คอลัมนิสต์

เช็กสายสัมพันธ์ของสองแกนนำคนเสื้อแดง บนทางแพร่งอำนาจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  ขยายปมร้อน  โดย...  เร้นกายไร้เงา

 

 

          คนเสื้อแดงยามนี้แตกตัวไปอยู่หลากพรรคของนายใหญ่ ทั้งแบบจำใจ ทั้งแบบเดินตามยุทธศาสตร์ หรือบางคนแยกกันเพราะไม่ลงรอยกับคีย์แมนพรรค

 

          แน่นอนว่าในภาคเหนือและอีสาน นปช.นับเป็นฐานเสียงสำคัญที่ผลักดันให้พรรคเพื่อไทยเข้าวินเมื่อการเลือกตั้งครั้งก่อน แต่วันนี้ด้วยกติกาที่เขียนไว้แบบนี้ คนเสื้อแดงจำต้องกระจายตัวไปโกยแต้ม และบางเขตต้องตัดคะแนนกันเอง

 

 

          “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธุ์” สองขุนพลตัวหลักของ นปช. ที่วันนี้เป็น "แม่น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ” กันไปแล้ว โดยตู่ยืนอยู่กับ "พรรคเพื่อชาติ” ในฐานะกองเชียร์ ส่วนเต้นย้ายจากเพื่อไทยในนาทีท้ายๆ ไปปั้น "ไทยรักษาชาติ”


          แน่นอนว่าคนเสื้อแดงจำต้องชั่งใจว่าจะกาแต้มให้พรรคใดระหว่างพรรคของตู่หรือพรรคของเต้น...หรือพรรคหลักอย่าง "เพื่อไทย” เพราะแต่ละฝ่ายต่างหวังมี ส.ส.ไว้ในมือเพื่ออำนาจต่อรองบนเวทีการเมือง


          หากถามว่าสองชีวิตนี้ในสายตา นปช. ที่หนุน “พรรคเพื่อแม้ว” ซึ่งตู่เชียร์และเต้นสังกัดนั้น...ใครมีราคากว่ากัน คีย์แมนคนเสื้อแดงชีวิตหนึ่งที่สัมผัสตู่และเต้นมานานให้คำตอบว่า “วัดกันยาก เพราะแฟนคลับของทั้งสองคนมีมาก แต่ทั้งสองคนนั้นคนเสื้อแดงให้การยอมรับพอกัน"


          “ตู่และเต้น” คือคู่หูและเป็นทีมปราศรัยให้ไทยรักไทยมานาน และเมื่อบิ๊กบังยึดอำนาจจากนายใหญ่ สองชีวิตนี้ก็เป็นแกนนำต้านการรัฐประหารโดยยึดเวทีสนามหลวงเป็นจุดเคลื่อนไหว ยามนั้นคนโตบุรีรัมย์คือหนึ่งในคีย์แมนของนายใหญ่ที่สั่งสอนแนวทางให้ "ตู่และเต้น” ออกมาลุย จน นปก.กลายร่างเป็น นปช. และใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์จวบจนวันนี้

 

          การขับไล่รัฐบาลเมื่อปี 2552-2553 และสู้กับคนเสื้อสีน้ำเงินที่แยกกายจากนายใหญ่ไปหนุนอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือการประกาศอิสรภาพของตู่และเต้นที่มิอาจร่วมเส้นทางชีวิตกับเจ้าของวาทะ "มันจบแล้วครับนาย” ได้ และทำให้ตู่กับเต้นแจ้งเกิดแบบเป็นทางการในสายตาของนายใหญ่

 


          ข้ออ้าง "สู้เพื่อประชาธิปไตย” แต่ใครบางคนมองว่าสู้เพื่อนายใหญ่มากกว่านั้นเพราะมีคำมั่นว่าคนเสื้อแดงต้องได้รับการดูแล ยามนั้น "ใครบางคนสมหวัง” และใครบางคน "พลาด” จากน้ำมิตรของคนกันเอง 


          หากจำกันได้ในตอนนั้นหลังจากเจ๊ปูขึ้นทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า สัญญาใจที่ให้ นปช.ไว้ว่าจะมีการปูนบำเหน็จ "คนที่สู้” กันถ้วนหน้า “แต่เก้าอี้รมต.นั้น ขอคัดสรรสักนิด”


          “จตุพรและณัฐวุฒิ” คือสองแคนดิเดต ที่จะชิงดำกัน...แว่วว่า ทั้งสองต่างหวังกันว่าตัวเองจะสมปรารถนา แต่ท้ายสุดน้องรักหักเหลี่ยมโหดพี่ชายร่วมอุดมการณ์ เพียงเพราะมีใครบางคนปรนเปรอคนใกล้ตัวนายใหญ่ได้เข้าวิน ทั้งที่มีสัญญาใจกันว่า "น้องหลีกทางให้พี่ก่อน...”


          ทำให้ใครบางคนร่ำไห้และประกาศได้นำทัพคนเสื้อแดงก็เป็นเกียรติอันสูงสุดในชีวิตแล้ว และเสมือนรอยร้าวบังเกิด แว่วมาว่า หลังการยึดอำนาจของลุงตู่ การวางแนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดงนั้น รอยปริร้าวชัดขึ้นเพราะตู่มองว่า ก้าวเดินของ พท. ควรไร้เงาของนายใหญ่ แต่เต้นมองว่าจำเป็นต้องใช้ชื่อของนายใหญ่


          ครั้นความเห็นมิลงรอย เส้นทางที่เคยร่วมกันมาก็ถึงทางแพร่งที่แยกย้าย และมิรู้ว่าเส้นทางจะบรรจบให้สองพี่น้องร่วมอุดมการณ์กลับมาเดินในสายเดียวกันได้หรือไม่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ