คอลัมนิสต์

ส่องเม็ดเงินช่วยคนจนของบิ๊กตู่..ใครได้อะไรบ้าง? 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ส่องเม็ดเงินช่วยคนจนของบิ๊กตู่..ใครได้อะไรบ้าง?  : คอลัมน์... ขยายปมร้อน

 

 

          รัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เริ่มนโยบาย "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” ตั้งแต่ปลายปี 2560 จนถึงตอนนี้ “ซานต้าตู่” อนุมัติงบประมาณไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท และกำลังจะแจกอินเทอร์เน็ตทางโทรศัพท์มือถือให้ผู้ถือบัตรคนจนทั่วประเทศ คนละ 50 บาท/เดือน (คาดว่าจะใช้งบประมาณอีก 4,200 ล้านบาท)

 

 

          การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล พบว่า มีผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น 11.4 ล้านคน และมีการเก็บตกในรอบสอง(สำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง เพิ่มอีก 3.1 ล้านคน) รวมเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งสิ้น 14.5 ล้านคน ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลนับจากเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560


          และการมอบของขวัญปีใหม่คือเงินสด 500 บาท กรมบัญชีกลางจ่ายเงินตามมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 500 บาทต่อคน เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้แก่ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 11.4 ล้านคน ระหว่างวันที่ 8–10 ธันวาคม 2561 ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการสามารถเบิกเป็นเงินสดออกมาจากบัตรได้ โดยสองถึงสามวันที่ผ่านมา มีคนต่อคิวรอกดเงินจากตู้เอทีเอ็มกันทั่วฟ้าเมืองไทย


          “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างว่า “นายกฯ บอกด้วยว่า รัฐบาลทำมาตลอด 4 ปี เพื่อสร้างโอกาสในระยะยาวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น แก้หนี้นอกระบบ จัดสรรที่ทำกิน เกษตรแปลงใหญ่ ออกกฎหมายให้คนอยู่ร่วมกับป่า กฎหมายใช้ไม้มีค่าค้ำประกันทางธุรกิจ กฎหมายวิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้าน พิโกไฟแนนซ์ แฟรนไชส์สร้างอาชีพ ตลาดประชารัฐ อีคอมเมิร์ซ ฯลฯ จึงอยากให้สังคมดูตรงนี้ด้วย”


          หลายฝ่ายบนโลกออนไลน์แสดงทัศนะต่างๆ นานาว่า งานนี้ลุงตู่มองระยะหวังผลทางการเมืองเพราะแกนนำ “พลังประชารัฐ” ต่างพูดชัดๆ เมื่อหลายวันก่อนว่า ”พรรคจะใช้โครงการประชารัฐในการหาเสียง”

 



          ฉะนั้นเมื่อถอดความตามที่คีย์แมนพปชร.แจ้งต่อผู้สมัครส.ส.ของพรรคให้เข้าใจถึงรายละเอียดที่ต้องไปบอกชาวบ้านร้านตลาดให้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ของบัตรใบนี้นั้น แน่นอนว่าหลายฝ่ายอัดตรงไปว่า “บัตรใบนี้เสมือนพาสสปอตที่ประทับตรารับรองแล้วสำหรับคนของพปชร.ที่จะเดินลุยเก็บแต้มใน 350 เขตเลือกตั้ง” เพราะคีย์แมนพลังประชารัฐมองว่า ”อย่างน้อยบัตรใบนี้น่าจะแปรมาเป็นคะแนนเสียงให้พปชร.และลุงตู่ชื่นใจได้บ้าง”


          เม็ดเงินนับแสนล้านบาทที่ซานต้าตู่อาสาดูแลชาวประชาที่มีรายได้น้อยรวมทั้งผู้สูงวัยและผู้ป่วยติดเตียงนั้น เกมนี้เสมือนดาบสองคม...ที่พร้อมจะเฉือนคู่แข่งทางการเมืองและกรีดเจ้าของดาบได้ในคราวเดียวกัน อย่าลืมว่าหลายรัฐบาลใช้มาตรการนี้ดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่บางฝ่ายมองว่ามี "นัยสูงยิ่งทางการเมือง”


          “ประชานิยม” เกิดในยุคของนายใหญ่นายเหลี่ยม ต่อมาขยายผลในมาตรการ 6 เดือน ช่วยคนจน ของรัฐบาลพรรคพลังประชาชน และรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำมาใช้และขยายระยะเวลาเพิ่มในเวลาต่อมา รวมทั้งเริ่มโครงการเช็คช่วยชาติและกลายมาเป็นโครงการช็อปช่วยชาติ


          แต่ประชานิยมที่มาแรงและขยับต่อยอดแบบสูงยิ่งคือยุค "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท, ขึ้นเงินเดือนแก่ผู้จบปริญญาตรีไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท, แจกแท็บเล็ตแก่เด็กประถมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศ, การชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบางประเภทชั่วคราว, บัตรเครดิตพลังงาน สำหรับรถโดยสารสาธารณะ, พักหนี้ครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาท 3 ปี, ปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 5 แสนบาท, เบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ, ลดภาษีบ้านหลังแรกและรถยนต์คันแรก, ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล, เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท และงบกองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) อีก 3-5 แสนบาท, นำระบบรับจำนำสินค้าเกษตรมาใช้สร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้แก่เกษตรกร โดยรับจำนำข้าวเปลือกและข้าวหอมมะลิ ความชื้นไม่เกิน 15% ราคาเกวียนละ 15,000 บาท และ 20,000 บาท


          โครงการเหล่านี้ในอดีตมีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ส่งผลลบต่อชาติด้านงบประมาณ เพราะหลายโครงการเสมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แม้ประชานิยมจะกลายเป็นประชารัฐในยามนี้ แต่คนการเมืองรวมทั้งลุงตู่ต่างมองออกและมีบางสิ่งบางอย่างถวิลหาในใจกับโปรโมชั่นคราวนี้...

 

          ขอเตือนไว้นิด...ระวังดีๆ เพราะบางคนและบางพรรคกำลังสะสมข้อมูลเพื่อจะฟ้องเอาผิดกับโครงการนี้ "เพราะมีการหวังผลทางการเมืองด้วยการใช้ภาษีของประชาชน” ฉะนั้นใครที่เกี่ยวข้องต้องพร้อมชี้แจงให้กระจ่างด้วย
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ