คอลัมนิสต์

"ทนายไก่" โสดสายขิม ?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  กระดานความคิด  โดย...  บางนา บางปะกง


 

          ต้นปีนี้ หลายคนจับตาความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ซึ่งเป็นการรวมตัวแบบหลวมๆ ของตัวละครระดับแกนนำมีอยู่ 3 คนคือ “รังสิมันต์ โรม” , “สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์” และ “ณัฏฐา มหัทธนา”


          สำหรับ “โบว์ ณัฏฐา” มาในนามกลุ่มพลังมด ที่เป็นการรวมตัวของคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมโบว์ไม่ใช่คนเสื้อแดง ไม่ใช่นักเคลื่อนไหวทางการเมือง

 


          ครูสอนภาษาอังกฤษวัย 39 ปี เริ่มสนใจการเมืองคือเมื่อมีการรัฐประหาร 2549 และการรัฐประหาร 2557 ที่เธอมองว่ามีคนที่ถูกละเมิดสิทธิจำนวนมาก ซึ่งประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นแรงผลักให้เธอเริ่มออกมาทำกิจกรรมต่างๆ โดยการชักชวนของทนายอานนท์ นำภา 

 

          กิจกรรมแรกของเธอคือ การเปิดหมวกช่วยนักโทษการเมือง เธอจึงไปนั่ง “ตีขิม” ที่ถนนข้าวสาร โดยภาพ “สาวโบว์ตีขิม” กลายเป็นแบรนด์ประจำตัวเธอ


          หลังจากเธอก้าวมาเป็นแกนนำ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” สปอตไลท์ก็สาดจับมาที่ตัวเธอ เนื่องจากเป็นผู้หญิงคนเดียวที่โดดเด่นออกมาท้าทายอำนาจเผด็จการ 


          ถ้ายังจำกันได้ 24 กุมภาพันธ์ 2561 มีกิจกรรม “รวมพลคนอยากเลือกตั้ง” ตอน “ปากปราศรัย น้ำใจเชือดเผด็จการ” ที่บริเวณหน้าหอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์


          ในวันดังกล่าว "วัฒนา เมืองสุข“ เดินทางมาปรากฏตัวที่หน้าหอประชุมศรีบูรพา พร้อมบอกนักข่าวว่า "วันนี้แวะมาให้กำลังใจน้องๆ"

 

          เวลานั้น คนใกล้ตัว “โบว์ ตีขิม” คงรู้ว่า วัฒนามาทำไม ? แต่คนทั่วไปก็ไม่แปลกใจ อย่างที่ทราบกัน “ทนายไก่” เปิดหน้าชน คสช. ผ่านสื่อโซเชียลมาโดยตลอด 


          ภาพลักษณ์ของวัฒนา ดูจะเป็นนักการเมืองสไตล์ “นักบู๊” เพราะโดยส่วนตัว สร้างวีรกรรมมาแต่ช่วงที่เรียนนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความเป็น “คนเลือดร้อน” วัฒนาเคยพะบู๊กับเพื่อนนิสิตคณะครุศาสตร์มาแล้ว ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลภายในมหาวิทยาลัย


          ทนายไก่เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาผ่านการใช้ชีวิตแบบเด็กวัดมาก่อน จึงทำให้เป็น “คนสู้คน” แต่จะยอมให้แก่คน 3 กลุ่มเท่านั้น ได้แก่ คนเก่ง, คนดี และคนที่รักเขา


          แม้มีบุคลิกแบบมวยไทยไฟเตอร์ แต่อีกด้านหนึ่ง ก็เป็น “ผู้ชายเจ้าเสน่ห์” ตอนที่ยึดอาชีพทนายความ มีลูกความชื่อ “พัชรา เจียรวนนท์” มาติดต่อไปจัดการเรื่องคดีความ และความสัมพันธ์นั้นกลายเป็นความรัก


          ทนายไก่ มนุษย์พันธุ์เชื่อมั่นตัวเองสูง กล้าเป็นเถ้าแก่ให้ตัวเองไปเจรจาขอลูกสาวจากสุเมธ เจียรวนนท์ ถึงตึกซีพีทาวเวอร์ พร้อมจัดพิธีแต่งงานกับพัชรา เมื่อปี 2535


          หลังเป็น “เขยซีพี” ได้ไม่กี่ปี ทนายไก่ตัดสินใจสมัคร ส.ส.ที่บ้านเกิด ปราจีนบุรี ในฤดูเลือกตั้ง 2539 ด้วยการชักนำของ สมาน ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี หลายสมัย จนได้เป็น ส.ส.สมัยแรกในสีเสื้อพรรคชาติพัฒนา ก่อนจะย้ายมาค่ายทักษิณ


          ถ้าทนายไก่ยังจำได้ ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า โชคดีที่ได้รับใช้นายกรัฐมนตรีถึงสองคน คือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน และทักษิณ ชินวัตร พร้อมยังใกล้ชิดคนเก่งอย่างสุเมธ เจียรวนนท์ ผู้เป็นพ่อตา


          พลันที่เติบใหญ่ ได้เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นบำเหน็จแห่งการทำหน้าที่องครักษ์ทักษิณ ทั้ง รมช.พาณิชย์, รมว.พาณิชย์, รมว.อุตสาหกรรม และ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทนายไก่ก็ปลดยี่ห้อ “เขยซีพี” ออกไป 


          10 กว่าปีมานี้ ทนายไก่กลับมา “โสดแต่ไม่สนิท” โดยช่วงที่ คสช.ครองอำนาจ ทนายไก่หันไปรับบท “นักปั้น” โดยพยายามเทรนนักการเมืองรุ่นน้องให้เป็น “ดาวยั่วเผด็จการ" 


          ปลายปีที่แล้ว ทนายไก่เบนเข็มไปที่ “นักเคลื่อนไหวป้ายแดง” ด้วยหวังจะดำเนินยุทธศาสตร์ “เพาะเป้าสร้างแกน” ให้ขับเคลื่อนขบวนการประชาชนต่อต้านเผด็จการ 


          ทนายไก่วาดหวังจะให้ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” แปรสภาพเป็นองค์กรภาคประชาชน คล้ายกับ นปก. หรือ นปช.ในอนาคต จึงทุ่มเทสุดกำลัง


          ปรากฏว่า ต่างฝ่ายต่างให้การศึกษา ซึ่งกันและกัน จนลงเอยเป็นความรัก...เหมือนนิยายเรื่อง “ด้วยรักแห่งอุดมการณ์” เสียงขิมนั้นมีมนต์เสน่ห์เหลือเกิน จนทำให้นักการเมืองสายบู๊ต้องสยบยอม 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ