คอลัมนิสต์

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี : รายงาน  โดย...   อนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ ทีมล่าความจริง เนชั่นทีวี 22


 

          วันนี้คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) ที่รู้จักกันในฉายา “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” เพราะมีผลงานการจับกุมบรรดาอาชญากรไม่เว้นแต่ละวัน

 

 

          อีเวนท์ตั้งโต๊ะแถลงของ “บิ๊กโจ๊ก” อยู่ที่เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 2-3 คดี บางวันสูงถึง 7-8 คดี แถมบางทีตี 1 ตี 2 ยังนัดแถลงข่าวอยู่เลย

 

          ตำแหน่งหลักของเขาสมัยก่อนคือรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รองผบช.ทท.) ปัจจุบันย้ายมาอยู่สตม. แต่กลับมีข่าวแถลงเกี่ยวกับคดี

          ประเภทต่างๆ มากมาย ไม่ต่างอะไรกับ “ผบ.ตร.น้อย”


          คำถามที่น่าสนใจก็คือ “บิ๊กโจ๊ก” ทำแบบนี้ได้อย่างไร?
          

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 

 

          คำตอบก็คือต้นธารของผลงานคดีอาชญากรรมจำนวนมหาศาลที่ “บิ๊กโจ๊ก” นำมาแถลง มาจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ “ศปอส.ตร.” ซึ่ง “บิ๊กโจ๊ก” นั่งเป็นรองผู้อำนวยการศูนย์อยู่

 


          ฐานบัญชาการของศปอส.ตร. อยู่ที่อาคาร 1 ชั้น 1 กรมปทุมวัน ซึ่งก็คือสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั่นเอง


          ไล่ดูแผนผังโครงสร้างการทำงานจะพบว่า ศปอส.ตร. รับผิดชอบหน้างานถึง 12 ด้าน 12 ฐานความผิด ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์, ความผิดเกี่ยวกับโรแมนซ์สแกม, ความผิดเกียวกับการฉ้อโกงออนไลน์, ความผิดเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ, ความผิดเกี่ยวกับโอเวอร์สเตย์ หรือการที่คนต่างด้าวพำนักอยู่ในประเทศไทยเกินระยะเวลาที่ได้รับวีซ่า

 

 

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 

 

          ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ การปราบปรามสื่อลามกอนาจาร, ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนันแข่งม้า, การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์, ความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ, ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเฉพาะยาทรามาดอล ซึ่งหมายถึงยาแก้ปวดชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาผสมกับสารอื่นให้เป็นของมึนเมาและความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป


          เห็นหน้างานที่ครอบคลุมอาชญากรรมแทบทุกด้านบนโลกใบนี้แล้ว จึงไม่น่าแปลกประหลาดอะไรที่ไม่ว่าคดีไหนก็ต้องมี “บิ๊กโจ๊ก” เข้ามาเกี่ยวข้อง บทบาทของ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” ทุกวันนี้จึงไม่ต่างอะไรกับ “ผบ.ตร.น้อย”

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 


          พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย หัวหน้าชุดทำงานของศปอส.ตร. เล่าว่า ศูนย์แห่งนี้ยกระดับมาจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นงานเดิมที่ “บิ๊กโจ๊ก” รับผิดชอบอยู่แล้วสมัยเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จากนั้นจึงยกระดับมาเป็นศปอส.ตร.ที่ยิ่งใหญ่ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน โดยมีตำรวจมือดีวนกันเข้ามาทำงานเป็นมือไม้ให้ “บิ๊กโจ๊ก” มากถึง 300 นาย ทำให้มีผลงานการสืบสวนจับกุมรวมทั้งจัดการเรื่องร้องเรียนประสบความสำเร็จและเป็นข่าวแทบทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 


          “ก่อนที่จะมีการตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้นมา เริ่มจากการที่ผมได้รับมอบหมายจากพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ให้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แพร่ระบาดอย่างหนักเมื่อปี 60 ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายต่อประเทศนับพันล้านบาทต่อปี จากเดิมเป็นเพียงแค่ศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น ต่อมาได้ก่อตั้งมาเป็นศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ เพื่อขยายขอบเขตการสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการกระทำผิดทางอาญาทั่วราชอาณาจักร”

 

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 


          “หน้างานของศปอส.ตร. แบ่งออกเป็นประเภทอย่างกว้างๆ ได้ 2 ลักษณะ คือ การดำเนินคดีที่เป็นนโยบายของรัฐบาล เช่น คดีเงินกู้นอกระบบ และอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงคดีที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นวงกว้าง หรือสร้างความสับสนในสังคม อย่างคดีน้องณิชา ที่ถูกขโมยบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีเพื่อรองรับการโอนเงินของแก๊งมิจฉาชีพ หรือแม้แต่คดีโรแมนซ์สแกม และคดีฉ้อโกงต่างๆ”

 

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 


          “ศูนย์แห่งนี้เป็นหน่วยงานที่รวบรวมข้าราชการตำรวจมือดีจากทั่วประเทศที่มีความรู้ความชำนาญด้านต่างๆ มากกว่า 300 นาย โดยมี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เป็นกุนซือในการทำงานทุกคดี หากจะเปรียบเทียบก็คงไม่ต่างจากการบริหารทีมฟุตบอล เป็นผู้จัดการทีม เป็นกุนซือ โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ จะเลือกเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละนายให้เข้าไปสืบสวนคดีต่างๆ” พ.ต.ท.เขมรินทร์ อธิบาย


          แน่นอนว่าการเลือกใช้คนให้เหมาะสมกับงาน หรือ put the rihgt man on the right job ย่อมเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จ อย่าง พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผู้กำกับการ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น นายตำรวจมือดีแห่งภาคอีสาน ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ “บิ๊กโจ๊ก” ดึงมาทำงาน และช่วยคลี่คลายคดีที่ถือว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะคดีเงินกู้นอกระบบ ซึ่งแต่ละคดีต้องใช้เทคโนโลยีการสืบสวนชั้นสูงเข้ามาช่วย เพราะคดีมีความซับซ้อนทั้งห้วงเวลาที่เกิดเหตุและตัวละครในคดี

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 


          “ต้องเข้าใจว่าคดีเงินกู้นอกระบบ คดีส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว จึงต้องใช้การสืบค้นที่ลงลึก และใช้เทคนิคการสืบสวนขั้นสูงเข้ามาช่วย เพื่อสืบค้นข้อมูลต่างๆ และเก็บรวบรวมมาเป็นหลักฐานมัดตัวผู้กระทำความผิด” พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าว


          เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร นายตำรวจมือดีอีกคนหนึ่งจากกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีอาชญากรรมข้ามชาติและคดีนอมินี หรือ “ตัวแทนเชิด” ซึ่งอาชญากรจากทั่วโลกมักใช้ประเทศไทยเป็นที่กบดานหรือเป็นฐานในการประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย แล้วใช้เงินจ้าง “นอมินี” ขึ้นมาเปิดกิจการบังหน้า มิจฉาชีพเหล่านี้ก็อยู่ในเป้าหมายที่ทีมงานของ “บิ๊กโจ๊ก” ต้องจัดการ

 

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 


          “เราจะมีสายตามเมืองท่องเที่ยวและเมืองใหญ่ๆ ทั้งหมด เราจะทิ้งเบอร์โทรศัพท์หรือวิธีการติดต่อเอาไว้ เช่น เบอร์ตม. ตำรวจท่องเที่ยว หรือ 191 ถ้าประชาชนพบเห็นชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนแล้วมีลักษณะผิดปกติ เช่น ปิดบ้านเงียบ ไม่ติดต่อกับใครเลย เมื่อประชาชนแจ้งมา เราก็จะลงไปตรวจสอบ เฝ้าติดตามสะกดรอย จนทราบแน่ชัดว่ากระทำผิดหรือไม่ ถ้ากระทำผิดก็จะเข้าไปดำเนินการจับกุมทันที” พ.ต.ท.นฤวัต ระบุ


          ขณะที่คดีสุดคลาสสิกอย่างโรแมนซ์สแกม หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า “คดีหลอกรักออนไลน์” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ก็เลือกใช้บริการ พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รองผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้ามารับผิดชอบ เพราะมีหญิงไทยตกเป็นเหยื่อมากมาย หนำซ้ำอาชญากรยังที่มีความเชี่ยวชาญการใช้อินเทอร์เน็ต จึงต้องใช้นายตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเข้าไปจัดการ

 

 

ถอดรหัส "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ"ทำไมงานเพียบ เสียบทุกคดี

 


          “เวลาสืบคดีเราจะไล่จากความเคลื่อนไหวทางบัญชีก่อนว่าผู้เสียหายโอนเงินไปที่บัญชีไหน เราก็ไล่จากบัญชีธนาคาร เพราะกลุ่มคนร้ายจะแยกเป็นกลุ่มหน้าม้าเปิดบัญชี กลุ่มที่รวบรวมบัญชี และกลุ่มที่เบิกเงินออกไป ก็จะไล่ไปตามนี้ เพราะมีการกระทำผิดเป็นขบวนการ ไม่ได้ทำคนเดียวแน่นอน” พ.ต.ท.ธัชพงศ์ อธิบาย


          นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของตำรวจระดับหัวกะทิกว่า 300 นายที่ “บิ๊กโจ๊ก” เลือกมาใช้งานในภารกิจปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นตัวช่วยในการกระทำความผิด เห็นแบบนี้แล้วหลายคนคงหมดคำถามว่าทำไม “บิ๊กโจ๊ก” ถึงงานชุก โลดแล่นอยู่บนหน้าสื่อได้ทุกวัน และเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมแทบทุกคดี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ