คอลัมนิสต์

"วันนี้ไม่มีเวลารำมวยแล้ว..."

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วันนี้ไม่มีเวลารำมวยแล้ว..." : คมชัดลึก..ลุยเลือกตั้ง  โดย...  สมัชชา หุ่นสาระ

 

          “ภูมิใจไทย” คือพรรคที่แยกตัวจากพรรคพลังประชาชน และร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์เมื่อช่วงปลายปี 2551 จนเกิด “วรรคทองการเมือง” ที่ระบุว่า “มันจบแล้วครับนาย” จากปากของ ”เนวิน ชิดชอบ” แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินในช่วงนั้นที่สร้างความฮือฮาให้สังคมไม่น้อย

 

 

          เลือกตั้งครั้งต่อมา พรรคสีน้ำเงินไม่ได้ร่วมตั้งรัฐบาลเพื่อไทย และทำหน้าที่ฝ่ายค้านคู่กับพรรคสีฟ้า แต่การเลือกตั้งครั้งที่จะเกิดขึ้นนี้หลายฝ่ายมองว่า พรรคนี้จะจับขั้วใด เพราะคนการเมืองมองกันว่าพรรคนี้มี “ความพร้อมที่สุด” พรรคหนึ่ง แม้อัตราต่อรองจะอยู่ในลำดับเต็งสี่รองจาก ”เพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์”


          แต่การเป็นพรรคขนาดกลางในการเมืองไทยนั้นคือตัวแปรสำคัญว่า จะจับขั้วกับพรรคใด เพราะมันออกได้สองมุมคือเป็นฝ่ายบริหารหรือเป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร


          แต่เสียงลือบนเวทีการเมืองยามนี้ อ่านหมากของภูมิใจไทยว่า “เดินไปได้สองทาง” โดยทางหนึ่งประเมินว่าหลังการเลือกตั้ง "เสี่ยหนู” สามารถประสานต่อขั้วนายใหญ่จากเพื่อไทยได้ และอีกเส้นทางหนึ่งคือให้คนโตแห่งบุรีรัมย์จับอีกขั้วทางการเมือง(โดยเฉพาะขุนพลท็อปบู๊ท) แบบ Win Win Solution


          แต่อนาคตจะเป็นอย่างไร “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคสีน้ำเงินให้คำตอบนี้กับเครือเนชั่น

 

          0 ช่วงนี้พรรคทาบทามนักการเมืองและบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนเข้าพรรคแบบเซอร์ไพรส์วงการ
          พรรคนี้มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ เพราะมีตั้งแต่อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตรองนายกฯ อดีตรมว. และอดีตรมช. มากมาย รวมทั้งอดีตส.ส.ที่มีประสบการณ์หลายสมัยอีกเยอะ รวมทั้งคนใหม่ที่มาร่วมงานกับพรรคในวันนี้และวันหน้าก็จะมีมาร่วมงานเพิ่ม มันคือสิ่งที่พรรคทาบทามให้เกิดการทำงานครบวงจร ย้ำว่าอดีตรัฐมนตรีของพรรคนี้ เท้าติดดิน ทำนาทำไร่ด้วยตัวเองได้จริงทุกคน

 

 

 




          หลายคนอาจชำนาญการบริหาร แต่บางครั้งก็ขาดคนที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน พรรคจึงได้เชิญบุคคลเหล่านี้มาช่วยงาน ผมจึงเชื่อว่าเราใกล้ความจริงและพร้อมลงสนาม เป่านกหวีดก็ลงสนามทันทีและพร้อมไปถึงเส้นชัย เราทำงานแบบไม่สร้างความเสี่ยงให้บ้านเมือง


          ฉะนั้นพรรคจึงเชิญบุคลากรที่มีความสำคัญหลายสาขามาร่วมงานมากมาย และรับฟังข้อเสนอของทุกฝ่าย จากนั้นนำมาประมวลทำนโยบายพรรค ยอมรับว่าหลายคนในพรรคไปช่วยทาบทาม มันเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ส่วนตัว และเชื่อมั่นคนที่มีความรู้และเห็นผลงานประจักษ์กับประเทศ และจะมีมาเพิ่มเรื่อยๆ


          เราคบกันแบบเพื่อน และถึงเวลาก็ไปเชิญว่าพรรคตั้งใจทำงานในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชน จะเข้ามาแก้ปัญหาปากท้อง ซึ่งไม่ใช่การใช้งบประมาณที่มากมาย เราต้องใช้ความรู้ในการยกระดับชาวบ้านทุกด้าน โดยใช้กลไกรัฐเป็นเครื่องหนุน


          วันนี้เมืองไทยอยู่ในยุค 4.0 และใกล้เข้ายุค 5.0 แล้ว ไม่ใช่อยู่ในยุคที่อยากให้ใครมีเงินเข้ามาทำงานการเมืองแล้วเสนอโครงการในนโยบายรัฐหรือใช้ประชานิยมเพื่อให้ชาวบ้านได้เงินแต่ไม่รู้คุณค่า มันเหมือนแก้ปัญหาระยะสั้น


          ยุคนี้คือยุคสื่อสารออนไลน์และไอที การแก้ปัญหานั้นต้องทำตั้งแต่ปากท้อง การศึกษา การทำงาน ระบบการเงินการธนาคาร มันต้องจัดระบบพัฒนาประเทศใหม่ทั้งองคาพยพ ต้องใช้คนที่มีประสบการณ์ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ไม่มีเวลารำมวยและไหว้ครูแล้ว เข้ามาต้องชกเลย พรรคจึงสอบถามและทาบทามคนที่มีประสบการณ์มาร่วมงานที่จะทำงานร่วมกันกับนโยบายของพรรคและของตน


          “ผมเป็นหัวหน้าพรรคนี้สมัยที่สองแล้ว สิ่งที่ผมบอกสมาชิกคือ ทำได้ ทำเร็ว ทำเลย จะให้มือใหม่มาหัดขับตอนนี้คงไม่ได้แล้ว การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ มันคือยุคที่ประชาธิปไตยกลับมา จะเป็นรัฐสภาและรัฐบาลแรกจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และเป็นสององค์กร(ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร)ที่มาจากการเลือกตั้งในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ผู้บริหารพรรคต้องคำนึงว่าต้องทำสิ่งที่ถูกต้องและสมควรที่สุด อยู่ภายใต้กฎหมายและกฎสังคมให้สมเกียรติ เพราะส.ส.ชุดหน้าจะเป็นส.ส.ในรัฐสภาซึ่งอยู่ในยุคใหม่ของประเทศ


          หัวหน้าพรรคแบบผมจะไม่คิดเล่นการเมืองให้ได้คะแนนนิยม หรือเล่นการเมืองแบบไม่สนใจอะไร เว้นแต่ผลประโยชน์ตัวเองนั้น เรื่องนี้จะเกิดไม่ได้ ผมสังคายนาระบบพรรคร่วมกับผู้ใหญ่ในพรรค ฉะนั้นทุกคนในพรรคต้องรับฟังและเชื่อมั่น ไม่ใช่เรียกร้องให้ตัวเอง ทุกคนต้องเป็นนักการเมืองมืออาชีพ พวกเราต้องสร้างคนและสร้างพรรคให้ประชาชนเชื่อว่า มาถูกทางหากเลือกพรรคนี้ เพราะพวกเราต้องสร้างความเชื่อมั่นจากสังคมว่าหากเลือกพรรคนี้แล้ว จะเชื่อถือได้ ทำได้ ทำเร็ว ทำเลย ตามมอตโต้ของผม”


          0 มีการประเมินกันว่าเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยเป็นตัวเต็งอันดับสี่ แต่พรรคในช่วงนี้เปิดตัวบุคคลมาร่วมงานแบบเซอร์ไพรส์ แบบนี้จะขยับอันดับได้หรือไม่
          “ผมตั้งมาตรฐานในการดำรงชีวิตไว้ว่า เราต้องแข่งขันกับตัวเอง ถามว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วหรือไม่ ไม่คิดแข่งขันกับใคร แนะนำคนในพรรคว่า สิ่งที่นำเสนอกับสังคมที่ร่วมกันคิดนโยบายพรรคออกมา ต้องให้เกิดการยอมรับ ทำให้ประชาชนมองว่าพรรคนี้เสนอและจะทำเพื่อประชาชน ไม่กังวลว่าจะแข่งขันกับใครและพรรคใด ต้องทำตัวเองให้ดีที่สุด ฉะนั้นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคต้องแสดงให้สังคมเห็นว่าทำทุกอย่างที่ดีที่สุดในความเป็นมนุษย์พึงกระทำแล้ว ฉะนั้นผลที่จะออกมาคือประชาชนตัดสินว่าพรรคจะอยู่ในจุดใด ตรงนี้ผมยอมรับและเคารพต่อสิทธิและความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้พรรค


          พรรคจะไม่ออกมาเรียกร้องว่าโดนกลั่นแกล้ง หรือได้รับความไม่เป็นธรรม เพราะเราเชื่อว่าหากสิ่งที่คิดกันเป็นนโยบายพรรคนั้นดีแล้ว ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคตั้งใจ สิ่งที่ประชาชนให้คำตอบคือความศักดิ์สิทธิ์เหนือสิ่งไม่ถูกต้อง และมันเป็นสิ่งที่พวกผมจะรับไว้เพื่อไปทำงานให้บ้านเมืองตามที่สังคมไว้วางใจและกลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด


          หากมีการประเมินว่าพรรคนี้อยู่ในอันดับสี่ ก็ยังดี เพราะผมไม่ทำให้ร่วงไปอยู่อันดับต่ำกว่านั้นแน่(ยิ้ม) และทำให้ยั่งยืน หากผมขึ้นไปอยู่อันดับที่เหนือกว่าอันดับที่มีการประเมินพรรคนี้ ผมก็ถือว่าสำเร็จกว่าที่คาดแล้ว เพราะ We give our all”


          0 ตั้งเป้าได้ส.ส.กี่คนจากที่การเลือกตั้งปี 2554 พรรคภูมิใจไทย ได้ 34 ส.ส.
          “บอกตัวเองว่า หากสิ่งที่คิดและทำนโยบายนั้นดีที่สุด นำเสนอต่อสังคม หากประชาชนตัดสินก็เลือกพรรคนี้ ไม่ได้ตั้งจำนวนเอาไว้ เพราะพรรคนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง”


          0 จะยึดธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่ว่าจะให้พรรคที่ชนะเลือกตั้งอันดับที่หนึ่งเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล และจะร่วมงานกับพรรคที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งได้หรือไม่
          “คำว่า "ผู้แทนราษฎร” คือความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้วที่ชาวบ้านให้แก่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ชนะเลือกตั้ง ผมยังภูมิใจเลยว่า การเป็น ส.ส.นั้นคือสิ่งที่มั่นคง เพราะมาจากประชาชน และเสียงดังกว่าคนที่มาเป็นรัฐมนตรีแต่ไม่ได้ลงเลือกตั้ง รบสิบครั้งก็ชนะ


          เรามีธรรมเนียมปฏิบัติในระบบรัฐสภามานาน พวกเรารู้โดยสัญชาตญาณที่ต้องเคารพการตัดสินของประชาชนที่บอกในวันนั้นว่าต้องการอะไรจากพรรคใด ทุกอย่างนั้นคือ ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นที่ยอมรับของวิญญูชน อยู่ในระบอบประชาธิปไตย มีความชอบธรรม เหมาะสมและไม่ขัดแย้งกับสายตาประชาชน


          สิ่งเหล่านี้คิดมาตั้งแต่รับหน้าที่หัวหน้าพรรคแล้ว พรรคนี้จึงยืนอยู่ได้ท่ามกลางแรงกดดันและเสียงชื่นชม เราต้องทำสิ่งดีที่สุดและเป็นตัวของตัวเอง ผลงานในอดีตนั้นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนเห็นแล้ว เราทำงานได้ทั้งฝ่ายตรวจสอบและฝ่ายบริหาร โดยตั้งอยู่บนความไว้วางใจของประชาชนว่าจะให้พรรคนี้ทำงานด้านใด ผมมองว่า การทำงานพรรคนี้คล่องตัว ไม่อุ้ยอ้าย ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ตรงนี้คือความลงตัวที่สุด”


          “หากพรรคมีโอกาสทำงานในฝ่ายบริหาร ผมต้องไปหารือว่านโยบายพรรคของผมจะอยู่ในนโยบายรัฐบาลแบบใดบ้าง เพราะมันคือสิ่งที่ไปหาเสียงไว้และต้องทำ ไม่ได้มุ่งว่าจะได้กระทรวงใดมาดูแลและได้รัฐมนตรีกี่โควตา มันต้องดูการทำงานร่วมกัน และหากไม่ได้ เราก็ทำงานในด้านตรวจสอบ (ฝ่ายค้าน) โดยตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ไปตรวจสอบเรื่องอื่นๆ นอกเหนือกว่านั้น”


          0 กังวลกับสิ่งที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ระบุว่าไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีการรัฐประหารอีกหรือไม่ หากมีความวุ่นวายในบ้านเมืองเกิดขึ้นจากขั้วการเมือง
          “สิ่งที่ผมพูดมา ถามว่า พรรคนี้มีส่วนจะสร้างความวุ่นวายหรือไม่ และเข้าเงื่อนไขใดที่ ผบ.ทบ.เตือนหรือไม่ ย้ำว่าพรรคนี้จะอยู่ในกติกา สบายใจในการทำหน้าที่พรรคการเมืองที่พยายามทำให้บ้านเมืองสงบและก้าวหน้า”


          ภูมิใจไทยกับ “การลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน”
          เสนอแนวคิด 5 ด้านในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ประกอบด้วยด้านการศึกษา ด้านการเกษตร ด้านการท่องเที่ยวและบริการ ด้านสาธารณสุข และด้านพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


          แบ่งเป็นแนวคิดย่อย ประกอบด้วย แนวคิดพักหนี้กยศ. 5 ปี ปลดภาระผู้ค้ำประกัน เรียนฟรีตลอดชีวิต, พืชพลังงานทดแทน, เขตพัฒนาพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, ใช้บุรีรัมย์โมเดล ขับเคลื่อนการท่องเที่ยว, ใช้ดิจิทัล นำไทยก้าวให้ทันโลก, เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน และ อสม.หมอประจำครอบครัว


          ภท.กับการเปิดตัวเงียบๆแต่"เปรี้ยง”บนเวทีการเมือง
          บุคคลที่มีชื่อเสียงและอดีตคนการเมืองที่มาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้น เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะชื่อเสียงเรียงนามและแต้มจากสังคมนั้น ไม่ใช่ธรรมดา อาทิ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นโฆษกพรรค, ดร.พะโยม ชินวงศ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ดูแลนโยบายด้านการศึกษา, นายจุลภาส ทอม เครือโสภณ ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจระหว่างประเทศ อดีตกรรมการบริษัท ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ อดีตทีมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บิล คลินตัน เข้ามาดูแลด้านการท่องเที่ยว


          นพ.สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)นครราชสีมา ผู้เชี่ยวชาญระบบสาธารณสุข และศูนย์สุขภาพชุมชน ดูแลนโยบายด้านสาธารณสุข, นายเสริมศักดิ์ การุญ อดีต รมช.แรงงานและสวัสดิการสังคม และอดีต รมช.คลัง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และทีมผู้สมัคร จ.ระยอง, นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต รมช.คมนาคมและ อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคชาติไทยพัฒนา, นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีต รมช.เกษตรและสหกณณ์ และอดีต ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา และทีมผู้สมัครพิจิตร


          นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี ประชาธิปัตย์, นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคชาติไทยพัฒนา, นายสมควร โอบอ้อม อดีตส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ และทีมผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา, นายพลพีร์ สุวรรณฉวี อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน, นายพงษ์พันธุ์ สุนทรชัย อดีต ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย, นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา


          นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์, นายประนอม โพธิ์คำ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน, นายมงคล ศรีกำแหง อดีต ส.ว.จันทบุรี, นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ อดีต ส.ว.ราชบุรี และทีมสมาชิกจากราชบุรี ตาก สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสมุทรสงคราม, นายบรรจบ รุ่งโรจน์ อดีตนายก อบจ.ชลบุรี

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ