คอลัมนิสต์

ยังไง! ลุงตู่ก็ขาด "พยัคฆ์ป้อม" ไม่ได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  กระดานความคิด  โดย...  บางนาห้าสิบหก 


 

          เชื่อว่าโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 2562 พรรคคู่แข่งของพรรคพลังประชารัฐ จะต้องชูกลยุทธ์สร้างกระแสเลือก พปชร. “ได้ลุงตู่แถมลุงป้อม” หรือ “เลือกตู่ก็เหมือนเลือกป้อม”

 


          เนื่องจาก “ลุงป้อม” เป็นจุดอ่อนในกลุ่ม “พยัคฆ์บูรพา” โดยเฉพาะประเด็นยืมนาฬิกาเพื่อน จะต้องเป็นมุกหาเสียงของฝ่ายตรงข้ามทุกเวที


          ลุงป้อม มีบุคลิกใกล้เคียงกับ “นักการเมืองยุคโบราณ” มากที่สุด ถ้าเปรียบรุ่นเก่าหน่อยก็คล้าย “โคว้ตงหมง” ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ เป็นมือประสานสิบทิศ มี “พวกเยอะ” เหมาะสมกับระบอบการเมืองอุปถัมภ์แบบไทยๆ
   

          ลุงป้อมเป็น ผบ.ทบ.แค่ปีเดียว แต่เหตุใดจึงมากด้วยคอนเนกชั่นต่อสายได้ทุกชั้นชน ซึ่งต้องยอมรับ “ทหาร” ในยุคทักษิณ ชินวัตร มักจะเป็น “ทหารพาณิชย์”
  

          ในสภาพแวดล้อมการเมืองแบบประชานิยม ลุงป้อม ได้สร้าง "มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด" มีสำนักงานอยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1.รอ.)
  

          พลิกไปดูรายชื่อคณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดชุดปัจจุบัน นอกจาก พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิ ก็ยังพบ “บิ๊กเนม” หลายคน
  

          ในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ อุดมด้วย “เซ็นคาเบรียลคอนเนกชั่น” คือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล กับ ศิริธัช โรจนพฤกษ์ ผู้บริหารคอม-ลิงค์คนหนึ่ง ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นน้ำเงิน-ขาว ตามมาด้วย “เสี่ยคราม” ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ อดีตผู้บริหารองค์การโทรศัพท์ และผู้บริหารคอม-ลิงค์ บริษัทที่เคยวางระบบเคเบิลใยแก้วให้องค์การโทรศัพท์


          “เสี่ยคราม” เป็นเพื่อนสุดรักของลุงป้อม และเป็นผู้ครอบครองนาฬิกาหรูที่ให้ลุงป้อมยืมใส่ แม้วันนี้เสี่ยครามจะจากไป แต่นาฬิกาทั้งหมดก็อยู่ในการดูแลของทายาท


          “บ้านป่ารอยต่อ” ในค่ายทหารใจกลางเมืองหลวง เคยเป็นเซฟเฮ้าส์ในการจัดตั้ง “รัฐบาลอภิสิทธิ์” มาแล้ว และช่วงก่อนรัฐประหาร 2557 บ้านหลังนี้ก็เป็นศูนย์รวม “เพื่อนประวิตร” ที่มาช่วยคิดช่วยวางยุทธศาสตร์แก้ปัญหาเศรษฐกิจชาติ


          มิเพียง “บ้านป่ารอยต่อคอนเนกชั่น” เท่านั้น ลุงป้อมยังแผ่บารมีไปยัง "สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน" ที่กำเนิดขึ้นมาจากความสัมพันธ์อันแนบแน่นของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนกับกองทัพไทย


          “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ก็เคยเป็นนายกสมาคมไทย-จีน คนที่ 2 รวมถึง พินิจ จารุสมบัติ เป็นตำแหน่งนายกสมาคมคนที่ 4 แม้ตอนหลังเสี่ยพินิจ จะแยกตัวไปตั้งสมาคมใหม่ แต่ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เสี่ยพินิจเป็นแขกขาประจำ


          ที่น่าสนใจ ไพศาล พืชมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ซึ่งต่อมาไพศาลเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง)


          “สมาคมไทย-จีนคอนเนกชั่น” นี่แหละ ทำให้สมคิดได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาคสช.ยุคแรกๆ ก่อนจะขยับขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านเศรษฐกิจ


          ถึง “หม่อมอุ๋ย” หัวโจก “เซ็นคาเบรียลคอนเนกชั่น” จะมีอาการไม่พอใจลุงตู่ แต่ลุงป้อมก็เข้าใจเพื่อน และไม่กังวลความสัมพันธ์ เพราะทั้ง “บ้านป่ารอยต่อ” และ “สมาคมไทย-จีน” ยังเป็นฐานกำลังให้กลุ่มพยัคฆ์บูรพา


          ด้วยพลานุภาพของ “บ้านป่ารอยต่อคอนเนกชั่น” และ “สมาคมไทย-จีนคอนเนกชั่น” จึงเป็นไปไม่ได้ หากว่าลุงตู่จะอยู่ต่อโดยไม่มีลุงป้อมเป็นกองหนุน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ