ใครฮอตสุด?? เช็คเรตติ้งนักการเมืองในโซเชียลฯ

 

               ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ จะเข้ามาในโซเชียลมีเดีย เพราะผู้นำประเทศทั่วโลกก็ทำกัน แต่ที่แปลกก็คือ “บิ๊กตู่” เคยบอกไว้ว่าจะ “ไม่”

               "จะไม่เปิดเฟซบุ๊กของตัวเองขอให้รักที่ตัวจริงจะดีกว่าไปเจอกันในเฟซบุ๊ก ถ้าจะรักให้รักที่ตัวผม...กดไลค์ผมถึง 70 ล้านไหม และถ้ากด 10 กว่าล้านแล้วมันจะสำเร็จไหม ทุกๆ คนไม่ต้องมารักผม รักประเทศของท่านเถอะ รักประเทศสัก 70 ล้าน รักผมสักล้านเดียวก็พอแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ พูดไว้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2558

               นอกจากนี้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2561 พล.อ.ประยุทธ์ ยังเคยพูดถึงวิธีทำให้ตัวเองมีความสุข ขณะขึ้นบรรยายพิเศษในการลงพื้นที่วิสาหกิจชุมชนธนาคารปูม้า แพปลาชุมชนแหลมผักเบี้ย ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ว่า “วิธีทําให้ตัวเองมีความสุขคือการไม่เล่นเฟซบุ๊ก ไม่ดูโซเชียล เพื่อทำให้หัวโล่งทั้งวัน เพราะถ้าเปิดอ่านก็หมดแรงข้าวต้ม เพราะเห็นว่ามีแต่คนด่าทั้งวัน”

               และก็ชัดเจนว่าตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาอยู่ในอำนาจ ก็ไม่ปลื้มกับโลกโซเชียล

               อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดทั้งเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” อินสตาแกรม ชื่อ prayutofficial ทวิตเตอร์ ชื่อ @prayutofficial และยังมีเว็บไซต์ prayutchan-o-cha.com ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าไปติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเฟซบุ๊กที่มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมากด้วย และแน่นอนจำนวนไม่น้อยเข้าไปวิจารณ์ “บิ๊กตู่” แบบแรงๆ

               หลังมีเสียงตอบรับอย่างล้นหลามทั้งบวกและลบ “ลุงตู่” บอกถึงการรุกเข้ามาในโซเชียลมีเดียอย่างอารมณ์ดีว่า “วันนี้ก็ต้องเป็นตู่ดิจิทัลบ้าง เพราะเรากำลังเดินนโยบาย 4.0 และผมก็เป็นเบบี้บูมเมอร์ ก็แสดงให้เห็นว่าผมก็พยายามปรับตัว วันนี้การใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน”

 

(อ่านต่อ..."นายกฯ" เปิดเพจเหตุอยากเป็น "ตู่ดิจิทัล")

 

               “ผมต้องการเปิดเวทีนี้ให้ทุกคนได้ติได้ชมผม เป็นอีกช่องทางการสื่อสารกับประชาชน และผมก็ต้องทำตัวใจกว้างมากขึ้นขออย่างเดียวขอให้สุภาพหน่อยแล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงเรื่องนี้

               “เชิญเข้าไปกดไลค์กันด้วยนะ” พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สนใจยอดไลค์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เรื่องนี้

               ผ่านมา 1 สัปดาห์มีคนมากดไลค์เฟซบุ๊กนายกฯ ไปแล้วมากกว่า 3.6 แสนคน คนตามในอินสตาแกรม มากกว่า 1 แสน และคนตามทวิตเตอร์ มากกว่า 2.8หมื่น (ข้อมูล ณ เที่ยงวันที่ 22 ตุลาคม 2561)

  

               เช็กเรตติ้งนักการเมืองในโซเชียลมีเดีย

               ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาใช้โซเชียลมีเดีย ขณะที่ยังมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ห้ามนักการเมืองใช้สื่อออนไลน์ในการหาเสียง จึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า “บิ๊กตู่” กำลังเอาเปรียบคู่แข่ง

               อย่างไรก็ตามตอนนี้นักการเมืองยังคงมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียกันตามปกติ ซึ่งแม้ไม่ใช่การหาเสียงโดยตรง แต่ก็ชัดเจนว่ามีผลต่อเรื่องคะแนนนิยมของนักการเมืองนั้นเอง

               สำรวจความนิยมของนักการเมืองในโซเชียลมีเดีย ดูเฉพาะในส่วนของเฟซบุ๊กที่นักการเมืองเข้ามาใช้กันอย่างคึกคักมากที่สุด ปรากฏว่าที่มียอดคนไลค์มากที่สุด คือ อดีตนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มียอดไลค์นำโด่งมากกว่า 6 ล้าน

               เพจของยิ่งลักษณ์ไม่มีความเคลื่อนไหวไปช่วงหนึ่ง คือช่วงที่เธอหนีออกไปจากประเทศไทยจากคดีจำนำข้าว ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี แต่ในระยะหลังหลังจากเธอเปิดตัวว่าอยู่กับพี่ชายอย่างชัดเจน เธอก็กลับมาโพสต์ถี่ขึ้นเกี่ยวกับการเดินทางของเธอและพี่ชายและเรื่องทั่วๆ ไป

               รองลงมาคือ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่ยอดไลค์พุ่งขึ้นมาช่วงสวมบทบาทเป็น “ลุงกำนัน” เลขาธิการ กปปส. มียอดไลค์ 2.7 ล้าน

               เพจอดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” มียอดไลค์อันดับ 3 คือ 2.6 ล้าน ระยะหลังทักษิณไม่ค่อยได้โพสต์บ่อยนัก จะมาเมื่อในอีเวนท์สำคัญๆ ล่าสุด โพสต์ในโอกาส 12 ปี หลังจากเขาโดยรัฐประหารเมื่อ 19 กันยาน 2549

               อันดับ 4 เป็นอดีตนายกฯ จากพรรคประชาธิปัตย์ คือ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” สำหรับเพจอภิสิทธิ์ เรียกได้ว่าคึกคักตลอด โดยจะโพสต์เกี่ยวกับการลงพื้นที่ของอภิสิทธิ์ ล่าสุดเมื่อจะมีการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค เพจอภิสิทธิ์ยิ่งคึกคักมากขึ้น

               หากไม่นับ “โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร ที่มียอดไลค์ในเพจอยู่ 2.76 ล้าน ว่าเป็นนักการเมือง ก็ถือว่า ณ ล่าสุดเพจนักการเมืองที่มียอดไลค์ในเพจเฟซบุ๊กถึงหลักล้านอยู่เพียง 4 คนข้างต้น

               อันดับต่อมาคือ “เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เหมือนแอบซุ่มเก็บคะแนนนิยมไปเรื่อยๆ รองลงมาคือ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” และ “กรณ์ จาติกวณิช”

               สำหรับ “บิ๊กตู่” จากข้อมูลล่าสุดที่มียอดไลค์เพจมากกว่า 3.6 แสนคน ทำให้เบียดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 8 แล้ว โดยล่าสุดแซง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่มียอดไลค์ที่ 3.2 แสน

               ส่วนอันดับ 10 คือ “จาตุรนต์ ฉายแสง” จากพรรคเพื่อไทย มียอดไลค์อยู่ที่ 2.4 แสนคน เรื่องที่จาตุรนต์โพสต์ส่วนใหญ่เป็นการแสดงความเห็นและจุดยืนทางการเมือง

               อีก 3 คนที่ไม่ติดหนึ่งในสิบอันดับแรกแต่น่าจะพูดถึง คนแรกคือ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ตกไปอยู่อันดับ 11 หลังมี “ตู่ดิจิทัล” ขึ้นมา 

               ถ้าเทียบกับนักการเมืองที่มียอดไลค์ในเพจเฟซบุ๊กอันดับต้นๆ ธนาธรก็ถือว่าเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่สุด โดยเขาเปิดตัวออกมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  

               อีกคนที่น่าพูดถึงคือ “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ที่น่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยซึ่งจะมีการประชุมเลือกกันในวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคมนี้

               ยอดไลค์เพจคุณหญิงหน่อย จัดว่าไม่ค่อยหวือหวานัก ยอดไลค์ยังไม่ถึงแสนล่าสุดเพิ่งจะแตะ 9 หมื่น

               อีกคนที่น่าไปดูเพจคือ “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการเปิดเพจเฟซบุ๊กเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมียอดไลค์อยู่ที่ 45,562

  

               **เพจสุเทพยอดไลค์ตก ธนาธร-เสรีพิศุทธ์ ยังพุ่ง

               จากการเก็บข้อมูลเพจนักการเมืองที่มียอดไลค์สูงในช่วง 5 วันที่ผ่านมา พบว่าแทบทุกเพจมียอดไลค์เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่จะมียอดไลค์เพิ่มเป็นหลักสิบ ได้แก่ เพจยิ่งลักษณ์ เพจทักษิณ เพจอภิสิทธิ์ เพจจตุพร และเพจจาตุรนต์

               แต่ก็มีบางคนที่ยอดไลค์เพิ่มเป็นหลักร้อย โดยหากไม่นับเพจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยอดไลค์รายวันเพิ่มเป็นหลักหมื่น เพจนักการเมืองที่ยอดไลค์เพิ่มมากที่สุดคือเพจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 500-600 ไลค์ วันที่ 17 ตุลาคม มี 850,162 ล่าสุด 22 ตุลาคม มี 853,967 ไลค์

               รองลงมาคือเพจธนาธร มียอดไลค์เพิ่มวันละประมาณ 400 จากวันที่ 17 ตุลาคม มี 128,454 ไลค์ วันที่ 22 ตุลาคม มี 130,415 ไลค์

               เพจคุณหญิงหน่อยก็น่าสนใจ โดยช่วงนี้มียอดไลค์เพิ่มวันละ 200-300 คน วันที่ 17 ตุลาคม มี 89,073 ล่าสุดวันที่ 22 ตุลาคม เพิ่มเป็น 90,510 และเพจชัชชาติ มียอดไลค์เพิ่มวันละมากกว่า 100 จากวันที่ 17 ตุลาคม มี 629,696 ไลค์ วันที่ 22 ตุลาคม มี 630,326

               ในท็อปเท็นเพจนักการเมืองนี้ มีอยู่เพียง 2 เพจที่ยอดไลค์ลดลงในช่วง 5 วันนี้ เพจคือของสุเทพ กำลังตกลงไปวันละประมาณ 100 ไลค์จากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ยอดไลค์ในเพจสุเทพคือ 2,746,275 แต่ล่าสุดวันที่ 22 ตุลาคม ลดลงมาเหลือ 2,745,750 ลดลงไป 525 ไลค์

               อีกเพจคือเพจของกรณ์ จาติกวณิช แต่ก็ลดลงไปเพียงเล็กน้อย โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม มียอดไลค์ 604,323 ล่าสุดวันที่ 22 ตุลาคม เหลือ 604,293 ไลค์

 

               **พรรคประชาธิปัตย์ ยอดไลค์เพจมากที่สุด
               สำหรับยอดไลค์เพจของพรรคการเมืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์มียอดไลค์มากที่สุด 6.8 แสน รองลงมาเป็นของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งใช้ชื่อเพจกิจกรรมหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งโพสต์กิจกรรมทุกอย่างของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ทั้งส่วนที่เป็นกิจกรรมของพรรคและกิจกรรมของนายอนุทินเอง 

               เป็นที่น่าสังเกตว่าใน 10 อันดับแรกของเพจพรรคการเมืองที่มียอดกดไลค์มากที่สุดนั้น เป็นพรรคการเมืองใหม่ถึง 6 พรรค มากที่สุดคือพรรคอนาคตใหม่ รองลงมาคือ พรรคพลังประชาชาติไทย พรรคสามัญชน พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคเกียน

 

  

               **นักวิชาการแนะนักการเมืองใช้โซเชียล “ฟังประชาชน”

               “ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์” คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่าเห็นด้วยกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social media) ของนักการเมือง เพราะทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนไทยจำนวนไม่น้อยใช้ชีวิตในโลกโซเชียลมากกว่าสื่อประเภทอื่นๆ

               “แต่ผมอยากให้นักการเมืองเหล่านั้น รวมถึงทีมงานฝ่ายปฏิบัติการใช้ Social media ให้เต็มประสิทธิภาพอย่าใช้แค่ “พูด” บอกเล่า สื่อสาร โฆษณาชวนเชื่อข้อมูลข่าวสารแบบสื่อดั้งเดิม อันเป็นการสื่อสารทางเดียวเป็นหลักแต่อยากให้ใช้ “การฟัง” เสียงจากประชาชนภาคส่วนต่างๆ แน่นอนว่า มันย่อมมี “เสียง” ขัดหู หรืออ่านดูขัดตาก็ควร “เปิดใจให้กว้าง” แล้วใช้ “การสนทนา” (Conversation) สื่อสารสองทางกับผู้คนในโลกออนไลน์ ทำความเข้าใจกับพวกเขา”

               นักการเมืองแต่ละคนก็จะมีสไตล์ในการโพสต์ในโซเชียลมีเดียที่แตกต่างกันไป บ้างจะหนักกิจกรรมที่ตัวเองไปทำ บ้างหนักที่การแสดงความเห็นทางการเมือง

               สำหรับ “บิ๊กตู่” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพยายามสื่อให้เห็นมุมสบายๆ ที่ชาวบ้านไม่ค่อยได้เห็น รวมถึงการทักทายในลักษณะ “เช้าถึงเย็นถึง” เพื่อสื่อความเป็นนายกฯ ที่ทันสมัย ใกล้ชิดประชาชน

               แต่ถึงที่สุดโลกโซเชียลก็เป็นเพียงโลกเสมือนจริงเท่านั้น นักการเมืองคนไหนจะได้รับความนิยมมากน้อยเพียงใดอยู่ที่การกระทำในโลกความเป็นจริงมากกว่า !!

==================

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์