คอลัมนิสต์

ก้าวต่อที่ติดขัดของปชป.ความขัดแย้งที่เหลือหลังศึกหยั่งเสียง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ก้าวต่อที่ติดขัดของประชาธิปัตย์ "ความขัดแย้งที่หลงเหลือหลังศึกหยั่งเสียง" : คอลัมน์...  ขยายปมร้อน  โดย.... จักรวาล ส่าเหล่ทู



          ยังคงคุกรุ่นอยู่สำหรับ พรรคประชาธิปัตย์" แม้ว่าการเลือกหัวหน้าพรรคจะผ่านพ้นไปแล้ว หลังผ่านศึกพี่น้องในพรรค ที่แทบฟาดฟันกันไม่เลี้ยง ถูกแบ่งเป็นกลุ่มเพื่อนคนนั้นกลุ่มมิตรคนนี้ต่างๆ มากมาย ลามจนไปถึงกองเชียร์ที่เกือบมองหน้ากันไม่ลงก็ว่าได้แต่จบการหยั่งเสียงแล้ว แต่ดูเหมือนการต่อสู้จะยังไม่จบ...

 

 

          เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “ถาวร เสนเนียม” เปิดบ้านต้อนรับ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่จัดกิจกรรม “เดินคารวะแผ่นดิน” หาสมาชิกพรรคในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าเหตุผลการต้อนรับเพื่อนเก่าแก่อาจจะเป็นเรื่องที่รับได้สำหรับคนในพรรคปชป. แต่การเปิดให้ปราศรัยและหาสมาชิกพรรค รปช. ในบ้านของถาวร มองเเล้วไม่ใช่แค่การอำนวยความสะดวกเเด่มิตรสหายเก่า ซึ่งคนในพรรคจะอยู่นิ่งๆ ได้เเบบนั้นเชียวหรือ


          ถ้าถาวรจะผิดตามระเบียบของพรรคก็คือ “การไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของพรรคอื่น” ที่น่าสนใจคือบ้านของถาวรใน จ.สงขลา เคยเป็นที่ทำการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถูกยุบไปตามคำสั่ง คสช. จึงไม่แปลกว่าสถานที่แห่งนั้นจะเหมาะแก่การรองรับผู้คนที่มารับฟังสุเทพจำนวนมาก แถมการปราศรัยในวันนั้นบอกว่า “จะล้มนายศิริโชค โสภา” เจ้าของพื้นที่นั้นด้วย


          นอกจากนี้ “วิทยา แก้วภราดัย” อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช ที่เปิดบ้านต้อนรับลุงกำนัน เเละ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีตส.ส.พิษณุโลก ก็จ่อเปิดบ้านด้วยอีกคน ตรงนี้ฉายให้เห็นภาพเพื่อนร่วมอุดมการณ์กปปส. ที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่กัน

 

          เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เล่นเอา “หัวหน้าพรรค” นั่งไม่ติด เเละไม่ต้องให้มีคนร้องเรียน เพราะหัวหน้าพรรคระบุชัดเลยว่า “จริงๆ จะปล่อยให้ผ่านไปก็ได้ แต่ไม่ควรปล่อยผ่านเพื่อป้องกันความสับสนในเรื่องจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์” ต้องให้พรรคสอบเรื่องนี้ทันที! แน่นอนว่าการทำเช่นนี้ของสมาชิกพรรคสะตอนั้นคงไม่ใช่ภาพความความใจกว้างเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนเก่า แต่อาจเป็นการท้าทาย “อำนาจ” ของหัวหน้าพรรคก็ว่าได้
เมื่อ “อภิสิิทธิ์ เวชชาชีวะ” ระบุเเบบนี้ ภาพที่ “ถาวร-นพ.วรงค์” ต้องมาเคลียร์ใจกับ “มาร์ค” เมื่อวันวาน (21 พ.ย.) ร่วมหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่พูดคุยกันเรียบร้อย ทั้งสองคนลงจากตัวอาคาร ซึ่งมีกลุ่มเพื่อนหมอโก๋มารอต้อนรับ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าสีหน้าของหมอโก๋ดูไม่สู้ดี ด้านถาวรก็โบกมือไม่ขอจ้อกับสื่อ



          อภิสิทธิ์ได้นำเรื่องนี้ไปคุยกับที่ประชุมพรรค โดยเปิดเผยภายหลังว่า “ได้เคลียร์ใจ” เป็นที่เรียบเรียบร้อย ซึ่งทั้งสองคนก็ยอมรับว่าการไปร่วมกับกิจกรรมพรรคอื่นที่ส่งผลต่อการแข่งขันของพรรคต้นสังกัดเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ทว่าไม่ได้มีการขอโทษแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้หัวหน้าพรรคระบุว่า “เป็นวิจารณญาณของแต่ละคน บังคับไม่ได้”


          มาตรการในการป้องกันปัญหาเหล่านี้ต่อไป คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคาะแบบเด็ดขาดแล้วว่า “หากมีสมาชิกพรรคไปอยู่ร่วมกิจกรรมกับพรรคอื่น หรือไปปรากฏตัว จนทำให้เกิดความสับสนเรื่องของจุดยืนพรรค ที่ผิดข้อบังคับของพรรค” มีโทษเบาสุดคือ “ถ้าอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.ก็จะไม่ส่งลงรับสมัครเลือกตั้ง” ร้ายแรงที่สุดคือ “ขับออกจากพรรคไปเลย”


          เรียกได้ว่ากรอบโทษที่วางไว้ถือว่ามีความรุนแรงพอสมควรแม้จะเป็นโทษเบาสุดก็ตาม ซึ่งหัวหน้าพรรคยอมรับว่า เรื่องความขัดแย้งแบบนี้ย่อมเกิดขึ้นได้หลังการแข่งขัน อาจจะไม่เป็นหนึ่งเดียวเหมือนภาพที่เห็น แต่ควรร่วมกันทำให้พรรคก้าวไปข้างหน้าให้ได้ และถึงแม้จะมีระเบิดเวลาซ่อนอยู่ในพรรค  อภิสิทธิ์ลั่นวาจาว่า “แก้ได้แน่นอน!”


          เหตุการณ์ครั้งนี้บอกได้ว่าถ้าดูจากภายนอกแล้วจะมีสัญญาณของความแตกหักภายในพรรคที่อาจซ้ำรอยกับเหตุการณ์ “กลุ่ม 10 มกราฯ” ซึ่งถือเป็นตำนานการแตกหักของพรรคเก่าแก่แห่งนี้


          ต้องดูกันต่อไปว่าพรรคสีฟ้าภายใต้การนำของ “อภิสิทธิ์” ครั้งนี้จะปิดแผลใจของคนในพรรคคราวนี้ได้หรือไม่ เเละจะนำทัพปชป.ให้ไปในทางเดียวกัน (แม้จะมีความขัดเคืองกันอยู่บ้าง) หรือถ้ายังมีคนละเมิดกฎระเบียบของพรรค จะมีการดำเนินการอย่างไร 


          ท่าทีของปชป.ถือเป็นอีกพรรคหนึ่งที่น่าจับตาไม่น้อย เพราะตลอดหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมมีกระเเสข่าวปัญหาภายในออกตามหน้าสื่อมาตลอด ในขณะที่พรรคคู่แข่งวางกลยุทธ์แตกแบงก์ย่อย หรือบางพรรคเริ่มเผยหมากต่างๆ เพื่อก้าวไปข้างหน้าเเละเตรียมหาเสียงแล้ว ถ้าปชป.ยังจบปัญหาภายในไม่ได้ ก็คงเป็นเรื่องที่หืดจับอยู่พอสมควร

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ