ยืนยันไม่ใช่"นอมินี"พร้อมที่จะชนทุกเขต"พวงเพ็ชร ชุนละเอียด"

 

 

          พรรคไทยรวมพลังที่วันนี้กลายเป็นพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเครือข่ายของ "นายใหญ่” เพราะบรรดากรรมการบริหารพรรคและคีย์แมนพรรค รวมทั้งอดีต ส.ส.ที่มาสังกัดพรรคนี้ล้วนเป็นคนที่เคยสังกัด "ไทยรักไทยจวบจนถึงเพื่อไทย” มาแล้วแทบทั้งสิ้น

 

 

          ท่ามกลางกระแสข่าวตามสื่อที่ปรากฏว่าเพื่อไทยต้องมีพรรคสาขาไว้รองรับอุบัติเหตุการเมืองที่มิอาจคาดเดาได้ เพราะประสบการณ์การยุบพรรค(ไทยรักไทยและพลังประชาชน) สองครั้งที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่าต้องมี "รันเวย์สำรอง”

          รวมทั้งการปะทะจนปะทุกันของคีย์แมนบางคนในเพื่อไทยเกี่ยวกับ “การแยกกันเดิน ร่วมกันตี” หรือควรที่จะ "ลงเรือลำเดียวกัน” แม้กระทั่ง "การขโมยซีนของใครบางคน” ในการถือธงนำทัพ ต่างๆ นานาเหล่านี้คือข่าว "ร้าว” ที่บังเกิดขึ้นจากอาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และบังเกิดขึ้นแล้วในบันทึกการเมืองไทย

          แต่ภาพที่บังเกิดวันนี้คือ “สายเลือดใหม่และสายเลือดตรง” ของครอบครัวชินวัตร รวมทั้งคีย์แมนบางคนจาก “เพื่อไทย” มาสังกัด ”ไทยรักษาชาติ” แบบปฏิเสธไม่ได้... 

          แต่คีย์แมนบางคนในพรรคนี้บอกว่า “ไม่ใช่นอมินี พร้อมชนทุกเขตกับทุกพรรค รวมทั้งหวังคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ด้วย”

 

 

 

 

          เมื่อมันถึงทางแยก พรรคหนึ่งต้องไปทางซ้าย พรรคหนึ่งต้องเลี้ยวขวา แต่จุดหมายร่วมของสองทางแยกคือ "บันไดสภาหินอ่อน” เมื่อพรรคคนรุ่นใหม่ที่แยกตัวออกมาเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง "ความสด” ในบางครั้งต้องอาศัย "บทเก๋า” ของผู้อาวุโสที่จะมาประคองพรรคตั้งไข่ให้เดินและวิ่งบนเวทีการเมืองให้เร็วที่สุด

          “เจ๊แจ๋น” หรือ “พวงเพ็ชร ชุนละเอียด” 1 ใน 11 กรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการชุดนี้ ถือเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งในพรรคนี้กล่าวถึงการทำหน้าที่ผู้ใหญ่ที่มาช่วยขับเคลื่อนพรรคคนรุ่นใหม่นี้ว่า

 

          “พรรคนี้เดิมคือพรรคไทยรวมพลังที่มี “กมล วิจิตรโสภาพันธ์” เป็นหัวหน้าพรรค ตั้งมาหลายปีแล้ว และเคยจะส่งผู้สมัคร ส.ส.แต่มีการยึดอำนาจไปก่อน”

          เจ๊แจ๋นระบุว่า สนิทกับคุณกมลและหารือกันว่าตอนนี้กระแสการเมืองโลกนั้น ผู้นำชาติต่างๆ หลายคนเป็นคนหนุ่มสาว ควรที่จะมีพรรคของคนรุ่นใหม่ให้มามีโอกาสรับใช้สังคม โดยใช้แนวคิดของคนกลุ่มนี้ทำงาน ผู้ใหญ่ในพรรคคือกองหนุนเพื่อช่วยประคองคนสองรุ่นมาทำงานด้วยกัน ออกนโยบายพรรคให้สังคมเลือกและเดินหน้าช่วยชาติ โดยใช้เศรษฐกิจขับเคลื่อนประเทศ

          วันนี้เมืองไทยเหมือนอยู่กับที่แต่โลกก้าวไปมาก เราควรใช้และให้โอกาสคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนและขออาสาสังคมทำหน้าที่ พวกเราจะช่วยแนะนำจากประสบการณ์ และเรียนรู้ไปพร้อมกับคนรุ่นใหม่บนโลกยุคไอที เพื่อให้ประเทศทันโลก

          ขอเรียนว่า คุยกับคุณกมลมาหลายเดือนแล้ว จนล่าสุดต้นเดือนตุลาคม พรรคของคุณกมลมีการประชุมพรรคและมีข้อสรุปให้เปลี่ยนชื่อพรรคและกรรมการบริหารพรรค โดยแจ้ง กกต.ไปแล้ว โดยคุณกมลและตนจะผลักดันพรรคของคนรุ่นใหม่นี้

          “ขอเรียนว่าไม่ได้ไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่หารือกับคุณกมล และมาร่วมทำงานกับพรรคนี้ เพราะกติกาต่างๆ มันละเอียดมาก ต้องใช้เวลาทำงาน และต้องเร่งเปิดสาขาพรรค ในตอนนี้เสร็จแล้วที่ภาคอีสาน ที่ จ.เลย โดยจะเร่งเปิดใน จ.พระนครศรีอยุธยา จ.เชียงราย และ จ.นครศรีธรรมราช ให้ครบทุกภูมิภาคตามกฎหมายกำหนด”

 

 

 

 

          ส่วนการแยกมาตั้งพรรคนี้ขึ้นมานั้น จะเกิดความขัดแย้งกับแกนนำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ “เจ๊แจ๋น” บอกว่า ไม่มี พรรคนี้ตั้งมาเพื่อคนรุ่นใหม่ ยืนยันว่าพรรคนี้ไม่ใช่นอมินีของพรรคเพื่อไทย การที่ชักชวนอดีต ส.ส.รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพด้านต่างๆ มาช่วยงาน และดึงคนรุ่นใหม่หลายสาขามาทำงานกัน เช่น หัวหน้าพรรค(ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช) ก็เป็น ส.ส.หนุ่มที่มีบทบาทในสภาผู้แทนฯหลายเรื่อง ส่วนเลขาธิการพรรค (มิตติ ติยะไพรัช) เป็นอดีตประธานสโมสรฟุตบอล สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สร้างทีมนี้มาไม่กี่ปีก็ประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอล

 

          ใครเด่นทางไหน พรรคก็ไปทาบทาม หากแนวคิดตรงกันก็มาช่วยงานกัน และจะเร่งเปิดนโยบายพรรคให้สังคมรับไปพิจารณา เชื่อว่าพลังของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จนี้จะช่วยพรรคนี้ได้ และคนรุ่นตนต้องช่วยแนะนำพร้อมประคอง หรืออดีตรัฐมนตรี (วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล) ก็ผ่านงานมาเยอะ เป็นส.ส.หลายสมัย ก็มาช่วยพรรคนี้

          “พรรคพร้อมรับคนรุ่นใหม่ทุกคน รวมทั้งผู้ใหญ่จากทุกสาขาและทุกพรรคเพื่อช่วยตั้งพรรคนี้ให้เป็นหลักก่อนเสนอตัวให้สังคมเลือก เป็นการช่วยบ้านเมืองในการเดินกลับสู่ประชาธิปไตย เพื่อให้สังคมโลกยอมรับการมีบทบาทของประเทศไทย ในฐานะผู้ใหญ่ในพรรคนี้ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในถังความคิดเพื่อถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่นำไปปรับใช้”

          สำหรับการคัดเลือกบุคคลลงสมัคร ส.ส.ของพรรค “พวงเพ็ชร” บอกว่า เวลาที่มีตอนนี้ค่อนข้างจำกัด ต้องเร่งหาสมาชิกพรรคตามเขตเลือกตั้งต่างๆ ให้ครบ เพราะตั้งเป้าส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้มากที่สุด พรรคจะสู้ทุกเขต จะคัดคนที่อาสามาทำงานให้ชาติ โดยมีคุณสมบัติเหมาะสมกับพรรคและเขตเลือกตั้งนั้นๆ ให้ประชาชนตัดสิน ใครที่สนใจจะร่วมงานก็มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้เพื่อใช้ศักยภาพของทุกคนมาช่วยวางนโยบายแก้ปัญหาบ้านเมือง

 

 

 

 

          "หวังว่า กกต.จะจัดการเลือกตั้งให้โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นความหวังให้คนไทยทุกคน ขอให้ทำหน้าที่ให้สำเร็จในเวลาอันสั้นนี้ เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น ตอนนี้ขอให้ กกต.เร่งให้คำตอบว่ากิจกรรมใดบ้างที่แต่ละพรรคจะทำได้”

          เส้นทางการเมือง "พวงเพ็ชร ชุนละเอียด”
          อดีต ส.ส.เลย พรรคชาติพัฒนา
          อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย
          อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ
          อดีตผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรีฝ่ายที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาภูมิภาค(กทม.)
          อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ
          อดีตที่ปรึกษา รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
          อดีตเลขานุการ รมว.คมนาคม
          อดีตเลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกฯ