"แม้ว" คึก! เปิดศึกทุกแนวรบ

 

          มีความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งแล้ว คาดว่า ต้นเดือนธันวาคมนี้ พรรคการเมืองต่างๆ ก็คงออกลุยหาเสียงเต็มตัว สำหรับเจ้าพ่อการตลาดการเมืองอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” เปิดแนวรบ Air war ยึดพื้นที่สื่อออนไลน์ ทำลายขวัญข้าศึกในการรบยุคใหม่ เพื่อตอกย้ำแบรนด์ทักษิณ 

 

          ส่วนแนวรบ Ground war บุกยึดพื้นที่ คงมีขึ้้นหลังระเบิดปูพรมด้วยสื่อโซเชียล คาดว่า เดือนสุดท้ายของปี จะมีจัดสรรตัวผู้สมัคร ส.ส.ลงตัว ทั้งพรรค “ยานแม่” และพรรคบริวาร

          แจกปฏิทินย้ำแบรนด์
          การแจกปฏิทินสวัสดีปีใหม่ ที่มีภาพ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” กลายเป็นประเด็นความมั่นคงไปทันที หลังจากทหาร-ตำรวจ ตรวจยึดปฏิทินดังกล่าว จากในพื้นที่อุดรฯ และอุบลฯ ไปตรวจสอบ

 

 

 

          ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า ปฏิทินสองศรีพี่น้อง มีสองแบบ จากต่างกลุ่มต่างเป้าหมายในการเผยแพร่

          ปฏิทินแบบแรกที่เจ้าหน้าที่ยึดไปนั้น ถูกส่งออกจากบ้านพักของแกนนำแดงอิสระแถวปากน้ำ ไปตามเครือข่ายคนอยากเลือกตั้ง ในภาคอีสาน

          ตอนแรกเหมือนผู้จัดทำปฏิทินสีแดง จะลงโฆษณาในเพจแดงอิสระ แต่ผ่านไปไม่กี่วันก็ลบโพสต์นั้นทิ้ง กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจพบในภาคอีสาน

          ปฏิทินแบบที่สอง จัดทำโดย “พ็อกเก็ต” หรือ “สุรชาติ ตันติธนไพศาล” (ตอนหลังเปลี่ยนชื่อเป็น สมเกียรติ) อดีตนักเล่าข่าวจอแดง-เอเชียอัพเดท  

          “พ็อกเก็ต” เดินทางไปพบสองอดีตนายกฯ ที่ฮ่องกง และขออนุญาตทำปฏิิทิน 2562 แจกแฟนคลับเพจ “ชินวัตรแฟนคลับ” หรือ Shinawatar.Fc ปรากฏว่า สองพี่น้องอนุญาตให้ทำได้ พร้อมมอบลายเซ็น และคำอวยพรปีใหม่มาลงในปฏิทินด้วย

          ว่ากันว่า วงในคนเสื้อแดง กำลังด่ากันเละ เนื่องจากปฏิทินแบบแรกนั้น มีการก๊อบปี้ลายเซ็นและคำอวยพรสองอดีตนายกฯ ไปจัดทำโดยพลการ

 

 

 

          ตลกมาก ขนาดปฏิทินสวัสดีปีใหม่ ยังมีทั้งของจริงและของเลียนแบบ ?

 

          วางกลยุทธ์เครือข่าย
          เซียนการเมืองอย่าง “ทักษิณ” ดิ้นสู้ทุกวิถีทาง แม้ฝ่ายถืออำนาจจะออก “กฎกติกา” เลือกตั้งมาอย่างไร ก็รับได้หมด

          คนแดนไกล จึงนับ “พรรคเพื่อไทย” (พท.) เป็นเสมือนยานแม่ มี “พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์” เป็นหัวหน้าพรรค และ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เป็นเลขาธิการพรรค “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้ง

          ส่วนพรรคสำรองหรือพรรคเครือข่าย ก็เตรียมไว้ 4 พรรค เพื่อรองรับการเลือกตั้งแบบบัตรเดียว และอุบัติเหตุเรื่องยุบพรรคเพื่อไทย

          อันดับหนึ่งคือ “พรรคไทยรักษาชาติ” (ทษช.) ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยวางตัวลูก-หลาน วงศ์วานว่านเครือ “พรรคชินวัตร” มาเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค

 

 

          ผู้สนับสนุนรายใหญ่มี 2 คนคือ “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล และ “เจ๊แจ๋น” พวงเพชร ชุนละเอียด

          อันดับสองคือ “พรรคเพื่อธรรม” (พธ.) ที่มีเงา “เจ๊แดง” ทาบทับอยู่

          อันดับสามคือ “พรรคเพื่อชาติ” (พช.) ได้ยงยุทธ ติยะไพรัช และจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นกองเชียร์

          อันดับสี่คือ “พรรคประชาชาติ” ของกลุ่มวาดะห์ มีอาจารย์วันนอร์ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นผู้นำทัพ

          หลายคนอาจสงสัย พรรคอนาคตใหม่ และพรรคเสรีรวมไทย จัดเป็นนอมินีมั้ย ก็ได้คำตอบจากคนในเพื่อไทยว่า สองพรรคนั้นเป็นแค่ “แนวร่วม” ยังไมใช่พรรคที่มี “ดีเอ็นเอชินวัตร”

          กระซิบกันให้ลั่น “นายใหญ่” วางเพื่อไทยให้เจาะ ส.ส.เขต ส่วน 4 พรรคลูกข่าย กระจายเก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์

          จุดอ่อนในจุดแข็ง
          แม้ว่าจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย จะอยู่ที่แบรนด์ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ยังขายได้ แต่จุดอ่อนก็เป็นปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคที่ยังไม่ได้แก้ไข

          แกนนำพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ ไม่ค่อยชอบ “คุณหญิงหน่อย” จึงมีข่าวลือ “อ้วน ภูมิธรรม” และ “อ๋อย จาตุรนต์” ยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทย พร้อมกับผู้อาวุโสอีกหลายคน

 

 

          ล่าสุด “อ้วน ภูมิธรรม” ต้องออกมาแถลงข่าวยืนยัน ไม่มีการลาออก และยังไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคคนไหนย้ายไปอยู่พรรคเครือข่าย

          กรณีอดีต ส.ส.อีสานกว่า 40 คน ไม่พอใจในบทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์นั้น มีจริง และดำรงอยู่เช่นนี้มานานแล้ว แต่อดีต ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่อยากทิ้งเพื่อไทยไปพรรคใหม่

          ตามแผน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อของเพื่อไทย จะต้องขยับไปอยู่พรรคไทยรักษาชาติ ตามยุทธวิธี “เก็บแต้มปาร์ตี้ลิสต์” เนื่องจากกติกาใหม่ ไม่เอื้อต่อพรรคที่จะได้ ส.ส.เขต เกิน 200 ที่นั่ง

          การวางแผนเลือกตั้งสูตร 1+4 ดูเหมือนง่าย แต่ก็ยาก เพราะในสนามจริง มิอาจคาดเดาใจผู้ใช้สิทธิ์ได้

          ด้วยเหตุนี้ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ในภาคเหนือและอีสาน จึงค่อนข้างเงียบ ไม่มีกิจกรรมใดๆ เพราะยังลังเลจะเลือกพรรคไหน มีตั้ง 4 พรรคให้เลือก

          เพื่อไทยแบรนด์เก่าคนจำแม่น ..แต่แบรนด์ใหม่คนไม่คุ้น ก็เหนื่อยหน่อย