คอลัมนิสต์

หยุดจนครบวงจร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หยุดจนครบวงจร : คอลัมน์... กระดานความคิด โดย.... บางนา ห้าสิบหก

 

 

          ปัญหาปากท้อง หนังม้วนเก่าที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ขยันสรรค์สร้างวาทกรรมขึ้นมาดิสเครดิตกันเช้ายันค่ำและอย่างสม่ำเสมอ ลองหลับตาประมาณเอาว่า ทันทีที่โอกาสเปิด หลัง คสช.คลายล็อกประมาณกลางๆ เดือนธันวาคม กิจกรรมเขย่าพรรคหนุนหลังทหาร(ทั้งที่เปิดตัวออกหน้า และเป็นแนวร่วมในสถานะของตัวแปร) จะยิ่งคึกคัก ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคำว่า สืบทอดอำนาจ - อย่าเลือกฝั่งเผด็จการ

 

 

          เรื่องเงินๆ ทองๆ ชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงปัญหาหนี้สินของชาวบ้านร้านตลาดในช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง เอาเข้าจริงน่าจะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายของพรรคการเมือง ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า นโยบายสวยหรูใดๆ ด้วยซ้ำ


          อย่างมาตรการเสริมสภาพคล่องให้คนฐานรากแบบที่แจกจ่ายกันโดยตรง และเนียนๆในรูปของสวัสดิการ ก็เป็นโมเดลซึ่งมีเป้าหมายใกล้เคียงกับอีกกิจกรรมที่รัฐบาลเดินเครื่องมาก่อนหน้า


          “ปลดล็อกหนี้นอกระบบ” เรียกคะแนนนิยมได้เนียนยิ่งกว่า


          อย่างน้อยๆ ประชาชนตาดำๆ ที่เป็นทาสเงินกู้ดอกเบี้ยโหดหลายรูปแบบจำนวนล้านกว่าราย ก็จะได้มีโอกาสเป็นไท โดยมีเบอร์ใหญ่ในรัฐบาลอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแม่ทัพเคลื่อนพลเจรจาประนอมหนี้และส่งคืนโฉนดที่ดินซึ่งผู้ออกเงินกู้เคยยึดไปเป็นหลักประกัน

 

          ปลดโซ่ตรวนจากหนี้กองโตให้ชาวบ้านเช่นว่า ได้ใจคนแน่ๆ แต่จะแปรมาเป็นคะแนนได้หรือไม่ ต้องรอวัดกันในคูหาเลือกตั้ง


          แต่ประเด็นที่น่าติดตามก็คือ เมื่อคนตกทุกข์ได้ยาก พ้นสภาพจากลูกหนี้ ได้ที่ดินทำกินคืนมา ไม่ถูกคุกคามจากอิทธิพลมาเฟีย

 

          แล้วจากนั้น พวกเขาจะไปยังไงต่อ...?


          วันก่อน พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ระหว่างไปคืนโฉนดให้ชาวบ้านที่จังหวัดเลยว่า คนอีสานเป็นหนี้นอกระบบมากถึง 5.6 แสนรายจากทั่วประเทศรวม 9 แสนราย รัฐบาลจะพยายามปลดล็อก เพราะเป็นกับดักความยากจนของประชาชน


          ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ลงมือปฏิบัติสรุปการทำงานเอาไว้ว่า สามารถไกล่เกลี่ยคืนทรัพย์สินให้ประชาชนแล้ว 5 ครั้ง รวมมูลค่า 13,736 ล้านบาท เป็นโฉนดที่ดิน 9,526 ฉบับ พื้นที่ 31,838 ไร่




          แต่ตัวเลขประชาชนที่ใช้บริการหนี้นอกระบบของกระทรวงมหาดไทยระบุเอาไว้ว่ามีอยู่ประมาณ 1.3 ล้านราย วงเงิน 50,000 ล้านบาท (แต่เป็นข้อมูลเมื่อช่วงรัฐบาลเพิ่งเริ่มดำเนินการ ถึงตอนนี้อาจจะใกล้เคียงกับที่ พล.อ.ประวิตรว่าไว้คือ 9 แสนราย)


          ที่บอกว่า รัฐบาลช่วยเหลือไปแล้ว 13,736 ล้านบาท เมื่อคิดคร่าวๆ ก็น่าจะประมาณ 1 ใน 3 แต่จริงๆ แล้ว ในจำนวนนี้มีมูลค่าของโฉนดที่ดินรวมอยู่ด้วย ตัวเลขจึงยังไม่นิ่ง


          อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนี้นอกระบบมีความสลับซับซ้อน ต้องแก้ไขกันต่อเนื่องยาวนาน และที่สำคัญคือ ทำอย่างไรให้ประชาชนคนยากเหล่านั้นลืมตาอ้าปาก เข้าถึงแหล่งเงินทุน มีอาชีพมั่นคงยั่งยืน ไม่กลับมาเป็นทาสเจ้าหนี้นอกระบบได้อีก เพราะจะว่าไปแล้ว แหล่งเงินทุนนอกระบบ นับเป็นกระเป๋าเงินยามฉุกเฉินที่ใกล้ตัวชาวบ้านมากที่สุด


          มีตั้งแต่เครือญาติหรือคนรู้จัก นายทุนเงินกู้ทั้งในและนอกพื้นที่ แขกที่ผันตัวมาจากพ่อค้าเร่ขายของสู่การแตกไลน์ธุรกิจสินเชื่อ กลุ่มพ่อค้าแม่ขายในตลาด ฯลฯ


          บางทีลูกหนี้ก็สูญเสียที่ดินให้แก่ญาติ หรือคนใกล้ตัวที่รู้จักเห็นหน้าค่าตากัน


          “ศูนย์ดำรงธรรม” ซึ่งเชื่อกันว่า ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนน่าจะเข้าถึงได้ในระดับหนึ่งอย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก ก็อาจจะเหมือนอยู่คนละฟากฟ้า เพราะมีกำแพงชนิดหนึ่งมากางกั้นไว้ นั่นก็คือ ความสัมพันธ์ของคนในท้องถิ่น


          การประกาศขายที่ดินในราคาท้องตลาดเพื่อนำมาไถ่ถอนโฉนด ก็น่าจะอยู่ในสายใยอันระโยงระยางนี้ด้วย


          เช่นที่ดิน 3 ไร่ ขายฝากไว้กับญาติราคา 3 แสนบาทนานมาแล้ว เมื่อไม่จ่ายต้น จ่ายดอก สุดท้ายเวลาผ่านไป ยอดหนี้งอกเงยเป็น 3 ล้านบาท เจ้าของที่ดินก็อาจจะประกาศขายในราคา 3 ไร่ 4 ล้านบาท ได้เงินส่วนเกินมูลหนี้มา 1 ล้านบาท แลกกับโฉนด 1 แปลง ถ้าขายไม่ออก จะขายไม่ได้ราคา ค่อยเจรจาผ่านมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลก็เป็นทางเลือกใหม่ที่เข้ามาช่วยผ่อนคลาย


          ก็ต้องเอาใจช่วย ให้รัฐบาลขยันขันแข็งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบต่อไป หลังจากที่ทำมาได้ 5 ครั้ง


          กลัวอยู่อย่างเดียวก็คือ เมื่อหมดหน้าเลือกตั้ง หมดช่วงหาคะแนนนิยม ปัญหาก็จะถูกทิ้งคาราคาซังเอาไว้ ซ้ำร้ายกลุ่มที่เคยประกาศเป็นไท กลับกลายมาเป็นทาสอีกรอบ


          พอหมดหนี้นอกระบบ บางรายอาจมองเห็นรายได้เสริมซึ่งให้ความช่วยเหลือจากเงินประชานิยมแบบได้เปล่า ซึ่งทำลายวินัยการเงิน และย้อนแย้งกันเอง จนกลายเป็นปัญหางูกินหาง นโยบาย 2 ทางเลยมารวมกันเป็นเรื่องเดียว เป็นวงเวียนอมตะแห่งความจน

 

..............................................
หมายเหตุ / ข้อมูลบางส่วนจาก “ปัญหาหนี้นอกระบบและแนวทางการแก้ไขโดยรัฐ” / กฤตกร จินดาวัฒน์

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ