมีอีกตัวช่วยที่วางไว้ในรัฐธรรมนูญ คือ ถ้ายังไม่สามารถรวมเสียงจนเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังสามารถเป็นนายกฯ ต่อไปได้ พร้อมยังมีอำนาจตามมาตรา 44 อยู่ในมือ เพราะรัฐธรรมนูญนี้ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าต้องมีการเลือกนายกฯ ภายในกี่วัน ต่างจากรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ เช่น รัฐธรรมนูญ 2540 และรัฐธรรมนูญ 2550 ที่กำหนดให้เลือกนายกฯ ภายใน 30 วัน หลังประชุมรัฐสภาครั้งแรก

               และยังกำหนดด้วยว่าตราบใดที่ยังไม่มีรัฐบาลหลังเลือกตั้งเข้ารับหน้าที่ ก็ให้ ครม.เดิม และ คสช.อยู่ในตำแหน่งต่อไปพร้อมอำนาจหน้าที่เหมือนเดิมทุกประการ

 

อ่านเกม 126 VS 376

(อ่านต่อ...หมัดเด็ด "บิ๊กตู่" หลังเลือกตั้ง) 

 

               ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถอยู่ต่อได้จนกว่าจะสามารถรวบรวมเสียง ส.ส.ได้เกินครึ่ง เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้

               อาจจะได้เห็นปรากฏการณ์แปลกใหม่อีก คือ เลือกตั้งแต่ไม่มีการตั้งรัฐบาลใหม่

               ฉะนั้น เบื้องต้นถ้าเพื่อไทยและพรรคแนวร่วมได้เสียงเกินครึ่ง ก็จะสร้างความลำบากให้ฝ่าย คสช.ระดับหนึ่ง เพราะการได้เสียงเกินครึ่งหมายถึงจะคุมเกมในการเลือก “ประธานสภาผู้แทนฯ” ได้

               หากคนของฝั่งเพื่อไทยเป็นประธานสภา ซึ่งหมายถึงเป็นประธานรัฐสภาด้วย ตรงนี้ฝ่าย คสช.จะขยับลำบาก หากฝ่ายเพื่อไทยไม่ได้มาร่วมรัฐบาลด้วย

 

อ่านเกม 126 VS 376

(อ่านต่อ..."สูตรรัฐบาล" การเมือง 2 ขั้ว 3 ก๊ก)

 

               ตอนนี้พรรคเพื่อไทยและไทยรักษาชาติ เริ่มเปิดแคมเปญต้องเลือก “ฝ่ายประชาธิปไตย” ให้ได้ ส.ส.เกิน 375 เสียงแล้ว

               “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่คาดว่าจะอยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยด้วย กล่าวกับประชาชนระหว่างขึ้นเวทีหาเสียงที่ภาคอีสานว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการแข่งขันกันระหว่างประชาธิปไตยและเผด็จการ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยต้องได้อย่างน้อย 375 เสียงเพื่อให้มากกว่า ส.ว. แต่งตั้ง 250 คน ฝ่ายประชาธิปไตยจะแพ้ไม่ได้

               ต่อมา “ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อธิบายความคำพูดของ “ชัชชาติ” เพิ่มเติมว่า “หากได้เสียงเกิน 375 เสียง จะเป็นการปิดประตูไม่ให้ฝ่ายที่ต้องการสืบทอดอำนาจ หรือฝ่ายที่ต้องการเชียร์ผู้มีอำนาจปัจจุบันที่แม้จะมี 250 เสียง ก็ไม่สามารถที่จะตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นหากอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ 350 เสียงขึ้นไป ดังนั้นนายชัชชาติจึงเสนอ 375 เสียงขึ้นไป เพื่อให้ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งได้”

               ขณะที่ “ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช” หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ พรรคที่แตกออกมาจากพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาสำทับประเด็นนี้ระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงเช่นกัน

               “พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ต้องได้ ส.ส.รวมกันอย่างน้อย 376 ที่นั่ง จะได้ไม่ต้องมีข้อกังวลใดๆ ทั้งสิ้นต่อกระบวนการที่ผู้มีอำนาจเตรียมการไว้ และทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ที่จะทวงสิทธิเสรีภาพและความกินดีอยู่ดีที่ถูกลิดรอนไปกลับคืนมา”

               ต่อไปจะมีตอกย้ำตัวเลข “376” ซึ่งจากสถิติการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

               แต่ไม่ต้องถึง 376 แค่เพื่อไทย ไทยรักษาชาติ และอนาคตใหม่ ได้เสียงเกิน 250 ฝ่าย คสช.ก็ขยับลำบากแล้ว

               รอดู “อภินิหารกฎหมาย” ที่วางไว้ในกลไกรัฐธรรมนูญ จะเอาอยู่ไหม ?

 

===================

สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ