คอลัมนิสต์

"พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์"คนรุ่นใหม่ พปชร.มุ่งมั่นปฏิรูปเกษตรฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ (ส้ม) คนรุ่นใหม่พรรคพลังประชารัฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตสายไหม ใส่ใจปฏิรูปเกษตรกรรมและแก้ปัญหาจราจร

         เป็นนักการเมืองหน้าใหม่และคนรุ่นใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ ดร.พัชรินทร์  ซำศิริพงษ์   จะลงสมัคร ส.ส. กทม. เขต 11 สายไหม 

       เธอมีชื่อเล่นว่า “ส้ม”  ปัจจุบันอายุ 31 ปี  นอกจากมีดีกรีเป็นถึง “ดอกเตอร์” เป็นอาจารย์สอนพิเศษวิชาอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรมซึ่งเธอจบด้านนี้มาที่มหาวิทยาลัยรังสิตและมหาวิทยาลัยราชภัฏแล้ว ยังผ่านเวทีประกวดนางสาวไทยมาแล้ว และไม่ใช่เดินกลับมือเปล่า แต่ยังคว้าตำแหน่ง “Miss intelligent” ซึ่งเป็นตำแหน่งของผู้ที่มีไหวพริบ ปฏิภาณดี "พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์"คนรุ่นใหม่ พปชร.มุ่งมั่นปฏิรูปเกษตรฯ

      เวทีประกวดนางงามกับเวทีการเมือง ดูแล้วคนละเรื่องกัน ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ 

       แต่ ดร.ส้ม  มองว่า มีความคล้ายกัน “ ตอนที่ประกวดนางงามตอนนั้นก็คิดว่าถ้าเราเป็นที่รู้จักของผู้คน เราก็ทำให้สังคมได้ เป็นกระบอกเสียงได้ เช่นเดียวกับการเมืองที่เป็นเรื่องอาสาทำให้กับประชาชน สังคม”

"พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์"คนรุ่นใหม่ พปชร.มุ่งมั่นปฏิรูปเกษตรฯ

        ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจลงทำงานการเมืองในครั้งนี้้ก็เพราะเป็นคนชอบทำกิจกรรม ช่วยงานเพื่อสังคมอยู่แล้ว ซึ่งผู้ใหญ่ก็เห็นว่าเป็นคนตั้งใจ และเป็นคนทำงานจริงจัง ก็ชวนไปร่วมงานด้วย

        แต่ก็ยอมรับว่า “ เขตสายไหม” เป็นการเริ่มนับหนึ่งสำหรับเธอ แต่ที่ตัดสินใจลงเขตนี้เพราะมีลักษณะเป็นทั้งสังคมเมืองและชนบท มีทั้งเกษตรกรรม ธุรกิจ การค้า ชุมชนแออัด หมู่บ้านจัดสรร บ้านพักข้าราชการ เป็นเขตที่มีความหลากหลายซึ่งน่าสนใจ ซึ่งถ้าได้เป็น ส.ส. จะพัฒนาเขตสายไหมให้เป็นเขตพัฒนาต้นแบบ

       และจากการลงพื้นที่ ทำให้รู้ถึงปัญหาของคนในพื้นที่มากขึ้นและเก็บข้อมูล เพื่อที่ว่าหากมีโอกาสได้เป็นส.ส.ก็นำปัญหาเหล่านี้มานำเสนอเพื่อแก้ไข

"พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์"คนรุ่นใหม่ พปชร.มุ่งมั่นปฏิรูปเกษตรฯ

        ส่วนคู่แข่งในเขตนี้ เธอบอกว่า ก็จากพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์  ซึ่งก็มาแรงทั้งคู่ ส่วนเธอก็เป็นน้องใหม่ แต่ก็เสนอแนวทางใหม่ให้คนรู้ว่า เราเป็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจเข้าไปทำงานจริง ต้องการเข้าไปทำเพื่อส่วนร่วม ไม่ได้เข้าไปกอบโกยเพื่อตัวเอง  

       “คู่แข่งทำงานในพื้นที่มานาน คนรู้จัก ก็เป็นการบ้านที่หนักว่าจะทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา ก็พยายามเข้าถึงคนในพื้นที่รับฟังปัญหา  ศึกษาข้อมูลในแต่ละด้านของพื้นที่ให้หนักมากกว่าคนอื่นเพราะเป็นน้องใหม่ ก็ต้องทำการบ้านให้หนัก ลงสมัคร ส.ส. สมัยแรก  การเมืองก็ถือว่าเป็นเรื่องท้าทาย ”

"พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์"คนรุ่นใหม่ พปชร.มุ่งมั่นปฏิรูปเกษตรฯ

     และที่ลงพรรคพลังประชารัฐ เพราะว่าพรรคพลังประชารัฐ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ในทุกๆกลุ่มซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นทายาททางการเมือง ได้ออกมาแสดงความสามารถ แสดงความเห็นและความเห็นที่เราแสดงออกไปผู้ใหญ่รับฟัง และส่งเสริมให้เราทำงานการเมืองอย่างโปร่งใส

"พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์"คนรุ่นใหม่ พปชร.มุ่งมั่นปฏิรูปเกษตรฯ

    ซึ่งแนวคิดทำงานทางการเมืองของเธอมี 3 ข้อ.คือ 1.ทำงานการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใส        2.ประโยชน์สุขของประชาชนต้องมาก่อนประโยชน์สุขส่วนตัว 3.ส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งพรรคนี้สามารถตอบโจทย์เราได้ทั้ง 3 ข้อ

          แล้วประชาชนจะหวังอะไรได้จากคนรุ่นใหม่ของพรรค  ดร. ส้ม  มองว่า ที่ผ่านมาบ้านเมืองของเราเกิดความวุ่นวาย  ความขัดแย้ง การที่จะให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อได้ ประชาชนคงจะหวังรูปแบบใหม่ๆของการเมืองจากคนรุ่นใหม่ โดยไม่ใช่การเมืองที่โจมตีป้ายสีกันไปมา แต่เป็นการเมืองที่แข่งขันกันทางด้านความคิด นำเสนอนโยบายที่ทำได้จริง  เกิดประโยชน์แก่ประเทศอย่างแท้จริง

 

 

 

         นั่นเป็นสิ่งที่เธอวาดหวัง แต่ในความเป็นจริงเมื่อเข้าสู่ถนนการเมืองอาจต้องเจอเข้ากับการเมืองที่สาดโคลน ใส่ร้ายป้ายสี เธอทนไหวหรือไม่ ?

      “การที่เราตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง การใส่ร้ายป้ายสี สาดโคลน มันคงต้องมีอยู่แล้ว สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ ต้องทำใจให้หนักแน่น เพราะงานการเมืองมีทั้งที่คนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และเราต้องเป็นมิตรกับทุกคน แม้ว่าจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน ถ้าเราถูกใส่ร้ายป้ายสีสาดโคลน บางเรื่องเราควรจะนิ่งก็ต้องนิ่ง บางเรื่องถ้าจำเป็น ก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง”

"พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์"คนรุ่นใหม่ พปชร.มุ่งมั่นปฏิรูปเกษตรฯ

        ส่วนสิ่งที่อยากผลักดันหากได้เป็น ส.ส.  ดร.ส้ม บอกว่า  สิ่งแรก คือ ปฏิรูปการเกษตรสู่การพัฒนาชาติ เพราะประเทศเราเป็นเกษตรกรรม  ประชาชนส่วนใหญ่ทำการเกษตร ดังนั้นจะพัฒนาอย่างไรให้ประเทศมั่งคั่ง ยั่งยืน ก็ต้องพัฒนาภาคเกษตรก่อน ตั้งแต่การเพิมผลผลิต การพัฒนาคุณภาพ มูลค่าสินค้า โดยอาศัยสหกรณ์ รัฐบาลจำเป็นต้องส่งเสริมสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งพลังของเกษตรกรให้มีอำนาจต่อรองและพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง

       " อีกเรื่องหนึ่งคือ ปัญหาจราจรของคน กทม. จากการลงพื้นที่เขตสายไหม ชาวบ้านเสนอให้เราแก้ปัญหาจราจร ซึ่งมองว่าปัญหาจราจรเกิดจากสาเหตุใหญ่ 3 อย่างคือ เกิดจากตัวบุคคล,การออกแบบถนน สิ่งกีดขวางบนถนน และปัญหาจากเครื่องหมายและสัญญาณไฟจราจร จึงต้องเริ่มแก้ปัญหาจราจรจากสิ่งเหล่านี้ ส่วนระยะยาวก็ขยายช่องทางระบบขนส่งมวลชนและโครงสร้างพื้นฐานควบคู่กันไป

         ส่วนปัญหาสำคัญของประเทศ เธอมองว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น การเมืองก็ยังมีการโจมตีกัน มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกโดยตลอด ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังคือปัญหาคอรัปชั่น กระทบต่อการพัฒนาชาติอย่างรุนแรง เสียงบประมาณโดยไม่เกิดประโยชน์และเป็นที่มาของความเหลื่อมล้ำด้วยซึ่งทั้ง 2 เรื่อง ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนทัศนคติ

"พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์"คนรุ่นใหม่ พปชร.มุ่งมั่นปฏิรูปเกษตรฯ

       “อยากให้คนที่เข้ามาทำงานการเมืองนึกถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก แม้ว่างานการเมืองจะเป็นการแข่งขัน แต่เมื่อเลือกตั้งจบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ก็อยากให้มองที่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก”

        ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจแค่ไหนว่าจะได้รับเลือกตั้ง เธอ บอกว่า คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชน แต่ตนเองมีความตั้งใจร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะเข้าไปทำงานการเมืองรับใช้ประชาชน

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ