Lifestyle

จากราชครูสู่ทหารเสือฯคนเบื้องหลัง "ตู่ดิจิทัล"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลีลานี้ เชื่อว่าคนไทยไม่เคยเห็นอดีตผู้นำไทยที่มาจากรัฐประหารคนไหนทำมาก่อน !


          กับการที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระโดดลงมาเล่นสื่อโซเชียลแบบเต็มตัว เปิดทั้งเว็บไซต์ https://prayutchan-o-cha.com เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา prayut chan-o-cha ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม @Prayutofficial เอาอย่างตามนักการเมืองคนอื่นๆ ที่ทำกันมานานแล้วบ้าง

จากราชครูสู่ทหารเสือฯคนเบื้องหลัง "ตู่ดิจิทัล"

          แต่ถ้าใครจะบอกว่า สมัยก่อนยังไม่มีโซเชียลแบบทุกวันนี้...ก็ได้อยู่ แต่ยังไงเครดิตก็ต้องยกให้เจ้าตัวอยู่ดี เพราะถ้าใจไม่รัก ถึงขนาดยกไม้เซลฟี่เองได้ ทำยังไงก็ไม่ปัง !!


          บอกเลย งานนี้นอกจากเป็นการเปิดหน้าเพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ แบบสื่อสารทางตรง เพราะบิ๊กตู่บอกว่าทั้งหมดอ่านเอง เม้นต์เอง เป็นแอดมินเองแล้ว


          นี่ยังเป็นการปรับลุคจากภาพของนายกฯ ที่ ดุดัน เหวี่ยงวีน มาเป็นนายกฯ ที่เข้าถึงง่าย ทันสมัย ใจดี จนได้รับการเรียกขานว่า “ตู่ดิจิทัล” ไปแล้วด้วย !


          แต่เดี๋ยวก่อน หากถามว่างานนี้ไปยังไงมายังไง จัดเต็มขนาดนี้ ไม่มีกุนซือแนะมา...ก็คงโม้ไปนิด !


          ปรากฏว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คนหล่อๆ ที่คอยตอบคำถามนักข่าว เวลาเข้ามาถามเรื่องงานโซเชียลของบิ๊กตู่ตอนนี้นี่แหละ


          เขาคือ “เสี่ยบี พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เคยเป็นแกนนำ กปปส. แต่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง สดๆ ร้อนๆ ช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมานี่เอง

จากราชครูสู่ทหารเสือฯคนเบื้องหลัง "ตู่ดิจิทัล"


          งานหลักที่ทำ สั้นๆ เลยคืองานพีอาร์ ประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาล อย่างที่ตอนนี้ ก็ประเดิมด้วย “ตู่ดิจิทัล” กับตัวเลขสวยๆ ยอดกดไลค์ในเฟซบุ๊ก 2.6 แสน ยอดกดติดตาม 2.7 แสน


          อย่าได้คิดว่า ตัวเลขนี้เอาเฉพาะกำลังพลในกองทัพ ก็มีกว่า 2-3 แสนนายแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่สงคราม แต่ตัวเลขที่เห็นคือประชาชนตัวจริงเสียงจริงต่างหาก !


          และเช่นเดียวกัน นี่ก็ยังไม่ใช่คูหา ดังนั้นตัวเลขนี้อาจมาจากนิสัยคนไทยที่ชอบเข้ามาดูมาชม เป็นแค่อาการ “ไทยมุง” เท่านั้น ก็เป็นไปได้


          ส่วนว่าจะเป็นอะไร เอาเป็นว่า ถือว่าเริ่มต้นได้ดีสำหรับงานแรกที่พรรคสีเขียวของคนชื่อ “บี พุทธิพงษ์” เลยทีเดียว


          จากราชครูสู่ ปชป.


          “บี พุทธิพงษ์” ก่อนจะขยับเคลื่อนย้ายมาสังกัดเสื้อสีเขียว ในนาม “พรรคพลังประชารัฐ” ในวันนี้ ที่ผ่านมาคนไทยรู้ดีว่าเขาคือหนึ่งใน ส.ส.แถวหน้าของพรรคสีฟ้า


          จริงๆ แล้ว หนุ่มใหญ่จากตระกูล “ปุณณกันต์” นั้น ถือว่าเป็นลูกหลานซอยราชครู เนื่องจากมี 7 ตระกูลดัง อาทิ อดิเรกสาร, ชุณหะวัณ, ทัพพะรังสี, เชี่ยวสกุล, ปุณณกันต์ ฯลฯ อยู่ในซอยแห่งนี้มาก่อน


          คุณปู่ของบี พุทธิพงษ์ คือ พล.อ.พงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม และคุณย่าก็คือ คุณหญิงสะอาด ปุณณกันต์ พี่สาวของ พล.อ.ประมาณ อดิเรกสาร 


          ด้วยเหตุนี้ มรดกการเมืองจึงตกทอดถึงรุ่นหลาน โดยเสี่ยบี เป็นลูกหม้อพรรคประชาธิปัตย์ ลงเลือกตั้งครั้งแรกปี 2544 ก็เจอศึกหนักกับกระแสอัศวินคลื่นลูกที่สาม ทักษิณ ชินวัตร กันเลย

จากราชครูสู่ทหารเสือฯคนเบื้องหลัง "ตู่ดิจิทัล"

ครอบครัวปุณณกันต์

          บีลงเขต 4 กทม. พ่ายให้แก่ “แอ้ กรรณิกา ธรรมเกษร” อดีตพิธีกรทีวี สังกัดพรรคไทยรักไทย หากหนึ่งปีผ่าน กกต.ให้ใบเหลืองเจ๊แอ้ และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ 3 มีนาคม 2545 คราวนี้เสี่ยบี ได้เป็น ส.ส.สมใจ !


          ระหว่างนั้นช่วงปี 2547 ในกระแส “คน ตจว.เลือกนายกฯ คนกทม.ไล่นายกฯ” ปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์ ส่ง อภิรักษ์ โกษะโยธิน ไปคว้าเก้าอี้พ่อเมืองกทม. มาได้เป็นสมัยแรก ทั้งที่รัฐบาลยุคนั้นคือ รัฐบาลไทยรักไทยที่กำลังมาแรง !!


          ครานั้น เสี่ยบี จึงได้ไปช่วยงานเป็นโฆษก กทม. จนต่อมาราวปี 2549 ก็ก้าวไปเป็นถึงรองผู้ว่าฯ กทม. ด้านการศึกษาและพัฒนาสังคม กีฬา การท่องเที่ยว และด้านการพาณิชย์


          อย่างไรก็ดี รอยต่อช่วงปี 2548 น้องชายของบี หรือ “บรู๊ค ดนุพร ปุณณกันต์” เลิกงานบันเทิง หันมาเอาดีงานการเมืองบ้าง หากแต่ไปสังกัดพรรคไทยรักไทย


          ภาพของสองหนุ่ม จึงกลายเป็นเรื่องราวของ “พี่น้องต่างขั้ว” มาจนถึงบัดนี้ แต่คนไทยก็ไม่เคยเห็นสองพี่น้องมีวิวาทะทางการเมืองออกสื่อเลยสักครั้ง ในขณะที่บีเองก็เหมือนว่าจะหันไปเอาดีในสนาม กทม. ด้วยซ้ำ ! 


          ทหารเสือลุงกำนัน


          แต่อะไรไม่แน่นอน ต่อมาช่วงปี 2553 บีกลับมาโลดแล่นบนถนนการเมืองใหญ่ จนได้เป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม และรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


          แถมพอมาถึงการเลือกตั้งปี 2554 บีก็ยังฝ่ากระแสนารีขี่ม้าขาว (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) มาเป็น ส.ส.กทม. เขต 7 (เขตห้วยขวาง) ได้อีก !


          แต่จะเพราะชะตาฟ้าลิขิต หรือก็แค่ไหลไปตามน้ำ ปรากฏว่าช่วงวิกฤติการณ์การเมือง ปี 2556–2557 เสี่ยบีตัดสินใจลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ แล้วเข้าไปเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส. ร่วมกอดคอเป่านกหวีดกันแสบหูไปทั่วบ้านทั่งเมือง

จากราชครูสู่ทหารเสือฯคนเบื้องหลัง "ตู่ดิจิทัล"


          แถมยังมีบทบาทชนิดโลดโผนเสี่ยงตาย จนได้ฉายา “สี่ทหารเสือ” กปปส. รวมกับ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, ชุมพล จุลใส และ สกลธี ภัททิยกุล


          ผลงานเด็ดๆ เช่นมุ่งหน้าไปปิดล้อมสถานที่สำคัญต่างๆ อย่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน้าสโมสรกองทัพบก สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และที่ทำการชั่วคราวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ

จากราชครูสู่ทหารเสือฯคนเบื้องหลัง "ตู่ดิจิทัล"
         

           จนที่สุดต้องตกสภาพเป็น “จำเลย” หลังศาลประทับรับฟ้องคดีกบฏ-ก่อการร้าย ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เอง


          โดยทหารเสือของเราคนนี้ เป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 4 หากแต่ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำ 9 คน โดยตีหลักทรัพย์ค้ำประกันรายละ 6 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ


          จนปรากฏว่า ผ่านมาไม่กี่เดือน คดียังไม่อะไร ยังไง ก็มีข่าวว่า คุณชายบี เบนหัวเรือมานั่งทำงานในทำเนียบเสียแล้ว !


          ตั้งหลักใหม่ที่พรรคลุงตู่


          ช่วงกันยายนที่ผ่านมา ข่าวรายงานตัวโตพร้อมกันว่า เสี่ยบีเข้ารับมอบหมายงานจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดย ครม.แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง


          แน่นอนช่วงแรก เจ้าเก่าอย่าง ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ก็ออกมาคัดค้าน เพราะบียังเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีกบฏ ร่วมกับแกนนำ กปปส.


          แต่ทางหนึ่ง บีก็ออกมาแจงว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยศาลชั้นต้นได้นัดตรวจสอบพยานปีหน้า ไม่มีเรื่องใดที่จะทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะวันนี้ยังถือว่าบริสุทธิ์ จึงไม่มีความกังวล


          แต่ทางที่แน่นอนที่สุด คือ อะไรก็ต้านทานพลังดูดไม่ไหว อย่างที่รู้กันว่าช่วงนั้น คนไทยเห็นอดีต ส.ส.ปชป. ถูกเกี่ยวไปอยู่พรรคสีเขียวเพียบ ไม่เว้นแม้แต่ 3 ใน 4 ทหารเสือ กปปส.


          คือนอกจาก “บี” ก็มี สกลธี ภัททิยกุล (รองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา) และ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้รับเลือกจากมติพรรคให้เป็นรองหัวหน้าพรรคด้วย !!

จากราชครูสู่ทหารเสือฯคนเบื้องหลัง "ตู่ดิจิทัล"


          ดูแล้วบทบาทก็คละเคล้ากันไป หากแต่ “เสี่ยบี” ตอนนี้จะเข้าตากรรมการมากหน่อย ก็อย่างที่บอกว่าประเดิมงานแรก ก็ทำเอาคนไทยครางฮือ...ด้วยยอดไลค์ยอดติดตาม ที่หลายคนก็ยอมรับว่าไม่ได้ “บูสต์โพสต์ หรือ “ซื้อไลค์” อะไรมาเลย


          แถมเสี่ยบียังการันตีเองว่า เพจนี้ของจริง ลุงตู่เป็นหนึ่งในแอดมินเองเสียด้วย ส่วนทีมงานซึ่งก็คือตนกับคนอื่นๆ อีกไม่มาก จะช่วยกันดูเรื่องทางเทคนิคอื่นๆ มีบ้างที่คอยสอดส่องคอมเมนต์เกรียนจนเกินรับ และไม่นำไปสู่การสร้างสรรค์ และลบออกบ้าง


          ทั้งนี้ แต่ละวัน ลุงตู่จะมาให้แนวทางว่า วันนี้อยากจะสื่อสารกับคนไทยเรื่องใด ทีมงานจะทำกราฟฟิกรอไว้ให้ จากนั้นบิ๊กตู่ก็จะตรวจสอบก่อนที่จะปล่อยออกสื่อ


          เรื่องของเรื่องมันก็เป็นมาฉะนี้...


          ก็ไม่รู้ว่างานนี้ “กุนซือบี” คิดไกลถึงขั้นว่า ถ้าคนไทยปิดทีวีหนีทุกเย็นวันศุกร์ งั้นไปเจอกันที่หน้าจอมือถือแทน หรือเปล่า


          แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ทุกพื้นที่ของลุงตู่ กำลังเป็น “สนามประลองคีย์บอร์ดแห่งใหม่" ที่คนรักคนชังรุมคอมเมนต์ ปล่อยมีม ยิงมุกกันสนุก ไปกดติดตามกันดูได้เลย !!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ