คอลัมนิสต์

ใช่ว่าใครก็เป็นได้!! เช็กคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกร็ดเลือกตั้ง : คุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง

 

                เรื่องการเป็นสมาชิกพรรคน่าสนใจขึ้นมาเมื่อมีข่าวว่า “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. และ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” เป็นสมาชิกพรรคไม่ได้ เพราะขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัครส.ส. ซึ่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมืองเขียนโยงกันไว้

                “จตุพร” เพิ่งพ้นโทษจำคุกคดีหมิ่นประมาท “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกฯ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา เขาจึงสมัคร ส.ส.ไม่ได้ 10 ปี ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 98(7) คือเคยรับโทษจำคุกและพ้นโทษมายังไม่ถึง 10 ปี เขาจึงเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ได้ 10 ปีเช่นกัน

                ส่วน “ยงยุทธ” หนักกว่า เขาเคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินว่าทุจริตเลือกตั้งโดนตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และคดีของเขานำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชน

                ทำให้ “ยงยุทธ” จะไม่สามารถสมัครส.ส.ได้ตลอดชีวิต ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 98(11) คือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง นั่นหมายถึงเขาจะไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกพรรคตลอดชีวิตด้วย ยกเว้นมีการแก้รัฐธรรมนูญประเด็นนี้

 

ใช่ว่าใครก็เป็นได้!! เช็กคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง

(อ่านต่อ...อ่วม!! "ตู่" 10 ปี "ยงยุทธ" ตลอดชีวิต สมัคร ส.ส.ไม่ได้!!)

 

                แล้วคนที่จะเป็นสมาชิกพรรคจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะช่วงนี้แทบทุกพรรคกำลังรณรงค์หาสมาชิกพรรคกันอยู่ เราจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ไหม?

                คุณสมบัติของสมาชิกพรรคการเมืองนั้นถูกเขียนผูกกันไว้ในกฎหมาย 2 ฉบับ คือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หรือเรียกง่ายๆ ว่า “กฎหมายพรรคการเมือง” และรัฐธรรมนูญ

 

ใช่ว่าใครก็เป็นได้!! เช็กคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง

(รัฐธรรมนูญ 2560)

 

ใช่ว่าใครก็เป็นได้!! เช็กคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง

(พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง)

 

ใช่ว่าใครก็เป็นได้!! เช็กคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง

(พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง)

 

ใช่ว่าใครก็เป็นได้!! เช็กคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง

(รัฐธรรมนูญ 2550)

 

                สรุปง่ายๆ ถ้าเป็นประชาชนคนธรรมดาทั่วไป คุณสมบัติก็จะมีดังนี้

                1.สัญชาติไทยโดยการเกิด กรณีแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติมาไม่น้อยกว่า 5 ปี

                2.อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี

                3.ไม่เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช

 

                4.ไม่วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

                5.ไม่ติดยาเสพติดให้โทษ

                6.ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นหรือยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองอื่น หรือแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองอื่น

                แต่ถ้าเป็นนักการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่างๆ ผู้ที่เคยถูกศาลพิพากษาว่าผิดในคดีต่างๆ เคยถูกศาลตัดสินจำคุก ก็จะมีรายละเอียดเงื่อนไขเป็น “ข้อต้องห้าม” ที่มากขึ้นไปอีก เช่น

                1.เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดยังไม่เกิน 2 ปี

                2.เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

                3.อยู่ระหว่างห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

                4.ไม่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

                5.เคยได้รับโทษจำคุก โดยพ้นโทษมาไม่ถึง 10 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง

                6.เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ

                7.เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป้องกันและปราบปราบการทุจริต

                8.เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการทุจริตในการเลือกตั้ง

                ฯลฯ

                ผู้ที่เข้าเงื่อนไขข้อห้าม 4 ข้อหลัง คือ จตุพร ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และ ยงยุทธ ติยะไพรัช ตามลำดับ

 

==================

โดย @jin_nation

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ