คอลัมนิสต์

กงล้อรถถัง "ยังไงก็รัฐประหาร"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จะเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่? ไม่ได้อยู่แค่ความคิดของคณะนายทหารกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หากแต่ยังต้องพิจารณาถึงเงื่อนไข เหตุปัจจัยภายใน และภายนอกของสังคมช่วงเวลานั้นด้วย

               นักปรัชญาการเมืองเคยกล่าวว่า “เหตุมูลฐานแห่งการพัฒนาของสรรพสิ่ง มิใช่อยู่ภายนอกของสรรพสิ่ง หากอยู่ที่ภายในของสรรพสิ่ง อยู่ที่ลักษณะขัดแย้งภายในสรรพสิ่ง”

 

               ฉะนั้นการจะเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่ ? ไม่ได้อยู่แค่ความคิดของคณะนายทหารกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หากแต่ยังต้องพิจารณาถึงเงื่อนไข เหตุปัจจัยภายใน และภายนอกของสังคมช่วงเวลานั้นด้วย

               เรื่องอุดมการณ์เป็นนามธรรม ส่วนยุทธวิธีเป็นรูปธรรม การออกมาเอะอะโวยวายผ่านสื่อโซเชียล แสดงจุดยืนต้านเผด็จการทหาร อวดอ้างความเป็นนักประชาธิปไตย แต่ในความเป็นจริง พวกเขายึดถือหลักอภิปรัชญา เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่เข้าใจลักษณะขัดแย้งในสังคมไทย

               จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ได้บอกกับแฟนคลับเสื้อแดงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าห้วงระยะเวลานี้ อวัยวะที่สำคัญของร่างกายเรา คือ หู และที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ ต้องใช้สมองคิดด้วยความละเอียด เราจึงสามารถกำหนดแนวทางการเดินต่อได้

กงล้อรถถัง "ยังไงก็รัฐประหาร"

               “นปช.จะทำอย่างไร ทุกฝ่ายต่างทราบดี...จะมีการชุมนุมแบบเดิมอีกต่อไปไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนเวทีไปสู้กันในสภา

               บทเรียนการต่อสู้บนท้องถนนปี 2552-2553 และยุทธการบนถนนอักษะ ปี 2557 ทำให้จตุพรต้องหันมาทบทวนบทบาทของ นปช.อย่างจริงจัง 

               หลายคนวิจารณ์ว่า จตุพรเปลี่ยนไป เปลี่ยนอุดมการณ์ แต่บางฝ่ายก็วิเคราะห์สาเหตุการเปลี่ยนท่าทีและท่วงทำนองของประธาน นปช.

               ว่ากันตามจริง แกนนำ นปช.ส่วนใหญ่ก็คิดแบบ “ตู่ จตุพร” แต่ไม่กล้าพูดผ่านสื่อ กลัวพวกเดียวกันถล่มเรื่อง “ทิ้งอุดมการณ์” หรือ “เปลี่ยนสี แปรธาตุ”

               กรณีของ “วิสา คัญทัพที่กระซิบให้ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ออกมาเปิดเผยเรื่องอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ก็คิดไม่ต่างจากจตุพร ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ ยืดเยื้อยาวนาน ต้องปรับยุทธวิธี จึงส่งสัญญาณอยากกลับบ้าน

กงล้อรถถัง "ยังไงก็รัฐประหาร"

               วิสาอยู่เยอรมนีมา 4 ปีแล้ว ไม่ได้สถานะผู้ลี้ภัย ไม่ได้เป็นพลเมืองฝรั่งเศสเหมือน จรัล ดิษฐาอภิชัย จึงมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก

               ข้ามโขงทางฝั่งเวียงจันทน์ “สุรชัย แซ่ด่าน” ป่วยกระเสาะกระแสะมาหลายปี และอยากกลับบ้านเต็มแก่ ฉะนั้น นิยายน้ำเน่าที่สุรชัยเล่าทุกคืนทางช่องยูทูบ ก็แฝงด้วยความหวังที่จะได้รับนิรโทษกรรม

               เดิมทีคนเหล่านี้หลบไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน คิดว่ารัฐประหารไม่นานหรอก แค่ปีเดียวก็มีเลือกตั้ง พวกเขาจะได้กลับบ้าน แต่คราวนี้มันยาวนานเกินคาด ย่างเข้าปีที่ 4 อาการเครียดระคนเหงาว้าเหว่ ประเดประดังเข้ามา จึงทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ

               ยิ่งนาน ยิ่งเหนื่อย บางคนทำใจแล้ว อยากขอลี้ภัยก็ทำไม่ได้ เพราะนครหลวงเวียงจันทน์ ไม่มีสำนักงานตัวแทนของยูเอ็นเอชซีอาร์

               สำหรับกลุ่ม “ลุงสนามหลวง” แห่งสหพันธรัฐไทย ไม่ป่วยก็เหมือนป่วย จัดรายการทางยูทูบ ด่าเพื่อนพ้องน้องพี่ในพรรคเพื่อไทย ลามไปถึง “นายใหญ่” ฟังดูแล้วก็คล้ายคนป่วยทางจิต

กงล้อรถถัง "ยังไงก็รัฐประหาร"

               ขณะที่ สุรชัย แซ่ด่าน ยังหวังให้มีนิรโทษกรรมหลังเลือกตั้ง แต่อดีตแกนนำแดงฮาร์ดคอร์ที่ซุกตัวอยู่ กลับไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นทางออก พวกเขาจึงเดินแนวทางเดิมๆ พยายามจัดตั้งคนเสื้อแดงบางกลุ่มให้กลับมาเคลื่อนไหวใต้ดินอีกหน แกนนำบางคนลอบข้ามน้ำโขงมาพบมิตรสหายอยู่บ่อยๆ 

               ข้อมูลเหล่านี้ ฝ่ายความมั่นคงทราบดี และ ผบ.ทบ.คนใหม่ก็รู้ จึงลั่นคำแรงๆ ถ้ามีการก่อจลาจลนองเลือด ก็ต้องยึดอำนาจ หากไม่มีอะไร ฝ่ายการเมืองก็ว่ากันไป 

               นักประชาธิปไตยบนหอคอยงาช้าง มักจะหยามหยันว่า พวกแดงใต้ดินที่อยู่ในลาว ไม่มีราคา ไม่มีน้ำยาอะไร แต่พวกเขาไม่เคยหาข้อมูลเชิงลึก หรืออาจจะรู้อยู่บ้าง แต่ทำเป็นหลับตาข้างหนึ่ง

               ทำนองเดียวกัน นักประชาธิปไตยจ๋าได้เกาะเกี่ยวอยู่กับพรรคการเมืองบางพรรค หวังห้อยหวังโหน และแอบหนุนคนบางกลุ่มให้เคลื่อนไหวมวลชนแบบเดิมๆ หวังจุดเชื้อไฟการลุกขึ้นสู้ของภาคประชาชน

               คนพวกนี้ยังหมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้ในอดีต และหวังจะให้เห็น “14 ตุลาภาค 2 เกิดขึ้นในอนาคต

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ