คอลัมนิสต์

จับตา "บิ๊กตู่" เปลี่ยนใจ !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

(ขยายปมร้อน) มีเวลาอีกครึ่งเดือนให้ "บิ๊กตู่" ตัดสินใจ จับตา "หัวหน้า คสช." จะเปลี่ยนใจหรือไม่??

 

              ผ่านไปอีกปี ที่ประเทศอยู่ภายใต้การดูแลของ คสช.นับตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 และยังคงไม่มีการเลือกตั้ง

              จู่ ๆ ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีข่าวออกมาว่า กกต.อาจจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปประมาณ 1 เดือน จากที่กำหนดไว้ 24 กุมภาพันธ์ เพราะมีปัญหาเรื่องการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง

              ข่าวที่ปล่อยออกมา สะกิดต่อมความไม่เชื่อมั่นใน กกต.และ คสช.ให้กลับมาอีกครั้ง

              สำหรับ กกต. เอง มี “ชนักปักหลัง” อยู่หลายประเด็น การทำหน้าที่ของ กกต.ที่ผ่านมาถูกตั้งคำถามหลายครั้งว่า “เอื้อประโยชน์” ให้พรรคพลังประชารัฐ พรรคตั้งใหม่ที่ป่าวประกาศว่าจะหนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กลับมาเป็นนายกฯหรือไม่

              หลังข่าวเลื่อนการเลือกตั้ง ทาง กกต.ออกมาแสดงท่าที “พลิ้ว”

              “พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา” เลขาธิการ กกต. บอกว่า ที่ผ่านมา กกต.ยังไม่เคยกำหนดวันเลือกตั้ง แต่กลับมีกระแสข่าวใหญ่โตว่ามีการเลื่อนวันเลือกตั้ง เมื่อยังไม่ได้กำหนดวันเลือกตั้งแล้วจะเลื่อนได้อย่างไร

              เขา บอกว่า วันที่ 24 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่สำนักงาน กกต.มีความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้ง แต่การกำหนดวันเลือกตั้งนั้นเป็นดุลยพินิจของ กกต.ที่จะต้องพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ สำหรับเรื่องการพิมพ์บัตรเลือกตั้งนั้นทางสำนักงาน กกต.มีความพร้อมและจะต้องดำเนินการให้ทัน แต่สำหรับการกำหนดวันเลือกตั้ง จะต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นด้วย ไม่ใช่เพียงเรื่องการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง

              ถ้าจำกันได้ ผู้เขียนเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งอีกครั้ง มีการวางแนวไว้แล้วว่า ถ้าจะเลื่อนก็เพราะ กกต.บริหารจัดการไม่ทัน ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล (อ่านต่อ..."24 ก.พ." ไม่มีเลือกตั้ง ??)

 

จับตา "บิ๊กตู่" เปลี่ยนใจ !!

 

              แม้ครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่มีเหตุจาก กกต. แต่ก็ต้องบอกว่ามีผลกระทบมาที่ คสช. ที่เคยเลื่อนการเลือกตั้งมานับครั้งไม่ถ้วน รวมถึง “พล.อ.ประยุทธ์” นายกฯ และหัวหน้า คสช. ผู้ซึ่งมีข่าวว่าจะไปอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ

              มองขยายภาพใหญ่ นี่เป็นประเด็นล่าสุดที่ “เรียกแขก” ให้ พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ มีสภาพไม่ต่างไปจาก “ตำบลกระสุนตก” เคียงคู่ไปกับพรรคพลังประชารัฐ

              เริ่มตั้งแต่เรื่อง “อาหารโต๊ะจีนเป็นพิษ” จากงานระดมทุนพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นผู้บริหารสำคัญ ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และรองหัวหน้าพรรค

              คำถามใหญ่จากการจัดงานระดมทุนโต๊ะจีนโต๊ะละ 3 ล้านบาท 200 โต๊ะ ที่ได้เงินมาในพริบตาเดียว 650 ล้าน คือ มีการใช้อำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีไปบีบบังคับให้ข้าราชการ หน่วยงานรัฐ หรือ เอกชนมาสนับสนุนพรรคการเมืองนี้หรือไม่

              แม้เรื่องนี้จะไม่ได้พุ่งตรงมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็กระเทือนไม่น้อย

              ต่อมามีกรณีการนำเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนไปใช้ประโยชน์กับการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ บ้างนำไปขึ้นป้ายหาเสียง บ้างนำไปพูดบนเวทีหาเสียง รวมทั้ง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์รณรงค์หาเสียงพรรคพลังประชารัฐ ที่ไปพูดเวทีเปิดตัวผู้สมัครว่า “เลือกพรรคพลังประชารัฐ คือ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง” จนนายกฯต้องออกมาเบรกว่า ในเมื่อท่านยังไม่ได้ตกลงปลงใจกับใครก็ขออย่าเอาชื่อไปอ้าง

              ที่หนักสุด คือ การออกมาวิจารณ์ตรงๆแรงๆ ของ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯในรัฐบาลบิ๊กตู่เอง

              และล่าสุด คือกรณี “นาฬิกาหรู” ของ “บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ ป.ป.ช.มีมติด้วยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 3 เห็นว่าไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเอาผิดกับบิ๊กป้อมได้

              ทำให้เกิดคำถามว่า “บิ๊กตู่” จะรับสภาพกับการเป็น “ตำบลกระสุนตก” ได้อีกนานเพียงใด?

              จากสภาพที่เกิดขึ้นกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงหลังนักวิเคราะห์การเมืองบางส่วนตั้งข้อสังเกตุว่า “บิ๊กตู่” อาจจะเปลี่ยนใจไม่ไปอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐก็ได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ทนไม่ค่อยได้กับกระแสวิพากษ์วิจารณ์

              ในความเป็นจริง ถ้าไม่มีการขยับปฏิทินการเมืองที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯฝ่ายกฎหมายของ คสช.นำเสนอต่อที่ประชุม คสช. กกต. และพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก็จะเหลือเวลาอีกประมาณครึ่งเดือน ที่ “บิ๊กตู่” ยังมีเวลา “ตัดสินใจ”

              วันที่ 14-18 มกราคม 2562 จะมีการเปิดรับสมัคร ส.ส. นั่นคือ ภายในวันที่ 18 มกราคม 2562 พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตัดสินใจว่าจะอยู่บัญชีนายกฯของพรรคใดหรือไม่ (รัฐธรรมนูญกำหนดให้พรรคที่จะเสนอบัญชีนายกฯต้องส่งรายชื่อให้ กกต. ก่อนปิดรับสมัคร ส.ส.)

 

จับตา "บิ๊กตู่" เปลี่ยนใจ !!

 

              หาก พล.อ.ประยุทธ์ เดินหน้าไปอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงต้องมีสภาพเป็น “ตำบลกระสุนตก” เช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นประมาณเดือนพฤษภาคม

              เกือบ 4 เดือน “บิ๊กตู่” จะทนได้หรือไม่

              แต่หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ไปอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรค ก็จะสามารถ “ลอยตัว” อยู่ได้จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ และหากหลังเลือกตั้งรัฐสภาตกลงเลือกนายกฯที่อยู่ในบัญชีของพรรคต่างๆไม่ได้ “บิ๊กตู่” ก็มีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯได้อีกครั้งแบบชิลๆ

              แม้จะไม่สง่างามเท่ากับช่องทางแรก แต่ก็จะไม่ช้ำเท่าเหมือนกัน

 

จับตา "บิ๊กตู่" เปลี่ยนใจ !!

 

              แต่ก็อาจมีอีกปัจจัย “ค้ำคอ” คือ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ไปอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ จะกระทบยุทธศาสตร์ “ไม่ให้เสียของ” ของ คสช.หรือไม่

              จับตา “บิ๊กตู่” ในช่วงครึ่งเดือนนี้ จะเปลี่ยนใจหรือไม่ ??

=====================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ