คอลัมนิสต์

เช็กท่าทีหัวคะแนนกับสารพัดพรรคเบี้ยหัวแตก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เช็กท่าทีหัวคะแนนกับสารพัดพรรคเบี้ยหัวแตก : คอลัมน์...  ขยายปมร้อน  โดย...  เร้นกาย ไร้เงา

 

 

          วันวานมีโอกาสสนทนาธรรมกับคนการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น เสียงเดียวกันนั้นรำพันตรงกันว่า เลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 จริงหรือ...?

 

          เพราะหลายชีวิตได้ยินข่าวลือกันมากว่า วันและเวลานั้นอาจเป็นการเผาหลอก มิใช่การเผาจริง และเมื่อกระพือกันมากขึ้น แม้คนในรัฐบาลจะย้ำวันและเวลาหย่อนบัตรให้คนในชาติและสังคมโลกรับรู้กันแล้ว 

 

 

          แต่ฝ่ายปฏิบัติการอย่าง "กกต.” กลับยังนิ่งในความคืบหน้าการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง เพราะตอนนี้ยังมีความ "อึมครึม” ในเรื่องเขตเลือกตั้งใหม่จะคลอดออกมาอย่างไร และเมื่อใด (ทั้งๆ ที่ต้องประกาศได้แล้วในช่วงนี้)


          ...เรื่องนี้มิใช่เรื่องเล็ก เพราะ "ความไม่ชัดเจน” มันกระเทือนทั้งผู้สมัคร ส.ส., เจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องไปประจำหน่วยเลือกตั้ง, ชาวบ้านที่จะไปใช้สิทธิ รวมทั้งหัวคะแนนที่ต้องเดินสาย


          ไม่รู้ว่า...ความชัดเจนนี้จะเกิดขึ้นอย่างไรและจากใคร แต่ภาวนาให้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเสียที อย่าให้คนนั้นพูดแบบนี้ คนนี้พูดแบบนั้นในเหตุการณ์เดียวกันเลย ไม่เช่นนั้นมันจะวุ่นไปเปล่าๆ และกระเทือนความเชื่อมั่นจากสายตาสังคมโลกว่า ทำไมเมืองไทยจึงเล่นละครเรื่อง "ลิงหลอกเจ้า” ?


          อีกหนึ่งเรื่องร้อนที่ไม่ควรละสายตา เพราะวันนี้ชัดแล้วว่าพรรคเพื่อแม้ว (เพื่อไทย, ไทยรักษาชาติ, เพื่อชาติ ส่วนเพื่อธรรมนั้นลอยลำไว้เพื่อเป็นเซฟตี้โซนในการรองรับอุบัติเหตุการเมือง) นั้นคลอดและปรากฏกายให้สังคมรับรู้กันแล้ว ดีไม่ดีในบางเขตจะเกิดการ "ฟัดกันเอง” แบบไม่มีใครยอมใคร...


          หัวคะแนนท้องถิ่นรายหนึ่งที่เคยเป็นนายก อบต. ตอบคำถามว่า งวดนี้หากสารพัดเครือข่าย “พรรคเพื่อแม้ว” มาประสานให้ช่วยเดินสายเกลี่ยแต้ม ”ไม่ให้ตกน้ำ” และทุกพรรคสาขาของเพื่อแม้วต้องมีแต้ม...จะมีวิธีจัดการอย่างไร


          คำตอบคือ “แกนนำและผู้สมัคร ส.ส.พรรคของคุณทักษิณ ชินวัตร บอกมาชัดๆ เลยว่า ตำบลนี้จะให้เทคะแนนให้พรรคไหน จะแบ่งว่าหนึ่งตำบลมีสิบหมู่บ้าน จะให้หมู่บ้านที่หนึ่งเลือกเพื่อไทย หมู่บ้านที่สองเลือกไทยรักษาชาติ หมู่บ้านที่สามแบ่งให้เพื่อชาติบ้าง มันทำไม่ได้ในทางปฏิบัติ ตำบลหนึ่งให้แจ้งมาชัดๆ ว่าตำบลนี้จะให้เลือกใคร พรรคเดียว ไม่อย่างนั้นวุ่น แล้วอาจจะมีเรื่องไม่พอใจตามมาทีหลัง”

 



 

          ส่วนพรรคเล็กๆ และพรรคใหม่ที่รอแจ้งเกิดจะเดินแต้มอย่างไร เพราะแกนนำบางพรรคหล่นความคิดแบบมีความหวังให้ได้ยินว่า “หนึ่งตำบลขอสักหนึ่งหรือสองร้อยคะแนนให้ผู้สมัครโนเนม หากได้แบบนี้หนึ่งอำเภอก็มีคะแนนหลักพัน หนึ่งเขตเลือกตั้งก็มีแตะหลักหมื่น หากทำได้ทั่วประเทศ พรรคเราก็มี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ราวเจ็ดถึงสิบคนแล้ว”


          “พรรคจะจัดระบบการสมัครและการเก็บคะแนน ขอแค่ผู้สมัครและแกนนำในเขตนั้นๆ ทำได้จริง หลังเลือกตั้งใครทำงานเข้าเป้า สิ่งที่รับปากไว้ก็จะบังเกิด”


          คิดแบบนี้ในเชิงทฤษฎีนั้นก็มีความเป็นไปได้ แต่พรรคเหล่านั้นต้องส่งผู้สมัคร ส.ส. 350 เขตครบ จึงจะพอมีสิทธิ...แต่ในความเป็นจริงนั้นโอกาสนี้แทบจะเกิดขึ้นได้ "ยาก”


          หัวคะแนนท้องถิ่นเจ้าเดิมตอบคำถามนี้ว่า "มันยากกว่าสารพัดพรรคของคุณทักษิณอีกที่พรรคแบบนี้จะได้แต้ม ชาวบ้านเลือก ส.ส.แตกต่างจากเลือกตั้งท้องถิ่นนะ เลือกตั้งท้องถิ่น ชาวบ้านเลือกคนในพื้นที่และลูกหลานของพวกเขามาทำงาน(แต่ไม่ปฏิเสธความจริงในเรื่องสินน้ำใจ เพราะข้อเท็จจริงนั้นหนึ่งเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น จะมีค่ากาบัตรหลักพันบาทต่อหนึ่งคนที่มาหย่อนบัตร) สมการแบบนี้ใช้ไม่ได้ผล แต้มจะไม่มี เพราะชาวบ้านไม่รู้จัก”


          ท้ายสุด...เหลียวจับอาการบางพรรคที่รวบรวม “คนการเมืองรุ่นลายคราม” ที่แยกมาเปิดพรรคใหม่กันบ้าง แว่วมาว่าอาการยามนี้ ”มิสู้ดี“ เพราะ ”ทุน” ที่เคยโวไว้ว่าจะมาจากแหล่งนี้แหล่งนั้นไปช่วยผู้สมัคร เอาเข้าจริงแล้วพบว่า “สงสัยท่อจะตันเพราะแหล่งทุนประเมินแล้วโอกาสสอบไม่ผ่านสูงยิ่ง” จึงมีความพยายามของคนการเมืองรุ่นลายครามบางชีวิตกำลังประสานไปยังพรรคขนาดกลางเพื่อขอสมัคร แต่การขอย้ายในช่วงตลาดใกล้จะวายแบบนี้ หากคุณภาพไม่ใช่สินค้า ”เกรดเอ” แล้วไซร้...ยากยิ่งนักที่จะมีการเปิดประตูรับเข้ารัง


          วันนี้เอาเท่านี้ก่อน วันหน้าจะมาเล่าสิ่งที่เห็นและเป็นไป(ในทางลับของคนการเมือง)ให้สังคมวิเคราะห์กันว่า หมากการเมืองของแต่ละขั้วนั้นวางกันไว้อย่างไร...
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ