คอลัมนิสต์

ศึกล้างตระกูล แต่ สะเทือน "ชาติไทยพัฒนา"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...   ขยายปมร้อน  โดย...  ขนิษฐา เทพจร

 

 

          ศึกที่ “เสาหลักแห่งชาติไทยพัฒนา” ระหว่าง “ประภัตร โพธสุธน” กับ “จองชัย เที่ยงธรรม” ท้าชนกันในสนามเลือกตั้ง สุพรรณบุรี เขต 3 ย่อมเป็นสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด !!

 

 

          รวมไปถึง คนในบ้าน “ศิลปอาชา” ทั้ง “กัญจนา และ วราวุธ” ต่างเอ่ยปากว่า ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น แม้จะรู้ว่าที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ของ 2 บ้านนั้นมี “ความบาดหมาง”


          “ยอมรับว่ามีปัญหา แต่พยายามแก้ไขให้ลุล่วงไประดับหนึ่ง แต่ยังเกิดขึ้นอีก และไม่คิดว่าเสาหลักคนสำคัญอย่างอาจองชัยนั้นจะละทิ้งพรรคชาติไทยพัฒนาไปอยู่กับพรรคอื่น” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวไว้ตอนหนึ่ง


          สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น “คนวงในของบ้านชาติไทยพัฒนา” เชื่อว่าเป็นสาเหตุที่เกิดจาก หลานรักของประภัตร “ยุทธนา โพธสุธน” ที่โดดไปซบพรรคพลังประชารัฐ ประกาศลงแข่งขันใน พื้นที่เขต 4 สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ “เสมอกัน เที่ยงธรรม” บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ “จองชัย เที่ยงธรรม” ที่หมายมั่นว่าจะคว้าชัยในการเลือกตั้งที่จะมาถึง


          ตามปัญหาที่ถูกขยาย โดย “อดีตคนในบ้าน” อย่าง “สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” เปิดเผยวงสนทนาปรับทุกข์ ที่จับเข่าคุยกับ “จองชัย” ช่วงเดือนพฤศจิกายน ว่า แปลกใจที่พี่ประภัตร ยอมส่งหลานชายสุดที่รักคือ ยุทธนา ที่อาศัยในบ้านเดียวกัน สนิทกันและสั่งได้ ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เดิมคุยกันว่าเขาจะไม่ลงแข่งในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี แต่จะไปอาสาลงพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเขามีชื่อในทะเบียนบ้าน จ.สุพรรณบุรี และเตรียมลง ส.ส.เขต 4 จากเดิมที่คุยว่าเขาจะอยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ




          “พี่จองชัยบอกว่าไม่ชอบมาพากล เขาเลยไปสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยไว้แบบว่าเผื่อไว้ หากพี่ประภัตรห้ามหลานลงเขต 4 ไม่ได้อย่างที่รับปากกัน อีกอย่างพี่ประภัตรถือเป็นคนของพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นเบอร์ 2 ของพรรค เพราะนายเสมอกันลงในนาม ชทพ. แต่นายประภัตร เป็นถึงเลขาธิการ เป็นเบอร์ 2 ของพรรค แบบนี้ถือว่ารังแกกัน รังแกลูกเขา” สมศักดิ์ เปิดเผยข้อมูล


          และสิ่งที่ “กัญจนา” บอกว่า พยายามแก้ปัญหา คำเฉลยของเรื่องนี้ “สมศักดิ์” บอกว่า ได้เข้าไปคุยกับ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม" ฐานะเป็นผู้ใหญ่ โดยขอร้องว่าให้ “ยุทธนา” ลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแทนเขต


          แต่สภาพความเป็นจริงตอนนี้ “ยุทธนา” กลับเดินเกมหาเสียงในพื้นที่และให้หัวคะแนนขึ้นป้ายในพื้นที่ ว่าจะลงชิง ส.ส. ทำให้กลายเป็นจุดแตกหัก ทำให้ “จองชัย” ต้องประกาศผ่านสื่อมวลชนว่าย้ายสังกัดแล้ว และเตรียมลงชิง ส.ส.เขต 3 จ.สุพรรณบุรี เขตเดียวกับที่ "ประภัตร" ประกาศลงเลือกตั้ง


          งานนี้มีคนประเมินว่า เป็นเลือกตั้งแบบ “ช้างชนช้าง” แต่เอาเข้าจริง ถือเป็นงานใหญ่ ถึงขั้น "ล้าง 2 ตระกูล" และเดิมพันถึงชะตากรรมของ “พรรคชาติไทยพัฒนา” ที่อาจจะแพ้เลือกตั้งในพื้นที่ สุพรรณบุรี !!


          เพราะในทฤษฎีของเกม ในพื้นที่ ที่มีคนชิงชัย 3 พรรคใหญ่ คือ เพื่อไทย, ชาติไทยพัฒนา และพลังประชารัฐ การเลือกตั้งที่ผ่านมา “พรรคเพื่อไทย” ชนะและเป็นการตบหน้า “ตระกูลศิลปอาชา” จนหน้าชา !! ในเลือกตั้งปี 2562 จึงต้องกู้ศักดิ์ศรีคืน แต่เมื่อชาติไทยพัฒนาส่งตัวเด่นลงเลือกตั้ง แต่กลับมีตัวหาร ที่เป็น เด็กรัก บ้านของเลขาธิการพรรค ลงแข่ง เชื่อแน่ว่า คะแนนของชาติไทยพัฒนาอาจถูกหั่น และนั่นหมายถึงคนของพรรคเพื่อไทย จะเข้าวินทันที !!


          และเมื่อความพ่ายแพ้เกิดขึ้น ใครล่ะจะรับผิดชอบ แม้ “กัญจนา” หัวหน้าพรรคที่มีจุดยืนเด็ดเดี่ยว จะพร้อมรับผิดชอบในทุกกรณี แต่เบื้องหลังของความพ่ายแพ้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เกิดจาก “ผู้ใหญ่ของพรรคที่ได้รับความไว้วางใจ ระดับเลขาธิการพรรค”


          แม้ตอนนี้ “ประภัตร” จะไม่แสดงจุดยืนใดต่อเรื่องนี้ ว่าจะเป็นผู้ร่วมถือธงนำประกาศชัยชนะ หรือก้มหน้ารับความพ่ายแพ้ แต่สิ่งที่อดคิดไม่ได้คือ การเล่นเกมครั้งนี้ของ “บ้านโพธสุธน” ต้องการเอาใจใครกันแน่ และทำไมถึงต้องใช้พรรคชาติไทยพัฒนา “เดิมพัน” กับเกมนี้


          ทั้งนี้บทสรุปของเรื่องนี้ “กัญจนา” ยืนยันว่าจะใช้การเจรจาเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งแน่นอนว่ามีทางเดียวให้เลือก คือ “ถอนตัว” ระหว่าง “ประภัตร” ถอนตัว ตามวาจาที่เคยบอกไว้ระหว่างคุยกับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาว่า จะลาออกจากตำแหน่ง หากเจรจากับ “ยุทธนา” ไม่ได้หรือ บังคับทุกวิถีทางให้ “ยุทธนา” เปลี่ยนใจไม่ลงสู้ในเขตเลือกตั้ง


          งานนี้ทางฝั่งพรรคพลังประชารัฐเอง ยอมรับสภาพที่กลืนไม่เข้า และคายไม่ออก แม้จะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่เพื่อรักษาสายยสัมพันธ์ของ “ว่าที่” พรรคร่วมรัฐบาล อาจต้องตัดสินใจ


          อย่างไรก็ตามขณะนี้ “ยุทธนา” ถือว่าเป็นผู้ที่แสดงเจตจำนงจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ของพรรคในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เขต 4 แต่ยังต้องผ่านกระบวนการของที่ประชุมคัดเลือกผู้สมัคร ในวันที่ 6 มกราคม 2562 ดังนั้น ขณะนี้ยังพอมีเวลาที่จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ เพื่อรักษาน้ำใจ


          แต่กับศึกภายในบ้านชาติไทยพัฒนา ของ 2 ตระกูลใหญ่ เชื่อที่สุดว่า ไม่ว่าอย่างไร รอยร้าวที่เกิดขึ้น มันแตกสลาย จนยากจะต่อกันติดแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ “พรรคชาติไทยพัฒนา” ในวันที่ไร้ “บรรหาร ศิลปอาชา” จะประคองตัวไปอย่างไรให้รอด ด้วยลำแข้งของตัวเอง !!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ