คอลัมนิสต์

LINE VISITOR เยี่ยมนักโทษทางไกล อยู่ไหนก็คุยได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... ขยายปมร้อน โดย... ปิยะนุช ทำนุเกษตรไชย

 

 
          หลังจากเปิดทดลองระบบเยี่ยมญาติทางไกลผ่านจอภาพแบบเห็นหน้า หรือวิดีโอคอล ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ครอบครัวและญาติของผู้ต้องขังให้เยี่ยมญาติทางไกลใน 5 เรือนจำนำร่อง คือ เรือนจำกลางพิษณุโลก เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางเชียงใหม่ เรือนจำกลางคลองไผ่ และเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พบว่าได้รับการตอบรับจากครอบครัวของผู้ต้องขังเป็นที่น่าพอใจ เพราะนอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังทำให้ทั้งญาติและนักโทษมีความรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทำให้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตั้งเป้าจะขยายให้ครบในเรือนจำทั้ง 10 ภูมิภาค เพื่อลดช่องว่างระหว่างญาติกับผู้ต้องขัง

 


          และด้วยความพร้อมของเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ จึงทำให้ระบบการเยี่ยมญาติ...ไปไกลกว่าที่คิด


          นโยบายที่ส่งถึงเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งทั่วประเทศ คือให้นำเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต พร้อมจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีอยู่แล้วในเรือนจำมาติดตั้งระบบเพื่อให้บริการประชาชน เยี่ยมญาติผ่าน LINE VISITOR หากระบบอินเทอร์เน็ตของเรือนจำมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลไม่เพียงพอ ก็ขอให้ประสานหน่วยงานผู้ให้บริการเข้ามาเพิ่มความเร็ว


          ตั้งแต่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเรือนจำที่มีความพร้อมเริ่มคิกออฟไปแล้ว โดยสิ่งที่พัฒนาไปไกลกว่าโครงการนำร่อง กล่าวคือ ญาติไม่สามารถใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ส่วนตัว วิดีโอคอลติดต่อสื่อสารหรือพูดคุยกับผู้ต้องขังในเรือนจำได้โดยตรง แต่จะสามารถเยี่ยมผ่านระบบไลน์ของกรมราชทัณฑ์และเรือนจำเท่านั้น ทว่าระบบใหม่ล่าสุดได้มีการพัฒนาใหม่ล้ำกว่าเดิม


          เพียงแค่กดเพิ่มเพื่อน ส่งรูปถ่ายบัตรประชาชนของผู้จองเยี่ยม ส่งรูปถ่ายเอกสารเรียกเก็บค่าบริการโทรศัพท์มือถือ เอกสารรับรองการจดทะเบียนซิมการ์ด ซึ่งเจ้าของเบอร์ต้องมีรายละเอียดชื่อ นามสกุล ตรงกับผู้จองเยี่ยม ส่งข้อมูลชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวนักโทษและแดนคุมขัง พร้อม ID LINE ของผู้ขอเยี่ยม จากนั้นให้รอการตรวจสอบและติดต่อกลับของเจ้าหน้าที่เรือนจำ


          หลังจากได้รับคิวเยี่ยมแล้ว ครอบครัวหรือญาติจะต้องตรวจสอบวันและเวลานัดหมาย และเตรียมความพร้อมในการเยี่ยม โดยหาจุดที่มีความเสถียรของสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพื่อลดโอกาสในการเกิดปัญหาระหว่างการสนทนา รวมทั้งเตรียมตัวรอรับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ก่อนเวลานัดหมายประมาณ 5 นาที เตรียมบัตรประชาชน รอการเรียกตรวจสอบ และการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ในชื่อ VISITBRP1 หรือ VISITBRP2 ในวันและเวลาที่ได้คิวเยี่ยม


          สำหรับกติกาการเยี่ยมของญาติ ถูกกำหนดไว้กว้างๆ 7 ข้อ เช่น ญาติผู้ยื่นจองคิวเยี่ยม ต้องเป็นบุคคลในรายชื่อ 10 คนที่ผู้ต้องขังได้แจ้งชื่อไว้กับทางเรือนจำเท่านั้น, ห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่อยู่ในรายชื่อเข้าร่วมการสนทนา, ในการเยี่ยมแม้จะเป็นการพูดคุยผ่านไลน์ แต่ญาติต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่กระทำอนาจารใดๆ, ต้องอยู่ในสถานที่เหมาะสมกับการสนทนาและยินยอมให้ตรวจสอบสถานที่โดยรอบก่อนสนทนา, ห้ามไม่ให้สนทนาในเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีงามของสังคม, รักษาเวลาในการสนทนาครั้งละไม่เกิน 10 นาที, เจ้าหน้าที่รัฐขอสงวนสิทธิ์ในการตัดสินใจดำเนินการใดๆ ตามความเหมาะสม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการเยี่ยมญาติ


          นอกจากนี้ยังได้กำหนดกติกาการเยี่ยมของผู้ต้องขัง โดยกำหนดให้ผู้ต้องขังที่จะได้รับสิทธิในการเยี่ยมญาติทางไกลผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ต้องเป็นนักโทษ "ชั้นเยี่ยม" เท่านั้น, ผู้ต้องขังจะได้รับสิทธิในการเยี่ยมญาติผ่านไลน์ได้เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น, ผู้ต้องขังต้องไม่อยู่ระหว่างการสอบสวนทางวินัยหรือลงโทษทางวินัย, หากผู้ต้องขังกระทำการใดๆ ส่อไปในทางไม่ถูกต้องเหมาะสม อาจถูกตัดประโยชน์ไม่ให้ได้รับการเยี่ยมญาติผ่านช่องทางนี้อีกต่อไป


          สำหรับบุคคลภายนอก อาจเกิดคำถามหรือข้อสงสัยว่า การเยี่ยมญาติสำคัญอย่างไร ลำบากอย่างไร กรมราชทัณฑ์จึงออกแบบระบบให้ง่าย กระตุ้นให้มาเยี่ยมกันบ่อยๆ ก็ต้องทำความเข้าใจว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักโทษที่มีภูมิลำเนาห่างไกล
เช่น กรณีนักโทษในจังหวัดภาคเหนือ อาจไปกระทำความผิดอาญาและถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือปลายสุดด้ามขวานในภาคใต้ การเดินทางไปยี่ยมญาติแต่ละครั้งต้องใช้เวลาเดินทางไป-กลับหลายวัน หลายครอบครัวต้องหยุดงาน ขาดรายได้ ส่งผลให้นักโทษจำนวนมากที่ติดคุกตลอดหลายปีไม่เคยมีญาติมาเยี่ยมเลย กลายเป็นผู้ต้องขังญาติทิ้ง...ความโดดเดี่ยวจากการถูกทอดทิ้ง ไร้ค่า หมดหวัง เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤตินิสัย เมื่อพ้นโทษออกไปคนกลุ่มนี้จึงกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะกระทำความผิดซ้ำ


          ดังนั้นกรมราชทัณฑ์จึงให้ความสำคัญกับการเยี่ยมญาติเป็นอันดับต้นๆ และพยายามอำนวยความสะดวกให้การเยี่ยมญาติทำได้ง่าย ไม่แพง “วิน-วินโซลูชั่น” ญาติได้ประโยชน์ นักโทษมีกำลังใจอยากกลับตัวเพื่อออกไปใช้ชีวิตกับครอบครัว ราชทัณฑ์ก็ประสบความสำเร็จในด้านลดจำนวนผู้กระทำผิดซ้ำ ขณะที่สังคมภายนอกได้ความสงบสุขปลอดภัย


          และเพื่อให้สอดรับกับระบบเยี่ยมญาติผ่านวิดีโอคอล กรมราชทัณฑ์ยังได้เปิดช่องทางการฝากเงินให้ผู้ต้องขังผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยญาติสามารถใช้บริการธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ฝากเงินเข้าบัญชีเรือนจำส่งเข้าบัตรสมาร์ทการ์ดของผู้ต้องขัง รูดใช้จ่ายซื้ออาหารและเครื่องใช้จำเป็นได้จากร้านค้าสวัสดิการเรือนจำ วันละไม่เกิน 300 บาท หรือเดือนละไม่เกิน 6,000 บาท โดยไม่ต้องเดินทางมาฝากเงินถึงหน้าเรือนจำ


          ที่ผ่านมาฝ่ายญาติเองก็พึงพอใจ ยกตัวอย่าง ภรรยาที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ แต่สามีต้องโทษจำคุกคดียาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช หลายปีที่ผ่านมา ในการเดินทางไปเยี่ยมสามีในแต่ละครั้ง เธอต้องเก็บเงินค่ารถและลางานอย่างน้อย 3 วัน เมื่อเปิดให้เยี่ยมญาติทางไกลผ่านไลน์ เธอสามารถพูดคุยผ่านวิดีโอคอล เห็นหน้าตาได้ยินเสียง อารมณ์ความรู้สึกใกล้เคียงกับห้องเยี่ยมญาติ


          แต่ในการเปิดช่องทางสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติ เพื่อคืนอดีตนักโทษกลับออกไปเป็นคนดีในสังคม ก็ยังมีมุมมิจฉาชีพที่จ้องฉวยโอกาสซึ่งกรมราชทัณฑ์ต้องเฝ้าจับตาและตรวจสอบ โดยมักพบว่ามิจฉาชีพจะแอบแฝงเข้ามาส่องในกรุ๊ปไลน์ของกลุ่มญาติ แล้วทักเข้าไปยังญาติที่มีจุดอ่อน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ผู้คุมแดนนั้นแดนนี้ หลอกให้โอนเงิน 3,000-5,000 บาท เพื่ออำนวยความสะดวกให้พ้นโทษเร็ว ใครเจอพฤติกรรมเช่นที่ว่า อย่าได้หลงเชื่อ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ถูกหลอก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ