คอลัมนิสต์

สี่พรรคขายไอเดีย เมืองไทยหลังหย่อนบัตร ไปทางไหน?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สี่พรรคขายไอเดีย เมืองไทยหลังหย่อนบัตร ไปทางไหน? : คมชัดลึก..ลุยเลือกตั้ง

 

 

          สถานีโทรทัศน์ เนชั่นทีวี ช่อง 22 จัดงาน “Nation TV Fan Day 2018” เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ภายในงานมีการเปิดเวทีประชันวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “อนาคตประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง 2562” โดยตัวแทนพรรคการเมือง 4 พรรคใหญ่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำพรรคภูมิใจไทย โดยมีรูปแบบเป็นการตอบคำถาม 5 ข้อ

 

 

          0 คำถามที่ 1 นักการเมืองทำอาชีพอะไรทำไมถึงร่ำรวยเหลือเกิน
          นายอุตตม กล่าวว่า เป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ที่ผ่านมาไม่ใช่นักการเมือง แต่นักการเมืองคงมีหลายแบบหลายประเภท ก่อนหน้านี้เป็นอาจารย์อยู่ในวงการศึกษาเอกชน เป็นลูกจ้าง สามารถไปดูจากการเสียภาษีได้

 

 

สี่พรรคขายไอเดีย เมืองไทยหลังหย่อนบัตร ไปทางไหน?

 


          นายโภคิน กล่าวว่า นักการเมืองที่จนก็มีเยอะ ถึงต้องมีการเสนอกฎหมายใช้เงินบำนาญ ส.ส. ตนเองเป็นอาจารย์ ครอบครัวมีธุรกิจ นักการเมืองก็ต้องดูแต่ละบุคคลไป แต่นักการเมืองต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและตรวจสอบได้


          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นนักการเมืองอาชีพเหมือนกับนายชวน หลีกภัย และหลายๆคนในพรรคประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่ได้มีเงินมาก ลงพื้นที่ก็ขออนุญาตไม่ใส่ซอง เราโปร่งใสคือแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน แสดงทุกครั้ง พรรคการเมืองมีการเมืองที่โปร่งใส่ ประชาธิปัตย์โชคดี ประชาชนสนับสนุนโดยการบริจาค ประชาธิปัตย์ไม่มีเรื่องของประโยชน์ เพราะไม่มีธุรกิจ เป็นนักการเมืองอาชีพ


          นายสรอรรถ กล่าวว่า คำถามนี้ไม่ดีเอาเสียเลย นักการเมืองก็เหมือนทุกอาชีพ ไม่เคยเห็นนักการเมืองรวยอย่างที่ว่า ไฟไหม้โฉนดยังอยู่แต่เล่นการเมืองหมดเลย ซึ่งการยึดอำนาจครั้งใดก็บอกนักการเมืองฉ้อฉล ตนเป็นนักการเมืองได้บุญเก่า ที่บิดาทำเอาไว้

 

 

สี่พรรคขายไอเดีย เมืองไทยหลังหย่อนบัตร ไปทางไหน?

 



          0 คำถามที่ 2 มั่นใจได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งปีหน้าจะเป็นทางออกของประเทศที่ไม่ใช่ทางตันและมีแนวทางอย่างไรไม่ให้ทางตันเกิดขึ้น
          นายโภคิน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบัน บ้านเมืองจะเดินไปได้ต้องเคารพความเห็นต่าง การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ไม่มีการครอบงำ ถ้าเกิดขึ้นได้ พรรคการเมืองจะยอมรับ และการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่ถูกครอบงำ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลขอทุกฝ่ายให้เคารพกติกา พูดคุยปรึกษาหารือ ถ้าทำแบบนี้ได้ปัญหาจบ


          “เวลาเราคิดว่าได้รัฐบาลไม่ดี ท่านจะทำอย่างไร แก้ไขที่ตัวท่านเองหรือเชิญทหารมาเปลี่ยนรัฐบาล ถ้าเลือกแบบหลังช่วยไม่ได้ ที่ทำให้บ้านเมืองล้มเหลว 80 ปี เพราะวัฒนธรรมอำนาจนิยม รัฐธรรมนูญกำหนด ม.44 ใช้ได้ต่อไป อย่าเห็นผิดเป็นถูก ม.44 แตะต้องไม่ได้”

 

 

 

สี่พรรคขายไอเดีย เมืองไทยหลังหย่อนบัตร ไปทางไหน?

 

 

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะให้ประเทศหลุดออกจากวังวนที่ผ่านมา การเลือกตั้งต้องสุจริตและเที่ยงธรรมเป็นที่ยอมรับ แต่เมื่อผู้เขียนกติกากลายเป็นผู้เล่นด้วย ผู้มีส่วนได้เสียมีอำนาจเหนือ กกต. รัฐบาลปัจจุบันไม่ได้ถูกลดทอนอำนาจลง มีอำนาจทั้งเรื่องโยกย้าย และงบประมาณ


          “อยากให้ท่านประกาศว่า จะไม่ใช้ ม.44 ในการเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้ง ถ้าไม่เกิดความขัดแย้ง ต้องเคารพการตัดสินประชาชน ส.ว.250 คน ไม่ควรใช้อำนาจที่ฝืนเสียงประชาชน หากเลือกตั้งใครรวบรวมเสียงได้เกิน 250 คนก็ให้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล และหลังจากนั้นคนที่มาเป็นรัฐบาล ต้องไม่ใช้อำนาจมิชอบ ทุจริต เพื่อไม่ให้เกิดเงื่อนไขในการประท้วง”


          นายสรอรรถ กล่าวว่า คนที่จะตอบคือประชาชน ผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้วัดว่าประชาชนต้องการการปกครองแบบไหน พรรคการเมืองได้รับคะแนนนิยมมากรวบรวมจัดตั้งรัฐบาลได้ คือได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน วันนี้ยังไม่ทันเลือกตั้ง ก็มีเสียงบ่นว่าการเลือกตั้งมีปัญหา กกต.ไม่เป็นกลาง ซึ่ง กกต.ต้องแสดงให้ชัดเจนว่าตัวเองไม่อยู่ใต้อาณัติใคร เมื่อเลือกตั้งเสร็จทุกพรรคต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าไม่ยอมรับเมื่อไร สิ่งต่างๆ ที่คาดหวังเอาไว้จบทันที งบที่ใช้จะสูญเปล่า เสียงข้างมากบริหาร เสียงข้างน้อยตรวจสอบ

 

 

สี่พรรคขายไอเดีย เมืองไทยหลังหย่อนบัตร ไปทางไหน?

 


          นายอุตตม กล่าวว่า เลือกตั้งแล้วต้องยอมรับการตัดสินประชาชน แต่คำว่ายอมรับ ไม่ใช่จะยอมรับด้วยวาจาเท่านั้น ต้องยอมรับด้วยการปฏิบัติด้วย ต้องปฏิบัติไม่ให้เกิดความเคลื่อนไหวที่นำไปสู่ความวุ่นวาย ยอมรับกติกาทั้งวาจา ทั้งการปฏิบัติ ไม่ทำอะไรนอกกติกา จะทำให้เราเดินหน้าไปได้ ไม่เกิดกีฬาสี มาถึงจุดนี้เราน่าจะมองไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นกกต.หรือรัฐบาล อย่าดูถูกคนไทย คนไทยดูออก ถ้ายอมรับกติกา ปฏิบัติเหมือนวาจา จะทำให้เกิดขึ้นได้


          0 คำถามที่ 3 ทำไมคนไทยต้องเลือกพรรคของท่าน
          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหตุผลทางเศรษฐกิจ ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก มีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ประชาธิปัตย์มีนโยบายแก้ 3 เรื่องนี้เป็นระบบและยั่งยืน จะแก้ไขเชิงโครงสร้าง การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่ดูที่ตัวเลขจีดีพี แต่ต้องชี้ด้วยความเป็นอยู่ของประชาชน ปัญหาการเมือง ซึ่งขาดความเป็นประชาธิปไตย นโยบายด้านสังคม การศึกษา สาธารณสุข ต้องคุ้มค่าในการลงทุน


          นายสรอรรถ เสนอนโยบายว่า การเลือกตั้งบังคับไม่ได้ เราต้องขายนโยบาย ภูมิใจไทยมีอะไรหลายอย่าง แต่ประชาชนยังไม่รู้จักพรรคเรา จุดขายของเราคือ หัวหน้าพรรคเป็นคนมีประสบการณ์ ผ่านการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมาอย่างโชกโชนแม้อายุยังน้อย เรามีคณะกรรมการบริการพรรคที่ดูแลกำหนดนโยบาย เพื่อเตรียมการจัดทำนโยบายพรรค เราทำทุกวัน แก้ไขปัญหาพืชผลการเกษตร ในพรรคเรามีนักวิจัย ไม่ใช่นักวิชาการ


          “หากเลือกภูมิใจไทย ต้นทุนการผลิตลดลง เราสร้างศรัทธา มีความซื่อสัตย์ ตั้งใจทางการเมือง พรรคเราเสนอแนวทางใหม่ วันนี้เราลงสนามกทม.ครบ 30 เขต หวังปักธงกทม.ด้วย”


          นายอุตตม กล่าวว่า พปชร.ไม่มีประวัติศาสตร์ให้ท่าน แต่เรามีพลังรวมของคนจากหลายภาคส่วน ทั้งคนเก่าและคนร่วมสมัย มีความคิดความเห็น อีกทั้งคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่จะทำงานให้พี่น้องประชาชน

 

 

สี่พรรคขายไอเดีย เมืองไทยหลังหย่อนบัตร ไปทางไหน?

 


          “หนีไม่พ้นเรามีนโยบายตอบโจทย์ประเทศไทย วันนี้ต้องถามคนไทยว่า ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งหรือไม่ วันนี้ไม่กลับไปเหมือนเดิม สงบ และจะเดินต่ออย่างไร ปัญหาสะสมมากี่รัฐบาล เรามีนโยบายแก้ไขสังคม พาประเทศไปในโลกยุคใหม่ มองยึดโยง เราจะปล่อยทั้งแผง บนเสา 4 เสา คือสร้าง เสริม ปรับ เปลี่ยน”


          นายโภคิน กล่าวว่า วันนี้ประชาชนลำบากมาก วัดจากการล้วงกระเป๋าแล้วไม่มีเงิน มันไม่ใช่แค่ตัวเลขจีดีพี ความเหลื่อมล้ำสูงมาก รัฐบาลช่วยแล้วแต่ช่วยให้แต่เงิน ไม่ได้ให้โอกาส ยกตัวอย่าง ข้าวทุกวันนี้ ผู้ขาย ผู้ผลิต ไม่ได้กำหนดราคา ผู้ซื้อเป็นคนกำหนดราคา โลกสมัยนี้ผู้ซื้อผู้ขาย ต้องไม่ผ่านคนกลาง


          “พรรคเพื่อไทยจะหมุนที่ฐานราก ถ้าเราไม่หมุน 4 ปีกว่า ไม่หมุนเอาเงินมาให้ ประชาธิปไตยที่ปัญหาเกิดขึ้น อำนาจนิยม คนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ การแก้รัฐราชการเป็นรัฐประชาชน วันนี้ประชาชนทำมาหากินติดขัด เหตุที่กฎระเบียบต่างๆ ผมคิดว่าอย่าไปห่วง เรื่องความแตกแยก ผู้คนมีบทเรียนทุกฝ่าย เราต้องลดทิฐิอคติต่างๆ ศาลต้องยุติธรรม ไม่มีอคติ"


          0 คำถามที่ 4 วางสถานะอย่างไร ที่จะนำพาไทยไปเวทีโลก
          นายสรอรรถ กล่าวว่า การเป็นประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับ ประเด็นสำคัญคือต้องทำให้เกิดความชัดเจน ว่าเลือกตั้ง บริสุทธิ์ ยุติธรรมเป็นที่ยอมรับ มีการเลือกตั้ง ให้ยูเอ็นเข้ามาดูการเลือกตั้ง เราควรบริสุทธิ์ยุติธรรม องค์กรที่อยู่ภายในไทย ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมจริงๆ จะเป็นสิ่งทำให้ว่าประเทศเรามีการพัฒนาแล้ว อย่าไปทำอะไรที่เอารัดเอาเปรียบ จะตอบโจทย์ลำบาก


          นายอุตตม กล่าวว่า เราต้องกำหนดจุดของเมืองไทยในเวทีโลก ให้เกิดประโยชน์กับเรามากที่สุด เราอยู่ในเวทีโลก และค้าขายทั่วโลก หลังการเลือกตั้งมาดูกันว่าพรรคไหนจะมีโอกาสเข้ามารับใช้ประชาชน ตรงนั้นจะบอกว่า ประเทศไทยจะใช้ประโยชน์จากนโยบายได้มากน้อยแค่ไหน

 

สี่พรรคขายไอเดีย เมืองไทยหลังหย่อนบัตร ไปทางไหน?

 


          “ไทยได้รับความสนใจในเวทีโลกมาก เพราะด้วยพื้นที่ฐานที่ตั้ง ทุกคนมองทรัพยากร วันนี้ต้องปรับทั้งคน เศรษฐกิจ สังคมไทย ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด เรามีจุดยืน เศรษฐกิจค้าขาย เราสามารถที่จะใช้ศักยภาพ ปรับเปลี่ยนให้ได้มากที่สุด จุดยืนประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่เวทีโลกคาดหวังแต่ประธิปไตย ต้องเป็นประชาธิปไตยที่มีเงื่อนไข”


          นายโภคิน กล่าวว่า ยุทธศาตร์ชาติ 20 ปี ให้เกิดการค้าเสรี สงครามการค้าต้องละเอียดรอบคอบ เรื่องนี้ต้องดำเนินควบคู่ไปกับความเป็นประชาธิปไตยด้วย


          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญ เราต้องเรียนรู้ว่าต้องอยู่อย่างไร ประชาชนพร้อมนำพาประเทศให้ต่างประเทศ ยอมรับหรือไม่ สังคมโลกยอมรับ สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือปกป้องประโยชน์ตัวเราเอง เราสนใจกระแสจากต่างประเทศมากเกินความจำเป็น ถ้ามีความสามารถในการเจรจาในการค้า ปีหน้าไทยจะเป็นประธานอาเซียน เราต้องใช้ให้เป็นประโยชน์


          0 คำถามที่ 5 การจัดตั้งรัฐบาลภายหลังเลือกตั้ง มีจุดยืนและเงื่อนไขในการจัดตั้งอย่างไร ยอมจับมือพรรคไหน อย่างไร
          นายอุตตม กล่าวว่า ได้พูดคุยกับฝ่ายการเมืองและสื่อหลายฝ่าย เลือกตั้งแล้วเป็นขั้วใหม่ ถ้าการเมืองแบบเดิมจะลงตัวหรือไม่ พปชร.เกิดมาใหม่ ไม่มีส่วนขั้วไหน เราจะมีส่วนร่วมนำพาประเทศสู่การเลือกตั้ง ให้การเลือกตั้งที่ยอมรับประเทศเดินหน้าไปได้ การจับขั้วนั้น เราคิดว่ายังไม่ถึงเวลา วันนี้มองว่าเร็วไป พวกเราผ่านการเลือกตั้งกี่ครั้ง ควรรอผลออกมา แล้วพรรคจะคุยจริงจัง จะจับอย่างไร จัดตั้งแล้วให้รัฐบาลมีเสถียรภาพทำงานสานต่อนโยบายที่นำเสนอ ทำให้จริงจังได้


          “พปชร.นำเสนอนโยบาย ตัวเลือก บุคลากรให้ได้เห็นได้ตัดสิน เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งว่า ประชาชนได้อะไรจากพรรค ไม่ใช่การกระทำไปมุ่งเรื่องขั้วถามว่า พปชร.พร้อมจับมือเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์หรือไม่ สองพรรคนี้ได้ออกมาบอกแล้วว่าไม่จับมือพปชร. ผมถือว่ายังไม่ได้ยินจากพรรคใดโดยตรง เรียนว่า พปชร.ไม่ได้คิดเรื่องขั้ว คิดแต่เรื่องเสนอนโยบายการแก้ไขปัญหา รอผลออกมา มันต้องคุยแน่ๆ แต่ยังไม่ถึงเวลา หากถามรัฐบาลหลังการเลือกตั้งอยู่ได้นานเท่าไร ตรงนี้เป็นเรื่องของประชาชน ตอบว่ารัฐบาลจะทำงานได้แค่ไหน อยู่ได้กี่วันกี่เดือน ไม่มีใครบอกได้ รอดูว่าตัวเลขเป็นแบบใด ใครจับใคร ประพฤติตนเช่นใด”


          นายโภคิน กล่าวว่า วันนี้อาจจะยังเร็วเกินไปแต่แนวทางหลักพรรคเพื่อไทยร่วมงานกับใคร จะดูอุดมการณ์พรรค พรรคพูดไว้ชัดว่าต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ ประเด็นอยู่ที่ว่า ถ้าพรรคใดเสนอชื่อนายกฯ ที่ยึดอำนาจประชาชนไป พรรคเพื่อไทยไม่สบายใจ เราไม่อยากเห็นพรรคใดที่ยึดอำนาจจากประชาชน แบบนี้จับมือคงลำบาก ถ้ายอมแบบนี้ได้ สิ่งที่พูดมาทั้งหมด คือว่าประเทศมาจากอำนาจนิยม


          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พปชร.มีประวัติ เพราะประกอบด้วยนักการเมืองหลายขั้ว เราก้าวอย่างเรียนรู้ รัฐบาลจะอยู่ได้นาน รัฐบาลรักษาศรัทธาจากประชาชนได้หรือไม่ หากเป็นรัฐบาลผสม ก็จะมีปัจจัยผสมกัน แย่งเค้กแบ่งผลประโยชน์ เกิดความวุ่นวาย มีเหตุการณ์ประชาชนไม่ยอมรับ ไม่มีใครอยากไปประท้วง แต่มีการใช้อำนาจที่ไม่ชอบ อย่าอ้างแต่กฎหมาย ถ้าเสียงส่วนใหญ่ประชาชนสนับสนุนให้ได้มีโอกาสบริหารประเทศ คือหลักพื้นฐานประชาธิปไตย เพราะมีสิทธิกว่า สังคมเลือกคนเหล่านี้มาแล้ว อย่าให้ใครบอกว่าออกแบบรัฐธรรมนูญ ต้องมา พรรคใหญ่พรรคเล็ก มันอยู่ที่คนเลือก


          “การเลือกตั้งครั้งนี้อย่าไปยึดติดตัวบุคคล ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ หรือนายทักษิณ ต้องเลือกว่าจะเดินไปเส้นทางไหน ถ้าเห็นว่า 4-5 ปีผ่านมาดีอยู่แล้ว ก็เลือก พปชร. ถ้าเห็นว่าเพื่อไทยก็เลือกเพื่อไทย เห็นประชาธิปัตย์ก็เลือกประชาธิปัตย์ หลังจากเลือกมาแล้วจะมีคำตอบ ประชาธิปัตย์ต้องดูแนวทางว่าจะร่วมกับใคร หากร่วมแล้วไม่เป็นประโยชน์ก็เป็นฝ่ายค้านง่ายๆ”


          นายสรอรรถ กล่าวว่า ภูมิใจไทยอยู่เหนือความขัดแย้ง ทำงานได้กับทุกพรรคการเมืองทุกพรรค เรายึดตัวเลขเสียงข้างมากเป็นหลัก ประเด็นสำคัญนโยบายไปด้วยกันได้ ได้รับเกียรติในการทำงาน เงื่อนไขทั้งหมด ถ้าประชาชนเลือกมาทำไมเราต้องไปร่วมกับคนอื่น คนอื่นต้องมาร่วมกับเรา ถ้าหากใครต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งให้เลือกภูมิใจไทย
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ