จุดอ่อน - จุดแข็ง? "บิ๊กตู่" นั่งบัญชีนายกฯ พลังประชารัฐ

 

                ในเมื่อชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาเป็นอันดับ 1 ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ สิ่งที่น่าวิเคราะห์คือ “ยุทธศาสตร์” นี้ มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร?

                ดูที่จุดอ่อนก่อน

                อย่างแรก มาทันทีที่มีกระแสข่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์” จะอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคการเมือง คือเรื่อง “สืบทอดอำนาจ”

                ต้องบอกว่าข้อวิจารณ์นี้มีมาตั้งแต่เริ่มต้นมีข่าวว่าฝ่าย คสช.จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา และจะเสนอชื่อ “บิ๊กตู่” อยู่ในบัญชีนายกฯ และจริงๆ ถ้าย้อนไปถึงตอนร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีการกำหนดประเด็นนี้ขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่กำหนดให้นายกฯมาจาก “บัญชีนายกฯ” โดยไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแล้วว่า นี่คือ “กลไก” ที่วางเอาไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ เพื่อลบข้อครหาเรื่อง “นายกฯคนนอก”

                แม้กระทั่ง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” แกนนำพรรคพลังประชารัฐเอง ก็แสดงความห่วงใยในเรื่องนี้ โดยบอกว่า "หาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ จะมีการวิจารณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจ ซึ่งที่ผ่านมามีพรรคการเมืองบางพรรคพูดเรื่องนี้อยู่เสมอ และเชื่อว่ายิ่งใกล้วันรับสมัคร ส.ส. และลงคะแนนจะยิ่งเอาประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาพูด"

 

(อ่านต่อ..."สมศักดิ์" ห่วง"พปชร."ชง"ประยุทธ์"นั่ง"นายกฯ")

 

                ถึงแม้สมศักดิ์ จะพยายามบอกว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องนี้ เพราะเขาไม่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมีพฤติกรรมที่เป็นการสืบทอดอำนาจ แต่การที่เขาพูดเรื่องนี้ออกมา ก็แสดงว่ามีความกังวลอยู่

                จุดอ่อนที่สอง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องโดนกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง “หัวหน้า คสช.” แน่นอน เพราะบทบาทของหัวหน้า คสช.คือผู้มีอำนาจพิเศษ ผู้ควบคุมกฎ เมื่อจะลงสนามแข่งขันด้วยก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งนี้ เพราะจะเป็นการเอาเปรียบคู่แข่ง

                กระแสเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า คสช.เพื่อมาลงแข่งขันกันแบบแฟร์ๆ มีมาเป็นระยะ 

                ล่าสุดเมื่อประเด็นว่าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯกลับมาอีกครั้ง "ภูมิธรรม เวชยชัย" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาบอกทันทีว่า "หากจะอาสาเป็นผู้นำทางการเมือง และต้องการให้ตัวเองมีความสง่างามในสายตาของนานาชาติ และประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นแบบอย่างของนักการเมืองที่คำนึงถึงวัฒนธรรมการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย ต้องเคารพในจริยธรรมที่ควรจะมี เรื่องนี้ไม่ต้องให้ใครบอก ผู้นำระดับสูงต้องคำนึงถึงจิตสำนึก ไม่ต้องให้ใครมาเรียกร้อง หรือรักษามารยาท และควรแสดงสปริตอย่างที่คนอื่นเขาทำกัน"

 

(อ่านต่อ..."ภูมิธรรม"ซัด"บิ๊กตู่"จะลงบัญชีนายกฯต้องแสดงสปิริต)

 

                อย่างไรก็ตาม ฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ ก็เตรียมแก้เกมเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จากที่ก่อนหน้านี้เคยมีกระแสออกมาว่าจะวางให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค

                แน่นอนการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ก็จะสามารถรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองกับพรรคพลังประชารัฐได้ และช่วยลดข้อครหาได้ระดับหนึ่ง

                ทั้งนี้ในรัฐธรรมนูญไม่ได้บังคับว่าผู้ที่อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคการเมืองจะต้องเป็นสมาชิกพรรคด้วย มีกำหนดเงื่อนไขไว้เพียง 2 ข้อ คือ 1.เจ้าตัวต้องยินยอม และ 2.ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นรัฐมนตรี โดยให้อยู่ในบัญชีนายกฯได้เพียงพรรคเดียว

                “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯมือกฎหมายของรัฐบาล ออกมาพูดหลายครั้งว่า “บุคคลที่จะอยู่ในบัญชีนายกฯ ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรค” และ พล.อ.ประยุทธ์ เอง ก็เคยพูดเช่นกัน

 

 

                มาที่จุดแข็งบ้าง

                อย่างแรกที่น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่มีการตัดสินใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ คือ เชื่อว่า “บิ๊กตู่” จะช่วย “ดูดคะแนน” มาให้พรรคพลังประชารัฐได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งจากผลโพลต่างๆที่ออกมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะมีคะแนนนิยมนำอยู่ตลอด

                เกมของฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ คือ ให้พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส. 126 เสียง เพื่อไปรวมกับ ส.ว.ที่มาจากการเลือกของ คสช.อีก 250 คน เป็นเสียงข้างมากในการเลือกนายกฯ คุมเกมในการตั้งรัฐบาล

                ย้ำว่าฝ่ายนี้ต้องการเพียง 126 เสียงเพื่อไปรวมกับ 250 เสียงของ ส.ว.ที่มีตุนอยู่ในกระเป๋าแล้ว ขณะที่อีกฝ่ายต้องรวม ส.ส.ทั้งหมดให้ได้ 376 เสียง จึงจะสามารถตั้งรัฐบาลได้

                ล่าสุดทางพรรคพลังประชารัฐแสดงความมั่นอกมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.มากถึง 150 คน

                ตรงกันข้าม หากพรรคพลังประชารัฐไม่มี “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่ในบัญชีนายกฯ ความฟู่ฟ่าของพรรคนี้ก็จะตกลงไปทันที

                จุดแข็งที่สอง คือ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคการเมืองตั้งแต่แรก จะทำให้ลบข้อครหา “นายกฯคนนอก” ออกไปได้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอีกเกม คือ ไม่อยู่ในบัญชีนายกฯแล้วรอให้รัฐสภาเลือกรอบแรกไม่ได้ และเข้ามาในก๊อกสอง เกมนั้นนอกจากจะเสี่ยง เพราะพรรคการเมืองอาจจะตกลงกันได้ตั้งแต่ต้น และต้องใช้เสียงมากถึง 500 คน ยังจะโดนครหาว่าเป็นนายกฯคนนอก ไม่สง่างามอีกด้วย  

                ทั้งหมดคือ จุดอ่อน และจุดแข็งในการอยู่ในบัญชีนายกฯพรรคพลังประชารัฐของ “บิ๊กตู่”

 

                แน่นอนทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พรรคพลังประชารัฐ ก็คงประเมินแล้วว่า “ยุทธศาสตร์” นี้ พวกเขาจะได้มากกว่าเสีย และเชื่อว่าจะทำให้ฝ่าย คสช.บรรลุเป้า “เพื่อไม่ให้เสียของ”

                แต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ ต้องติดตาม

 

==================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

 

(ดูคลิป) เกาะติดเลือกตั้ง : จุดอ่อน - จุดแข็ง “บิ๊กตู่” อยู่บัญชีนายกฯพลังประชารัฐ