'นอภ.คลองหลวง'..ไปต่อไม่รอ(เคลียร์)แล้วนะ!

 

          ตลอดห้วงเวลาที่ประเทศไทยปกครองด้วย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. มักจะเห็นหน่วยงานภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบสังคมอย่างจริงจัง นั่นคือ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย อาทิ การปราบค้ามนุษย์ จับลักลอบเล่นการพนัน ปราบปรามยาเสพติด กวดขันสถานบันเทิงเปิดเกินเวลา ที่กลายเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาของเยาวชน ฯลฯ​ 

 

          การจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะการกวดขันสถานบันเทิง แน่นอนว่าส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการเสียผลประโยชน์จนนำไปสู่การ “วิ่งเต้น” เพื่อเคลียร์ให้ตัวเองไม่ถูกดำเนินการตามกฎหมายทั้งที่ผิด ซึ่งอาจมาในรูปแบบให้ข้าราชการที่เจ้าตัวรู้จักมาช่วยเจรจาคนในหน่วยงานรัฐด้วยกันจนเป็นที่มาของคำว่า “ส่วย” และการ “คอร์รัปชั่น” ในวงราชการ 

 

 

 

          แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นของ นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้สร้างให้คนในสังคมเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาของข้าราชการที่ต้องทำงานรับใช้ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน โดยจะไม่ยอมให้มีการวิ่งเต้นเพื่อผลประโยชน์ของเหล่าธุรกิจสีเทาเข้มจนถึงดำ ต้องปราบปรามและดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา

          เรื่องความ “เถรตรง” ของนายอำเภอคลองหลวง ถูกเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ส่วนกำกับ สืบสวนและปราบปราม” ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้โพสต์ภาพหน้าห้องทำงาน นายนิติชัย ที่ติดประกาศ 3 ฉบับ พร้อมประกาศหน้าห้องอีกแผ่นหนึ่ง โดยระบุว่า เนื่องจากห้วงเวลานี้มีบุคคลที่ไม่คุ้นเคยหลายบุคคลขอเข้าพบนายอำเภอ โดยแอบอ้างผู้ใหญ่ของบ้านเมืองบ้าง อ้างว่ามีเรื่องสำคัญปรึกษาบ้าง ฯลฯ แต่กลับปรากฏว่าใช้การเข้าพบนั้นเพื่อผลประโยชน์แอบแฝงบางประการ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนและความบริสุทธิ์ใจในการเข้าพบ และมิให้เสียเวลาของทางราชการ จึงขอให้ท่านที่จะเข้าพบ แสดงชื่อ-นามสกุลจริง (แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวอื่นๆ) เรื่องที่จะขอเข้าพบและหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำหน้าห้อง ซึ่งจะบันทึกไว้เป็นหลักฐานทางราชการ และทางราชการพร้อมที่จะรับฟังเป็นอย่างดี โดยวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของทางราชการและประชาชน มิใช่ประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลใดๆ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ศีลธรรมอันดี และความถูกต้อง โดยเฉพาะไม่เป็นการเบียดบังเวลาของทางราชการโดยมิชอบ

 

 

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนิติชัย อธิบายว่า ตามที่มีหนังสือตราครุฑประกาศทั้ง 3 ฉบับติดอยู่ที่หน้าห้องนั้น ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของราชการที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาทางราชการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของรัฐก็มีงานต้องทำ แต่กลับต้องมาพูดคุยกับคนที่เข้ามาวิ่งเต้น รวมทั้งขอเข้าพบพูดคุยในสิ่งที่ไม่ส่งผลให้เกิดกับประชาชนโดยส่วนรวม ซึ่งในการปฏิบัติงานที่ผ่านมาทางฝ่ายปกครองได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ปราบปรามป้องกันการระบาดของยาเสพติด ออกกวาดล้างตัดพืชกระท่อม และตรวจสถานบันเทิง ทุกภารกิจประสงค์ผลสำเร็จตามจุดมุงหมาย มีบ้างผลกระทบเสียงบ่น เป็นเรื่องปกติของผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์ แต่จุดมุ่งหมายในการทำหน้าที่คือความสุขโดยรวมของประชาชน

          นายนิติชัย บอกว่า ในอำเภอคลองหลวงมีพื้นที่ 299.2 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่เศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของ จ.ปทุมธานี จำนวนประชากร 274,012 คน มีมหาวิทยาลัยจำนวน 5 แห่ง มีเขตอุตสาหกรรมนวนครที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด จึงเป็นที่หมายปองของกลุ่มประกอบกิจการที่ไม่ค่อยจะถูกต้อง ไม่เรียบร้อย ด้วยอำนาจหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องดูแลและรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยเคารพกติกาของสังคมและกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งก็เหมือนกับอำเภออื่นๆ 

          “ถ้าจะมาเข้าพบหรือจะมาติดต่อก็สามารถทำได้ หากเป็นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายและกติกาของสังคมไม่ต้องมา ไปทำมาหากินอาชีพสุจริตดีกว่า ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติหน้าที่ทราบดีว่าผู้ที่ต้องถูกดำเนินการปราบปรามต้องเสียเวลาไปประกันตัว เสียเวลาไปขึ้นโรงขึ้นศาล ทั้งหมดนั้นเป็นหน้าที่ของข้าราชการที่จะละเว้นไม่ได้” นายนิติชัย กล่าวย้ำ

          เมื่อเป็นเช่นนี้เหล่านักธุรกิจสีเทาเข้มก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้นให้เสียเวลา ต้องยอมรับชะตากรรมตามกระบวนกฎหมาย เพราะนายอำเภอคลองหลวงยังเดินหน้าปราบอบายมุข หรือจะเรียกว่า ไปต่อไม่รอ(เคลียร์)แล้วนะ..!!