ปลดล็อกการเมือง : ลับ ลวง พราง??

 

               “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ และหัวหน้า คสช. บอกเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า จะมีการพูดคุยเรื่องการปลดล็อกพรรคการเมืองหลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.ออกมา (อ่านต่อ..."นายกฯ" เผยถก "ปลดล็อกการเมือง" หลังพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง)

               มี 2 ประเด็นเป็นคำถาม

               1.พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส. จะออกมาเมื่อไร

               2.จะมีการปลดล็อกอย่างไร

               พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส. จะออกมาเมื่อไร ก็ต้องบอกว่าหลังจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้

               ตามกำหนดให้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้หลังพ้น 90 วันนับจากวันประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา กฎหมายนี้ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ฉะนั้นจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธันวาคมเหลืออีก 32 วันนับจากวันนี้

               แต่ก็ไม่ได้มีข้อกฎหมายใดกำหนดว่า หลังกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้แล้ว จะต้องประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.ออกมาภายในกี่วัน ข้อกำหนดเรื่องระยะเวลามีเพียงว่า เมื่อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับมีผลบังคับใช้แล้ว ให้จัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268

               นั่นหมายความว่า เมื่อไม่มีเวลากำหนดก็ไม่ชัดเจนว่าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.จะออกมาเมื่อไรแน่

               อย่างไรก็ตาม กกต.เคยบอกไว้ว่า คาดว่าจะมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 4 มกราคม 2562

               คำถามที่สอง จะมีการปลดล็อกอย่างไร?

               จุดสำคัญในการปลดล็อกครั้งนี้น่าจะอยู่ที่เรื่องการปล่อยให้พรรคการเมืองสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้

(ภาพ : FB คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan) 

 

(ภาพ : FB Abhisit Vejjajiva) 

 

(ภาพ : FB Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)) 

 

(ภาพ : FB Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ) 

 

               แต่ถ้าย้อนไปดูสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งไว้เมื่อ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก็จะพบว่า “บิ๊กตู่” เคยส่งสัญญาณไว้แล้วว่าการหาเสียงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

               “เรื่องการปลดล็อกที่จะหาเสียง ขอถามว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรในการหาเสียง มีหาเสียงในสิ่งที่ดีๆ หรือไม่ ด่ากันโจมตีกันไปมา แทนที่จะพูดในสิ่งที่พรรคจะทำอะไร ตัวเองจะทำอะไร ถ้าเป็นแบบนี้มันไปไม่ได้ จะกลายเป็นว่าเริ่มบรรทัดฐานตั้งแต่การเลือกตั้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเข้าไปเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้าน ขอถามว่าพื้นที่ฝ่ายค้านจะได้อะไร ฉะนั้นบางอย่างต้องมีการร่วมมือกันทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล” 

               “มันด่ากันตามถนนหนทางเดินกันทั่วไปหมด รับได้หรือไม่ ถ้ารับไม่ได้ก็ต้องช่วยผม ให้ทุกคนออกมารับประกันว่าการหาเสียงจะต้องประกาศนโยบายที่ตรงตามกฎหมายกำหนด ไม่ใช่มองว่ากฎหมายที่ออกมาเป็นการบังคับ มาตัดสิทธิ มาเพิ่มภาระ แล้วที่ผ่านมาไม่มีเรื่องพวกนี้แล้วเป็นอย่างไร ก็ลองมีเสียบ้างไม่ได้หรือ ประเทศนี้ต้องมีกฎเกณฑ์ มีกฎหมาย กติกา”

               "การหาเสียงจะต้องอยู่ในกรอบที่กำหนด โดยต้องขออนุญาตเป็นครั้งๆ ไป บางอย่างต้องขอ บางอย่างไม่ต้องขอ ซึ่งต้องหาวิธีในการกำหนดให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่ใช่ก่อนจะไปถึงประชาธิปไตยตีกันเละ” (อ่านต่อ...บิ๊กตู่ ลั่น"หาเสียง"ต้องอยู่ในกรอบขออนุญาตเป็นครั้งๆ)

               สำหรับคำสั่ง คสช.ที่ส่งผลให้ยังมีการล็อกพรรคการเมืองไว้ หลักๆ อยู่ที่ 2 คำสั่ง คือ ประกาศ คสช.ฉบับที่ 57/2557 ห้ามพรรคการเมืองประชุม หรือดําเนินกิจการใดๆ ในทางการเมือง และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป แม้ตอนหลังจะมีการคลายล็อกไปบ้าง แต่ก็เป็นไปอย่างมีเงื่อนไข ทำได้เฉพาะที่อนุญาตเท่านั้น

               รอดูว่าสุดท้ายจะมีการปลดล็อกไหม ปลดล็อกแค่ไหน หรือจะเป็นเกม ลับ ลวง พราง?

 

==============

โดย @jin_nation

 

(อ่านต่อ...ยังไงกันแน่ !! "ปลดล็อก" หรือ "ล็อกเพิ่ม" ??)