คอลัมนิสต์

ไม่มั่นใจว่าชนะ "ขาใหญ่" ไม่ทิ้งชินวัตร?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่มั่นใจว่าชนะ "ขาใหญ่" ไม่ทิ้งชินวัตร? : คอลัมน์...กระดานความคิด  โดย...  บางนา บางปะกง


 

          คำประกาศเดินหน้าชนของ “ลูกทักษิณ” ดังก้อง หลังจาก “ลูกบุญทรง” เดินเข้าสู่อ้อมอกพรรคพลังประชารัฐ มันเป็นเรื่องที่วงศ์วานว่านเครือของทักษิณถึงกับ “ช็อก”  

 

 

          “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร จึงต้องเปิดหน้าสู้ “ผมจะได้เดินทางในฐานะสมาชิกพรรคฯ ไปทุกทิศทั่วไทย ไปพบพี่น้องเพื่อจะเชิญชวนทุกท่าน ที่ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย และรักในความถูกต้องเป็นธรรม เข้ามาร่วมในอุดมการณ์เดียวกัน”


          เชื่อว่า คาราวานหาเสียงของโอ๊ค พานทองแท้ จะไม่ต่างจากขบวนการปั้นยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเลือกตั้ง 2554 

 

          กระแสรักทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ยังมาแรงในภาคเหนือตอนบน และภาคอีสาน การปูพรมกระแสเลือกพรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักษาชาติ จึงไม่ใช่เรื่องยาก 


          จริงๆ แล้ว ทักษิณ ชินวัตร รู้ดีว่าเกมนี้ชนะแน่ แต่การจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง “ไม่ง่าย” หรือพูดอีกอย่าง เพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ พ่ายเลือกตั้ง เกมจบ แต่มันจะยุ่งยากตรงทักษิณชนะ


          ที่น่าสนใจ ทั้งที่รู้ว่ากระแสทักษิณยังแรงสุดๆ แต่เหตุใด “ขาใหญ่เพื่อไทย” จากสองกลุ่มคือ เพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร จึงหนีเพื่อไทยไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ


          กรณีของเพชรบูรณ์ "สันติ พร้อมพัฒน์“ เป็นตัวอย่างที่น่าพูดถึง เมื่อตัดสินใจเข้าร่วมงานกับสหายเก่า สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ดึงเพื่อนพ้องน้องพี่เมืองมะขามหวานให้มาร่วมเป็นทีมเดียวกัน

 

          อดีต ส.ส.เพื่อไทยทุกคนที่แยกตัวออกจาก “ค่ายชินวัตร” ต่างรู้ดีว่า พลังแดงแรงฤทธิ์นั้น มีจริง แต่สถานการณ์การเมือง พ.ศ.นี้ มีความจำเป็นที่บ้านเมืองจะต้องก้าวไปสู่ความสงบเรียบร้อยเสียที พวกเขาจึงต้องเลือกทำงานการเมืองกับพรรคใหม่

 

 

 

ไม่มั่นใจว่าชนะ "ขาใหญ่" ไม่ทิ้งชินวัตร?

 


          “ทีมเพชรบูรณ์” จึงถูกออกแบบมาใช้ในการเลือกตั้งหนนี้ “สันติ” เดินหน้าคุยกับทุกตระกูลการเมือง จนได้ข้อตกลงร่วมกัน


          ไม่ว่าจะเป็น เอี่ยม ทองใจสด ผู้ยิ่งใหญ่ใน อ.วิเชียรบุรี, สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ คนดัง อ.หนองไผ่, ตระกูล “พรพฤฒิพันธุ์” ผู้ยึดกุมการเมืองท้องถิ่น อ.เมืองเพชรบูรณ์ และ จักรัตน์ พั้วช่วย ตระกูลเก่าแก่แห่ง อ.หล่มสัก 


          ที่เหลือคือ อ.ชนแดน เป็นที่มั่นของ สันติ พร้อมพัฒน์ ซึ่งระยะหลัง ส่งภรรยา วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ลงสนามแทน  


          ทำนองเดียวกัน “ทีมกำแพงเพชร” ก็เป็นความร่วมมือกันของจอมยุทธ์การเมือง “วราเทพ รัตนากร” กับ “เรืองวิทย์ ลิกค์” ที่ผ่านสมรภูมิการเมืองมาโชกโชน


          วราเทพ ก็จัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ครบทีม ทั้ง ไผ่ ลิกค์ และไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ รวมถึง อนันต์ ผลอำนวย ลูกเขยของสนั่น สบายเมือง อดีต ส.ส.กำแพงเพชร และเจ้าของโรงสีใหญ่ อ.คลองขลุง ปิดท้ายด้วย ปริญญา ฤกษ์หร่าย ลูกชายของถวิล ฤกษ์หร่าย อดีต ส.ส.กำแพงเพชร ที่มีฐานเสียงอยู่ใน อ.ขาณุวรลักษบุรี

 

 

ไม่มั่นใจว่าชนะ "ขาใหญ่" ไม่ทิ้งชินวัตร?

 


          จะว่าไปแล้ว สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็พูดคุยกับวราเทพ และทีมกำแพงเพชร มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ทุกอย่างมาลงตัวเอาตอนใกล้เดดไลน์วันปิดรับสมาชิกพรรคการเมืองตามกฎหมายเลือกตั้ง 


          ทีมเพชรบูรณ์ และทีมกำแพงเพชร เป็นกลุ่มนักเลือกตั้งที่ลงหลักปักฐานในสนามการเมืองท้องถิ่นจนแน่นหนา จึงกล้าขึ้นสังเวียนในสีเสื้อพลังประชารัฐ โดยไม่หวั่นไหวต่อกระแสทักษิณ


          บรรดานักเลือกตั้งดังกล่าว ต่างจากอดีต ส.ส.ในภาคอีสาน และภาคเหนือตอนบน ที่ได้เป็นผู้แทนฯ เพราะกระแสประชานิยม จึงไม่คิดจะทิ้งพรรคเดิม เพราะมีบทเรียนจากอดีต ส.ส.ที่ย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยให้เห็นอยู่แล้ว


          ถามว่า นักเลือกตั้งอีสานพรรคเพื่อไทย คิดย้ายพรรคมั้ย ? อยากย้ายทั้งนั้น แต่มีปัญหาตรงที่ชาวบ้านยังรักทักษิณ เลยหนีไม่ได้

 

          ตรงกันข้าม ด้วยลักษณะพิเศษของประชาชนในเพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร ทำให้ “ขาใหญ่การเมือง” ไม่หวั่นไหวต่อกระแสลมแรงใดๆ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ