ขุนศึก พปชร. "ธรรมนัส พรหมเผ่า"ปักธง "ยึดพะเยา"!

 

          เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ตัดสินใจทิ้งพรรคเพื่อไทย มากุมบังเหียนให้พรรคพลังประชารัฐ ให้ผงาดเต็มพรืดทั้งภาคเหนือ ทำให้สปอตไลท์การเมืองหันมาจับจอง “ผู้กองนัส” ทุกฝีก้าว

          สำหรับคนพะเยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีบทบาทด้านสังคมและกีฬามานานแล้ว ในนามประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศล, นายกสมาคมชาวพะเยา นายกสมาคมกีฬาพะเยา และประธานสโมสรฟุตบอลพะเยาเอฟซี

 

 

          “ผู้กองนัส” เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 และจบนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 36 รุ่นเดียวกันกับ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และ พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ เขาเป็นที่รักของนักเรียนเตรียมทหารและนักเรียนนายร้อยฯ เพราะความเป็นคนใจกว้าง ใจนักเลง ช่วยเหลือพรรคพวกเพื่อนฝูงได้ทุกเมื่อ 

          ขณะเดียวกัน “ผู้กองนัส” ได้กลับบ้านเกิด-เมืองพะเยา สร้างมูลนิธิการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสอย่างต่อเนื่องและยาวนานโดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่า “ผู้กองนัส” โดดเด่นด้วยชูการสลายสี สลายความขัดแย้ง ซึ่งโดนใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ

 

          คนทั่วไป อาจมองว่า “ผู้กองนัส” เป็นผู้มากอิทธิพล แต่คนเมืองกว๊านถือว่า เขาเป็นพ่อพระของคนพะเยา โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือเจือจานคนจน คนด้อยโอกาส เข้าถึงง่าย ปฏิเสธชาวบ้านไม่เป็น จึงเป็นที่รักของกลุ่ม อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มข้าราชการ

          ฐานมวลชนสำคัญของ “ผู้กองนัส” คือ อ.เมืองพะเยา ที่มี “จุฬาสินี โรจนคุณกำจร” นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา คนใกล้ตัวกุมบังเหียนอยู่

 

          ส่วนองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา ร.อ.ธรรมนัส ได้ช่วย “เสี่ยอิ๊ด” วรวิทย์ บุรณศิริ คนในชายคาจันทร์ส่องหล้า จนได้รับชัยชนะ และส่งน้องชาย “อัครา พรหมเผ่า” ขึ้นเป็นรองนายก อบจ.พะเยา

          การเลือกตั้งนายก อบจ.พะเยา ปี 2554 เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ในการเมืองท้องถิ่น เมื่อไพรัตน์ ตันบรรจง พ่ายแพ้ หลังผูกขาดตำแหน่งนายก อบจ.มาหลายสมัย

 

          นับแต่นั้นมา “ผู้กองนัส” ได้เริ่มวางแผนเล่นการเมืองเต็มตัว และสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก่อนจะเปลี่ยนความคิดย้ายพรรค หันมาชูธงปรองดอง สลายสีเสื้อ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

          พลันที่ “ผู้กองนัส” ประกาศเป็นขุนศึกพลังประชารัฐ เสี่ยอิ๊ด ในฐานะนายก อบจ.พะเยา ก็ได้ลงนามปลดน้องชาย-อัครา ออกจากตำแหน่ง เมื่อ 6 กันยายน 2561

          ปฏิกิริยาหลังน้องชายถูกปลด “ผู้กองนัส” โพสต์ความในใจผ่านเพจ “ธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อประชาชน” ว่า “อัคราและทีมงานก็ยังยืนในเจตนารมณ์เดิมคือเดินหน้า ช่วยเหลือพี่น้องชาวพะเยาและมุ่งพัฒนาพะเยา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนคนพะเยา ส่วนอนาคตทางการเมืองข้างหน้าขึ้นอยู่กับแรงสนับสนุนจากพี่น้องชาวพะเยาต่อไป”

          ฉะนั้น ฤดูกาลเลือกตั้ง 2562 สนามเมืองพะเยาจะมีสีสันมากขึ้น ไม่ได้ผูกขาดอยู่กับพรรคเครือข่ายตระกูลชินวัตร เพราะ “ผู้กองนัส” ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ไว้เรียบร้อยแล้ว

          เขต 1 (อ.เมือง และ อ.แม่ใจ) “อัครา พรหมเผ่า” น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งเพิ่งถูกปลดจากการเป็นรองนายก อบจ.พะเยา แต่เกิดปรากฏการณ์มวลชนตีกลับ ชาวบ้านรวมตัวกันมอบช่อดอกไม้ล้นตลาด พร้อมเรียกร้องให้ลง ส.ส. เรียกว่าเป็นการตบหน้าใครบางคนฉาดใหญ่

 

          คู่แข่งในเขตนี้คือ อรุณี ชำนาญยา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่มีลีลาปราศรัยสไตล์หญิงห้าว ปากไวใจเต็มร้อย

          เขต 2 (อ.เชียงคำ อ.ภูซาง และอ.จุน) พลังประชารัฐส่งอดีตนักปกครองที่รู้และเข้าใจธรรมชาติของทั้งฝ่ายการเมืองและมวลชน อย่าง “เลือดไทย วงศ์ใหญ่” แถมพะยี่ห้อ “ผู้กองนัส” ก็ไม่ธรรมดาแน่

          ส่วนแชมป์เก่า “เสี่ยมี่” วิสุทธิ์ ไชยณรุณ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ชื่อว่ามีชั้นเชิงทั้งบู๊และบุ๋น เหลี่ยมคูทางการเมืองถือว่าไม่เป็นสองรองใคร

          เขต 3 (อ.ดอกคำใต้ อ.ภูกามยาว อ.ปง และ อ.เชียงม่วน) “เสี่ยยุ้ย” จิรเดช ศรีวิราช นายกเทศมนตรีเมืองดอกคำใต้ เป็นน้องรักของ “ผู้กองนัส” เสี่ยยุ้ยเป็นคนเข้าถึงง่าย ใจถึง ทำงานไว น้ำท่วม ไฟไหม้ ลงพื้นที่ด้วยตนเองตลอด

          ด้าน ไพโรจน์ ตันบรรจง อดีต ส.ส.เพื่อไทย และตระกูลการเมืองเก่าแก่ของพะเยา ยังได้แต้มต่อแต่พูดถึงการเข้าถึงและพบปะชาวบ้านเข้าขั้นติดลบ

          เวลานี้ มีเพียง 2 พรรคที่ประกาศตัวชัดเจนว่าจะส่งผู้สมัครเข้าร่วมชิงเก้าอี้ ส.ส.พะเยา คือ พรรคเพื่อไทยแชมป์เก่า กับพรรคพลังประชารัฐ พรรคใหม่หัวใจสีเขียว ในทางการเมืองอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ อาจจะมีการล้มกระดานหรือล้มยักษ์ลงอย่างราบคาบ

          การส่งสัญญาณจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.พะเยา ปลายเดือนตุลาคมนี้ ย่อมบ่งบอกอะไรบางอย่างที่เคยอึมครึมให้สว่างกระจ่างแจ้งเสียที