คอลัมนิสต์

'จิตอาสา'ศูนย์รวมแห่งรักขับเคลื่อนพระราชปณิธาน  ร.9

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ในหลวง" ทรงอยากเห็นคนไทยมีความสุข ช่วยเหลือกัน ทรงตั้งจิตอาสา ศูนย์รวมแห่งรัก ขับเคลื่อนพระราชกรณียกิจ ร.9

 

 

          สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราโชบายที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีพระราชประสงค์ที่จะเห็น 3 สิ่งที่พระองค์รักอยู่ด้วยกันในประชาชนจิตอาสา และเชื่อในพระราชหฤทัยเสมอมาว่า “คนไทยมีความเป็นจิตอาสาอยู่ในใจทุกคน”

 

 

          พ.อ.วันชนะ สวัสดี จิตอาสา 904 ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” ถึงโครงการจิตอาสา 904 ว่า ตนเองเพิ่งผ่านการฝึกหลักสูตร จิตอาสา 904 “หลักสูตรหลักประจำ” รุ่นที่ 2/61 โดยใช้เวลาฝึก 50 วัน ร่วมกับเพื่อนทหาร และข้าราชการพลเรือนใน 8 กระทรวง โดยการฝึกนั้นต้องการให้จิตอาสา 904 ไปเป็นแกนนำจิตอาสาในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศในการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ และเป็นแกนนำในการพัฒนาพื้นที่และชุมชนตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำมาซึ่งประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ และให้เป็นแกนนำในการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันหลักของชาตินั่นคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ กับการพัฒนาประเทศและการนำประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤติต่างๆ และให้ได้รับรู้ถึงพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง การสืบสาน รักษา ต่อยอด พร้อมนำทฤษฎีของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาสู่การปฏิบัติให้เห็นผลโดยรายละเอียดการฝึกมี 3 เรื่องหลัก คือ

 

'จิตอาสา'ศูนย์รวมแห่งรักขับเคลื่อนพระราชปณิธาน  ร.9

 


          1.เรื่องการทำความเข้าใจที่ถูกต้อง ตามข้อมูลความเป็นจริง ของสถาบันพระมหากษัตริย์ กับประเทศไทย ผ่านการเปลี่ยนแปลง ของสังคมไทยและสังคมโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่ามีการเกิดขึ้นและเป็นอยู่อย่างไร 2.เรื่องของการพัฒนา ถือเป็นความรู้ที่จิตอาสาจะต้องศึกษาให้เข้าใจและลองปฏิบัติจริงให้เห็นผลและนำไปขยายผลไปสู่ประชาชนโดยการนำศาสตร์พระราชามาเป็นหลักในการศึกษาเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ ของประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน รวมถึงการฝึกวิชาชีพ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ทำอาหาร ช่างไม้ แม้กระทั่งการอนุรักษ์ ซึ่งวัฒนธรรมแบบไทยคือการร้อยมาลัย เป็นต้น




          และ 3.เรื่องภัยพิบัติ ต้องเรียนรู้หลักสูตรการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย การช่วยเหลือ ฟื้นคืนชีพ การปฐมพยาบาล โดยเรียนแบบจริงจัง ปฏิบัติจริง ทำซ้ำ ให้จิตอาสา 904 มีขีดความสามารถในการช่วยเหลือคนได้จริง หรือมีความเข้าใจจนสามารถรู้ขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นต้นและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ ที่มีขีดความสามารถต่อไป และเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นต้องสามารถปฏิบัติและบริหารจัดการศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติได้อย่างถูกต้องตามหลักสากล


          พ.อ.วันชนะ เล่าอย่างภูมิใจว่า จิตอาสา 904 จะได้รับพระราชทานเครื่องหมายจิตอาสา 904 โดยมีองค์ประกอบ พร้อมความหมาย ดังนี้
          - พระมหาพิชัยมงกุฎ คือ พระบารมีและพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอันแผ่ไพศาล
          - พระปรมาภิไธย ว.ป.ร. หมายถึง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
          - ดาวเบื้องซ้าย คือข้าราชการ, ดาวเบื้องขวา คือประชาชน และดาวเป็นสีเดียวกัน คือ ไม่แบ่งแยก รวมความหมายแล้วหมายความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าราชการ และประชาชน ไม่เคยแยกออกจากกัน
          - ปีก หมายถึง พระบารมีที่ทรงโอบอุ้ม และนำมาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองแห่งประเทศชาติ
          - ผ้าแพร ประดับด้วยคำขวัญพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” หมายถึง พระราชทานพระราชปณิธาน และความมุ่งมั่นที่จะทำความดี ของทุกคน

 

'จิตอาสา'ศูนย์รวมแห่งรักขับเคลื่อนพระราชปณิธาน  ร.9

 


          จิตอาสา 904 ท่านนี้ ยังบอกอีกว่า พระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความชัดเจน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ซึ่งเราได้เห็นภาพในอดีตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขณะทรงงาน หากพิเคราะห์ดูให้ดี จะเห็นว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามเสด็จทุกครั้ง ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ทรงอยู่ในฐานะราชองครักษ์


          “นี่คือข้อยืนยันว่า พระองค์ได้ทรงเรียนรู้การทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อย่างเต็มระบบ และทรงรู้ทุกอย่างที่ผ่านมาว่าควรจะทำอย่างไร และอาจกล่าวได้ว่า ทุกย่างก้าวของพระองค์ในขณะดำรงตำแหน่งสยามมกุฎราชกุมาร เป็นย่างก้าวของการเรียนรู้อย่างแท้จริง ดังนั้นพระราโชบายของพระองค์ เรื่องการสืบสาน นั้นพระองค์ ทรงสืบสานได้ชัดเจนที่สุด รวมถึงการรักษา และต่อยอด ซึ่งพระองค์กำลังจะนำทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติให้เห็นผล โดยใช้จิตอาสา เป็นกลไกในการขับเคลื่อน”


          สำหรับประชาชนจิตอาสาจะมีสัญลักษณ์เป็น ผ้าพันคอสีเหลือง ซึ่ง “สีเหลือง” คือ สีวันพระราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และหมวกสีฟ้า ซึ่ง “สีฟ้า” คือ สีวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผ้าพันคอนั้นมีพระปรมาภิไธย ‘ว.ป.ร.’ ของพระองค์ท่าน อยู่ด้านหลังด้วย


          “เมื่อประชาชนใส่หมวกสีฟ้า และผ้าพันคอสีเหลือง พระองค์ได้ทอดพระเนตร เห็น 3 สิ่งที่พระองค์รัก พร้อมกันเสมอ คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และพสกนิกรของพระองค์ ทุกขั้นตอนผ่านพระราชวินิจฉัยของพระองค์ท่านทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น หมวก และผ้าพันคอ ทำอย่างไรให้ยับยาก ซักแล้วแห้งเร็ว สกรีนไม่หลุดง่ายต้องมีความทนทาน” อันแสดงถึงความรัก และใส่พระราชหฤทัยในพสกนิกรของพระองค์อย่างแท้จริง"

 

 

'จิตอาสา'ศูนย์รวมแห่งรักขับเคลื่อนพระราชปณิธาน  ร.9


          พ.อ.วันชนะ เปิดเผยต่อว่า นอกจากนี้ยังมีกองอำนวยการฝึกจิตอาสา 904 ตั้งอยู่ในพื้นที่ กองพันฝึกส่วนหลัง กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตพระราชฐานในพระองค์ “วิภาวดี” และศูนย์อำนวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารสำนักพระราชวัง สนามเสือป่า โดยระบบของจิตอาสา แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ


          1.จิตอาสาพัฒนา เป็นจิตอาสาที่พัฒนาพื้นที่ของตัวเอง ให้เกิดความเรียบร้อย สวยงาม เช่น ขุดลอกคูคลอง หรือโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการพัฒนา โดยมีข้าราชการในพื้นที่เป็นแกนนำร่วมกับประชาชนร่วมกันพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะกับชุมชน หน่วยงาน องค์กร


          2.จิตอาสาภัยพิบัติ เป็นจิตอาสาที่มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติ และในกรณีที่เกิดภัยพิบัติแล้ว จะบริหารจัดการอย่างไร เมื่อภัยพิบัติผ่านพ้นไปแล้ว จะฟื้นฟู อย่างไร เพราะฉะนั้นจิตอาสาภัยพิบัติ ก็จะต้องทำงานร่วมกับประชาชนในพื้นที่เช่นเดียวกัน


          และ 3.จิตอาสาเฉพาะกิจ มีหน้าที่ลักษณะเฉพาะงาน อาจจะเป็นงานที่ถูกกำหนดมาโดยศูนย์อำนวยการใหญ่ ซึ่งจิตอาสาเฉพาะกิจ กำเนิดขึ้นครั้งแรกในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และในปัจจุบันที่กำลังดำเนินการอยู่คือ งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” กล่าวคือมีระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดอย่างชัดเจน โดยที่จิตอาสาทุกคนสามารถปฏิบัติงานได้ทั้ง 3 ประเภท


          พ.อ.วันชนะ กล่าวว่า ปัจจุบันมีจิตอาสาทั่วประเทศประมาณ 5 ล้านคน และการสมัครเป็นจิตอาสานั้นก็เป็นไปตามความสมัครใจไม่มีการบังคับ เพียงแต่จิตอาสาต้องทำความดีด้วยหัวใจ ให้เห็นผลสัมฤทธิ์ และเมื่อเห็นผลแล้ว ผู้รับจะรู้สึกได้ว่าจิตอาสาเป็นประโยชน์จริง เมื่อผู้รับมีความสุขก็อยากส่งต่อความสุขนี้ต่อไป ก็จะสมัครเป็นจิตอาสาเอง เมื่อมีจิตอาสาเกิดขึ้นมากๆ ก็จะมีการส่งต่อการให้และเกิดความสุขอยู่ทั่วไป


          นอกจากนี้ พ.อ.วันชนะ ยังกล่าวถึงความเป็นมาของโครงการจิตอาสาว่า พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นถึงความรักและความผูกพันของคนไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ จากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คือ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเหตุการณ์การช่วยเหลือ 13 หมูป่าที่ติดถ้ำ แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความเป็นจิตอาสาอยู่ในตัวทุกคน


          "ในอนาคต พระองค์อยากให้คนไทยทุกคนมีจิตอาสาคอยช่วยเหลือกัน ซึ่งจะนำประโยชน์ให้เกิดกับส่วนรวม ดังที่พระราชทานปรัชญา “ภาพรวม” หรือ “สะเจ” ในโอกาสวันพระราชสมภพ 28 กรกฎาคม 2552 ความว่า


          “สะเจ สะรูปะภาโว สุทัสสะนี โสภะโณ สุธัมโม ปะฏิรูโป สัพเพ ชะนา จิรัฎฐิติกะกาเล ถาวะระโต กายะสุขี โหนติ มะโนรัมมา” แปลว่า ถ้าหากภาพรวมสวยงาม ถูกต้อง เหมาะควร ทุกคน ทุกหมู่เหล่า จะได้รับความสุขกาย สบายใจอย่างถาวร ในระยะยาว นี่คือสิ่งที่พระองค์พระราชทานลงมา เตือนใจทุกคน เมื่อเราได้พิจารณาความหมาย เราสามารถรู้ได้ในทันทีว่าพระองค์มีพระราชประสงค์อย่างยิ่งที่จะเห็นคนไทยมีความสุขอย่างถาวร โดยเริ่มจากการมีจิตอาสาการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เริ่มจากการให้ และความมีระเบียบวินัยของคนไทย ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเราและจบที่ตัวเรา”


          ท้ายที่สุดกล่าวได้เลยว่า พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจเช่นเดียวกับพระมหากษัตริย์ในอดีตที่ผ่านมา กล่าวคือ ในสมัยโบราณ เราต้องรักษาเอกราชจากการรุกรานแย่งชิงดินแดน พระมหากษัตริย์ในอดีตจึงรวบรวมไพร่พลเพื่อการรบ มาในสมัยปัจจุบันเราต้องรบกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต พระองค์จึงทรงรวบรวมประชาชนจิตอาสาไปทำการรบกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ เพื่อรักษาเอกราชในรูปแบบต่างๆ ของชาติไว้ ดังนั้นประชาชนจิตอาสาก็คือ ทหารของพระราชาด้วยเช่นกัน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ