อนาคตใหม่วุ่น เละคามือ "ซ้ายตกขอบ"?

         เรื่องร้อนๆ ยังไม่จบ กรณี “พรรคอนาคตใหม่” เจอด่านทดสอบจากพวกเดียวกัน เมื่อ “ปวิน-แดงสุดขั้ว” ปะฉะดะแฟนคลับเฌอปราง BNK48 นี่คือบทเรียนของนักการเมือง “มือใหม่” ที่ตกอยู่หว่างเขาควาย ความขัดแย้งทางความคิดและอุดมการณ์ในรอบสิบปีมานี้

 

 

 

สัมพันธ์“ปวิน-ธนาธร”

          แรกที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” กับ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” จับมือตั้งพรรคการเมือง บรรดากลุ่มคนที่มีแนวคิด “แดงสุดขั้ว” หรือซ้ายตกขอบ ดีอกดีใจกันใหญ่

          ช่วงต้นกรกฎาคม 2561 "ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์" อาจารย์ประจำศูนย์วิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้เชิญ “ธนาธร” ไปบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “การเมืองแห่งความหวัง : ก้าวพ้นทศวรรษที่สูญหาย” ที่มหาวิทยาลัยโดชิชา 1 ในมหาวิทยาลัยเอกชนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น โดยมี “ปิยบุตร” เข้าร่วมรับฟังด้วย

          เรื่องนี้สร้างความปรีดาปราโมทย์ให้แก่ “เซเลบแดง” ที่ลี้ภัยอยู่ในต่างแดน รวมทั้งพวกแดงสุดขั้วในประเทศ เพราะคนระดับอาจารย์ปวิน...ผู้ลี้ภัยการเมืองในญี่ปุ่นยังหนุนธนาธร 

          ส่วนคนอีกขั้วความคิดหนึ่ง กลับยัดข้อหาซ้ายตกขอบให้สองหนุ่มใหญ่เป็นที่เรียบร้อย 

 

 

“อั้ม” สับเสรีนิยม ?

          เมื่อ “ปวิน” ทำตัวเป็นหัวคะแนนใหญ่ของพรรคอนาคตใหม่ พวกสาวกแดงฮาร์ดคอร์ก็แห่ตาม กระทั่งเกิดวิวาทะปวินกับโอตะเฌอปราง(แฟนคลับ) จึงเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันขนานใหญ่

          ครั้น “ธนาธร-ปิยบุตร” ออกสตาร์ทเดินสายหาสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ได้พุ่งเป้าไปที่คนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มเสรีนิยมใหม่ ที่มีฐานความคิดแตกต่างจากแดงฮาร์ดคอร์ ราวฟ้ากับเหว

          เมื่อเกิดศึกภายในพรรค ปวิน-โอตะ จึงมีสุ้มเสียงวิพากษ์วิจารณ์พรรคอนาคตใหม่จากผู้หวังดี ทำนองว่า “ซ้ายตกขอบกับขวาตกขอบ อันตรายพอๆกัน”

          แดงสุดขั้วอย่าง “อั้ม เนโกะ” ที่ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส ก็ลุกขึ้นมายืนเคียงข้างปวิน และสับแหลกพวกประชาธิปไตยจอมปลอม

         “พวกนี้ก็ชอบพูดราวกับว่าการต่อสู้ของฝ่ายซ้ายล้าสมัยไปแล้ว ทั้งๆ ที่การต่อสู้ของฝ่ายซ้ายคือการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน”

          “อั้ม เนโกะ” ผู้หลบหนีคดี 112 โจมตีพวกที่มีอภิสิทธิ์ทางสังคมว่าส่วนมากจะเป็นพวกกิ้งก่าเอียงขวา 

          ยิ่งนานวันไป ยิ่งออกอาการ “คุมกันไม่อยู่” เพราะแต่ละคนล้วนอีโก้สูง !

 

“แม้ว” ไม่นับญาติ ?​

          พรรคอนาคตใหม่ กำเนิดจากคนรุ่นใหม่ แต่ “สองหนุ่ม” ไม่ได้ออกแบบโครงสร้างพรรคเหมือนเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ มันเลยดูหลวมๆ และเกิดการกระทบกระทั่งกันบ่อยในกลุ่มสมาชิกพรรค และแนวร่วม

          จากกระแสข่าว “ทักษิณ” ได้จ้างบริษัทในสหรัฐทำโพลล์ โดยลงพื้นที่สำรวจคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย และพรรคเครือข่าย ปรากฏว่าได้คะแนนรวม 58% หรือคิดเป็นจำนวน ส.ส. 290 คน 

          ส่วนพรรคอนาคตใหม่ ได้เพียง 1% คิดเป็นจำนวน ส.ส.ประมาณ 5 คน แถมไม่ถูกนับรวมใน 58% ของพรรคเครือข่ายชินวัตร ​

          แม้ว่า “โอ๊ค พานทองแท้” ลูกชายทักษิณจะประกาศว่า เลือกสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยทุกพรรค แต่ในความเป็นจริง แกนนำพรรคตระกูล “เพื่อแม้ว” ทั้งหลาย ก็ไม่อยากข้องแวะกับพรรคอนาคตใหม่ เพราะในพรรคมี “สายล่อฟ้า” เยอะ หวั่นเจอลูกหลง

          เอาเข้าจริง พลังหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ก็ไม่ได้ใส่ใจพรรคอนาคตใหม่มากนัก ส่วนใหญ่มีแต่คนแก่ๆ ที่เข้าร่วมทำกิจกรรม 

          อิทธิพลความคิดซ้ายตกขอบ เหมือนเมฆดำห่มคลุมพรรคของคนหนุ่ม ?