"ประยุทธ์" ฉายแวว "นักการเมือง" เต็มขั้น!!!

 

          ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การสื่อสารของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แบบเป็นเรื่องเป็นราวนับตั้งแต่หนึ่งใน “แกนนำกปปส.” อย่าง “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” เข้ามารับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ที่เป็นต้นไอเดีย เปิดช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย

 

          การที่ “ประยุทธ์” ยินยอมให้ใช้ชื่อตัวเองเป็นบัญชีผู้ใช้งานอย่างเป็นทางการบนสื่อออนไลน์ (เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์) นั้น เหตุผลที่ผู้เกี่ยวข้องอธิบายคือเพื่อต้องการสื่อสารกับประชาชนอย่างใกล้ชิด รับฟังความเห็น รับรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อนประชาชนในรูปแบบสองทาง หากลุงตู่ว่างก็สามารถตอบโต้กันได้

          เรียกว่า “ประยุทธ์” กำลังปรับภาพลักษณ์กันขนานใหญ่ จากนายทหารมาดเข้มมาเป็นลุงตู่คนใจดี เข้าถึงง่าย ดูได้จากเวลาลงพื้นที่แต่ละครั้ง แม้เจ้าตัวจะประกาศอยู่เสมอว่าไม่ได้มาหาเสียงเเต่มาฟังความเห็นคนไทยทั้งหมด

          การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสื่อสารนำเสนออะไรก็ตามไม่ใช่เรื่องแปลก ผู้นำโลกหลายชาติในวันนี้ก็ใช้กันทั้งนั้น แต่กรณี “ลุงตู่” จะเปลี่ยนไปอยู่บ้างตรงที่ว่าตลอดการดำรงตำแหน่งเป็น “นายกฯ” ในช่วงแรก ลุงตู่แทบไม่ให้ความสำคัญกับส่วนนี้เลย จนมาในระยะหลังเมื่อเหล็กร้อนก็ต้องใช้วิธีอื่นๆ ทุบเหล็กบ้าง มิเช่นนั้นจะขึ้นโครงได้ตามต้องการได้เช่นใด?

          และแว่วว่า “ประยุทธ์” จะโชว์เฟซบุ๊กไลฟ์อีกด้วย

          จะว่าไป “ประยุทธ์” เหมือนกำลังเรียนรู้การเป็นนักการเมืองมาระยะหนึ่งแล้ว การอยู่ในตำแหน่ง “นายกฯ” มา 4 ปีเศษเมื่อมีขุนพลที่เชี่ยวทางการเมืองเเนะนำถ่ายทอดเคล็ดวิชาเพื่อหวังบรรลุผล เเม้จะเลี่ยงข้อครหาไม่ได้ว่าการเอาจริงเอาจังกับการสื่อสารผ่านโซเชียลก็เพราะต้องการหาเสียง หรืออีกมุมหนึ่ง “ประยุทธ์และทีมงาน” อาจเห็นโอกาสที่จะส่งสารโดยตรงผ่านโซเชียลมีเดียถึงกลุ่มเป้าหมายดีกว่าที่ผ่านมา
โดยเฉพาะกลุ่มของวัยรุ่นที่เพิ่งมีโอกาสเลือกตั้งครั้งแรกประมาณ 6-7 ล้านคน!!! เพราะยังมีความเป็นไปได้อย่างมากที่คนกลุ่มนี้อาจจะยังไม่มีพรรคในใจที่ใช่ หรือคนที่ชอบมาก่อน อีกทั้งตลอด 4 ปีเศษที่ผ่านมา ในหน้าข่าวสารคนไทยจำข่าวของลุงตู่ได้ดีก็อาจจะเป็นไปได้ที่คนกลุ่มนี้อาจจะมีความนิยมในตัว “ประยุทธ์” โดยปริยาย

          การเป็นนักการเมืองเต็มขั้นของ “ประยุทธ์” จะขาดไม่ได้เลยคือการเดินตลาดแบบไม่ต้องจัดฉาก เชื่อเถอะว่าวิธีนี้สามารถบอกถึงความนิยมในตัวเองได้เป็นอย่างดี แถมยังได้รับรู้ความคิดเห็นของประชาชนอย่างถึงแก่น โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ตรงนี้หลายคนอยากเห็นมากว่า “ประยุทธ์” จะได้รับดอกไม้หรือก้อนอิฐ เเละลุงตู่จะได้รู้เรื่องรวมทั้งสั่งการแก้ไขทันควัน

          เมื่อ “ฤดูกาลเลือกตั้ง” มาถึง พรรคไหนจะชู “ประยุทธ์” เป็น “นายกฯ” ด้วยการเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 อยู่ในบัญชีพรรค และเมื่อฟังคำให้สัมภาษณ์ของ “ประยุทธ์” วันก่อน ถือว่ามีนัยสำคัญ เมื่อถูกถามถึงการเข้าสู่การการเมือง จะเข้ามาช่องทางใด และมีโอกาสเป็นนายกฯ หรือไม่ คำตอบของลุงตู่คือ

          “แม้จะสนใจการเมือง แต่ยังไม่ตัดสินใจจะไปร่วมกับพรรคใด ถ้าอยากให้ไปก็มาเชิญเอง แต่หากเชิญมาหลายพรรคก็ต้องตัดสินใจ”

 

          งานนี้คงพอเห็นวี่แววแล้วว่าหาก “ประยุทธ์” จะกระโดดลงสู่สนามการเมืองเเละยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็น “นายกฯ” ก็ต้องทำด้วยความสง่างาม เเละตามกติกา

          ว่าแต่ว่า พรรคการเมืองไหนจะชู "ใคร”? ก็ต้องรอกันสักนิดเร็วๆ นี้ คงเห็นโฉมกันเเล้ว....