จับยัด "ไห"เพลงนี้ไม่เพราะ

 

          ยกสอง “ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์” นายห้างใหญ่ไหทองคำ เปิดยุทธการวังน้ำเย็น เชิญตัวนักร้องสาวไปโรงพัก โดยมอบหมายทีมทนายความดำเนินคดีกับอาม ชุติมา ฐานละเมิด “ลิขสิทธิ์นักแสดง” ไม่ใช่ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงตามที่สื่อออนไลน์เล่นข่าววันแรกๆ เนื่องจากสาวบึงกาฬ ยังมีพันธสัญญากับทางค่ายอีก 2 ปี 7 เดือน

 

          จะมียกสามหรือไม่ ? อยู่ที่ผลการเจรจาระหว่าง “ตุ๊ด นาฬิกา” ผู้จัดการส่วนตัวของลำไย ไหทองคำ, พรพล ฉิมทวี เจ้าของค่ายเพลง นายพล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ผู้ใหญ่ฝ่ายอาม ชุติมา และประจักษ์ชัย ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 22 ตุลาคมนี้

 

          สัญญาก็คือสัญญา
          รอยร้าวระหว่าง “อาม ชุติมา” กับนายห้างไห ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ เริ่มปะทุขึ้นมาแต่เดือนเมษายน 2561 จนกระทั่งปลายเดือนพฤษภาคม อามจึงโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กทวงสัญญาโน่นนี่นั่น

 

          “อาม” หรือ “ชุติมา โสดาภักดิ์” ทดลองแต่งเพลง “อดีต-เคย-พัง” และร้องใส่กีตาร์กับเพื่อนๆ ไลฟ์ลงเฟซบุ๊ก มียอดผู้ชมหลักแสน ทีมส่องของประจักษ์ชัย จึงติดต่อ และส่งเงินเป็นค่าเดินทางให้เธอกับแม่ เดินทางเข้ามาเซ็นสัญญากับประจักษ์ชัย โดยเวลานั้น ยังไม่มีการตั้งบริษัทไหทองคำ

 

          การสัญญาในวันนั้น เป็นเรื่องระหว่างอามกับประจักษ์ชัย ซึ่งนักร้องทุกคน แม้แต่นักร้องประกวดก็ยังมีการทำสัญญากับผู้พาเดินทางไปประกวดร้องเพลง

          เวลานั้น ประจักษ์ชัย กำลังกอบโกยเงินทองจาก “ลำไย ไหทองคำ” ที่ดังจากการเต้นท่ายาก “เด้า 9 ชั้น” มีงานโชว์ทุกคืน ส่วนอาม ชุติมา ยังไม่ดัง ประจักษ์ชัยก็ให้ไปร้องคั่นเวลารอลำไยเปลี่ยนชุด อามจะได้โชว์ละ 5,000 บาท

          นอกจากนั้น ประจักษ์ชัยยังขายแพ็กคู่ เพื่อให้อามได้มีรายได้ช่วงแรกๆ “...เขาเป็นนักร้องเพื่อรอให้ลำไยไปเปลี่ยนชุด และร้องแทรกเพื่อให้มีโปรไฟล์คู่ลำไย ซึ่งมีกระแสมาก่อน นั่นเป็นการตลาด ตอนนั้นมันยังเรียกราคาไม่ได้”

          อยู่มาวันหนึ่ง อามเขียนเพลงผู้สาวขาเลาะ ให้ลำไยร้อง เป็นแนวเพลงอินดี้อีสาน ประจักษ์ชัยจึงปล่อยเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” กับเพลง “อดีต-เคย-พัง” ของอาม ออกไปคู่กัน

          ปรากฏว่า “ลำไย-อาม” กลายเป็นจุดขายของค่ายไหทองคำ และเพลง “อดีต-เคย-พัง” ก็พลอยดังตามกระแสเพลงแนวอินดี้ลูกทุ่งอีสาน 

          ด้านงานโชว์ ประจักษ์ชัยมี “ลำไย-อาม” เป็นตัวหลัก พ่วงด้วยนักร้องชายหญิงอีกนับสิบ พร้อมกับดนตรีอีก 4 ทีม และแดนเซอร์หลายชุด วันหนึ่งๆ ทีมไหทองคำมีงานการแสดงไม่ต่ำกว่า 6-7 งาน โดยอัตราค่าจ้างเฉลี่ย 6-7 หมื่นบาทต่อหนึ่งโชว์

          ขณะที่สองสาวโด่งดัง อาม ชุติมา ก็เห็นความแตกต่างในแง่รายได้ และผลตอบแทน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแหกค่ายไหทองคำ เพื่อสร้างอนาคตใหม่

          หนีไห..ซบนายพล
          25 พฤษภาคม 2561 “อาม ชุติมา” แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวสรุปได้สั้นๆ ว่า เพลงที่เธอแต่งและมีการเผยแพร่ทางยูทูบ ประกอบด้วย “ผู้สาวขาเลาะ“ 340 ล้านวิว, ”อดีต-เคย-พัง“ 151 ล้านวิว, ”บ่ขวางทางอ้าย“ 70 ล้านวิว และ ”ไปต่อหรือพอส่ำนี้” 81 ล้านวิว รวมแล้วเกือบ 600 ล้านวิว เธอไม่ได้เงินส่วนแบ่งแม้แต่บาทเดียว ทั้งที่เคยสัญญาว่าจะแบ่งกัน 70-30

          หลังจากนั้น บรรดาเอฟซีของเธอ ก็รุมถล่มประจักษ์ชัย จนนายห้างไหตั้งตัวไม่ติด เพราะที่ผ่านมา เวลาเกิดความขัดแย้งเรื่องสัญญาและผลประโยชน์ ระหว่างค่ายเพลงกับนักร้อง คนส่วนใหญ่มักจะเทใจเชียร์นักร้องอยู่แล้ว

          ประจักษ์ชัย พยายามนำสัญญาที่สองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันออกมาให้สังคมพิจารณา แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังด่าทอนายห้างไหทองคำเหมือนเดิมว่า เอารัดเอาเปรียบนักร้อง

          “ก่อนมาเป็นอาม ชุติมา ตอนแรกค่าตัวเท่าไรก็ไป เพราะตอนแรกน้องไม่มีกระแส ไม่ได้ตั้งว่ามาวันแรกต้องค่าตัว 3-5 หมื่น การแบ่งเปอร์เซ็นต์ บางทีเป็นงานช่วย บางทีเป็นงานขาดทุน ผมก็ควักให้ลูกน้องแบบครอบครัว ตอนคุณยังไม่ดังผมลงทุน ผมไปจ่ายเอง เป็นต้นทุนครับ” นายห้างไหทองคำแจงสี่เบี้ย

          อาม ชุติมา บอกว่า สัญญาที่ทำกันไว้ เธอและมารดาไม่ได้อ่าน เพราะมาจากบ้านนอก ไม่รู้ข้อกฎหมาย กรณีทำนองนี้ เคยเกิดกับนายห้างค่ายเพลงหนึ่งกับพระเอกลิเกมาแล้ว

          สำหรับสัญญาฉบับที่อาม ชุติมา เซ็นไว้เมื่อสองปีก่อน ประจักษ์ชัยยืนยันว่า “อ่านด้วยกันครับ จะมาบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้อ่าน ด้วยสำนึกของคน อยู่ 2 ปี มีสัญญาคู่ฉบับนะครับ วันดีคืนดีบอกว่าไม่ได้อ่าน แล้วอ่านเฉพาะที่ตัวเองเสียเปรียบแล้วมาแย้งไม่ได้ สังคมไทยจะบอกว่าไม่รู้กฎหมายแล้วมาแย้งไม่ได้”

          แม้ประจักษ์ชัย จะได้แต้มต่อตรงที่มีเอกสารสัญญา แต่อาม ชุติมา ก็อาศัยเอฟซีอามเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ใช้สื่อโซเชียลปกป้องตัวเอง จนฝ่ายประจักษ์ชัยต้องถอยหลบกระแสไปก่อน

          5 มิถุนายน 2561 อาม ชุติมา และครอบครัวเดินทางไปพบกับ “พรพล ฉิมทวี” เจ้าของค่ายนายพล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากพบเจ้าของค่ายนายพลฯ อามโพสต์ข้อความบรรยายใต้ภาพที่ถ่ายคู่เสี่ยพรพลว่า “ขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดี สำหรับคำแนะนำและการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ทุกท่าน”

          พรพล ฉิมทวี มาจากกลุ่มนายทุนธุรกิจตู้เพลงคาราโอเกะ ผ่านการต่อสู้กับการจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงมาโชกโชน ตอนหลังเสี่ยพรพลเปิดค่ายเพลงนายพลฯ สร้างนักร้องอยู่หลายคน 

          เหนืออื่นใด ค่ายนายพลฯ มีทีมงานจัดเก็บลิขสิทธิ์ รับจ้างจัดเก็บลิขสิทธิ์ให้ค่ายเพลงต่างๆ ในยุทธจักรนักจัดเก็บลิขสิทธิ์ ค่ายนายพลฯ ถือว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้ทีมใด

          หลังจากได้กองหนุนชื่อ “เสี่ยพรพล” นักร้องสาว อาม ชุติมา ก็เหมือนได้เกิดใหม่ เดินหน้ารับงานร้องเพลงเต็มที่ โดยผู้ใหญ่รับปากเธอว่า จะช่วยเคลียร์เรื่องสัญญาที่เซ็นไว้กับค่ายไหทองคำด้วย

          ยุทธการวังน้ำเย็น
          กลางดึกวันที่ 15 ตุลาคม 2561 หลังจบงานฟรีคอนเสิร์ตในลานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น และวิศาล สมจุ้ย ทนายความซึ่งเป็นตัวแทนได้รับมอบอำนาจจากประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ เข้าควบคุมตัว ชุติมา โสดาภักดิ์ หรือ อาม ชุติมา ไปสอบสวนที่ สภ.วังน้ำเย็น

          ทนายคนดังกล่าวได้เข้าพบ ร.ต.อ.พิทักษ์ ชนะเกตุ ร้องทุกข์กล่าวโทษชุติมา โสดาภักดิ์ ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ของนักแสดง โดยไปแสดงเสียง แพร่ภาพหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซึ่งบันทึกการแสดง ที่ยังไม่มีการบันทึกไว้ ทำซ้ำซึ่งบันทึกการแสดง ที่มีผู้บันทึกไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ เนื่องจากยังมีสัญญาเป็นศิลปินค่ายไหทองคำ 

          ทั้งนี้ ทางค่ายไหทองคำ ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนถึง 3 ครั้ง แต่ไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด ขณะที่ อาม ชุติมา ยังรับงานแสดงคอนเสิร์ตด้วยตนเอง ทำให้ค่ายได้รับความเสียหาย

          ว่ากันว่า คืนนั้นมีผู้ใหญ่คนหนึ่งไปที่ สภ.วังน้ำเย็น เจรจากับทนายความ จึงได้มีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน และนัดหมายเจรจากันใหม่อีกครัั้ง

          นกน้อยในกำมือใคร ?
          เอ่ยชื่อ “ตุ๊ด นาฬิกา” หรือ ธนัสสรณ์ ภูตินันท์ วงการบันเทิงย่อมรู้จักดี เพราะเป็นนักปั้นนายแบบ-นางแบบชื่อดัง เขาเริ่มต้นทำงานโฆษณาให้แก่บริษัท CBS Advertising เคยทำนิตยสาร แต่วันนี้ “ตุ๊ด นาฬิกา” คือผู้จัดการส่วนตัวของลำไย ไหทองคำ และอดีตผู้จัดการส่วนตัวของอาม ชุติมา

          ตุ๊ด นาฬิกา ได้อาสาเข้ามาเป็นกลาง ประสานการเจรจาหาข้อยุติความขัดแย้งเรื่องสัญญา

          17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตุ๊ด นาฬิกา ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ผู้ใหญ่สามคนได้แก่ เสี่ยพรพล ค่ายนายพลฯ, ประจักษ์ชัย และตัวเขา ได้เจรจาหาข้อตกลงในทิศทางที่ดีที่สุดของทั้งสองฝ่าย และในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ จะได้ชี้แจงพร้อมกันกับอาม ชุติมา อย่างเป็นทางการ

          ถัดมา 19 ตุลาคม ตุ๊ด นาฬิกา ได้โพสต์ความเห็นอีกว่า “วันนี้...นายห้างฯ&อาม...มีความคิดต่างกัน ! ผมคิดว่าจะเป็นคนกลางที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น !!แต่คิดอีกทีดูแล้ว...ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล...เดี๋ยวพี่ตุ๊ด ถอยออกมาหน่อยนึงก่อนเนาะ...ถ้าเค้าเรียกอีกทีค่อยเข้าไปเนาะ...”

          ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ? ตุ๊ด นาฬิกา จึงถอยออกมา ขณะที่เอฟซีอาม ยังให้กำลังใจผ่านเฟซบุ๊กของเธอมากมาย รวมถึงเอฟซีอามยังตามไปถล่มนายห้างไห ไม่เลิกรา

          ด้าน ประจักษ์ชัย ไหทองคำ หลังจากให้สัมภาษณ์กรณีเรียกเงิน 2 ล้านบาท แลกกับการซื้อสัญญาคืนไป ก็โพสต์เฟซบุ๊กมีข้อความสั้นๆ ว่า “จ๊วดดดดดดด#เร็วๆนี้ ชุติไปไหทองคำ”

          สงครามไห...ยังไม่จบ เพราะไม่ใช่เรื่องการต่อสู้ด้านกฎหมายลิขสิทธิ์อย่างเดียว หากยังมีเรื่องการจัดสรรปันส่วน “ผลประโยชน์” ในความดังของนักร้องสาวคนนี้ด้วย