คอลัมนิสต์

  "พลังประชารัฐ"  ไม่ใช่สามัคคีธรรม ?

"พลังประชารัฐ" ไม่ใช่สามัคคีธรรม ?

29 ก.ย. 2561

เวลาที่พูดถึง "พรรคทหาร" ก็มักยกตัวอย่าง "พรรคสามัคคีธรรม" แต่ความต่างของพรรคสามัคคีธรรม กับพรรคพลังประชารัฐ มีหลายจุดหลายด้านอยู่!!

         เหมือนฟ้าจะเปลี่ยน หนาวจะมา ฝนจะไป บรรยากาศตามหมู่บ้านต่างๆ คล้ายผู้ใหญ่บ้านประกาศว่า ต้นปีหน้าจะมี “งานบุญใหญ่"

         แม้จะอยู่ในช่วงเข้าพรรษา ไม่มีงานบวช แต่ก็มีงานศพ จึงเห็นหน้า “อดีต ส.ส.” ไปร่วมงานศพมากขึ้น       

          สุดสัปดาห์นี้ ความเคลื่อนไหวของ “พรรคพลังประชารัฐ” จะถูกโฟกัสจากสื่อทุกสำนัก ในฐานะพรรคการเมืองใหม่ ที่จัดตั้งขึ้นมารองรับ “กระบวนการสานต่อยุทธศาสตร์ชาติ” อันเป็นผลงานโบแดงของ คสช.

ถอดบทเรียน 

สามัคคีธรรม”

          เวลาที่พูดถึง “พรรคทหาร” ก็มักยกตัวอย่าง “พรรคสามัคคีธรรม” ที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นพรรคการเมือง เมื่อ 24 มกราคม 2535 โดยมี “ณรงค์ วงศ์วรรณ” ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค

          “น.ต.ฐิติ นาครทรรพ” คนสนิท พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นเลขาธิการพรรค

\"พลังประชารัฐ\"  ไม่ใช่สามัคคีธรรม ?

          คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) วางแผนการเข้าสู่อำนาจผ่านระบบรัฐสภา โดย “บิ๊กเต้” พล.อ.อ.เกษตร สมาชิก รสช.สายทหารอากาศ มอบหมายให้ “น.ต.ฐิติ นาครทรรพ เป็นผู้ประสานงานรวบรวมเอาอดีต ส.ส.หลายกลุ่มมารวมกัน 

          ผู้เล่นหลักจะมาจากพรรครวมไทย ของพ่อเลี้ยงณรงค์ อดีต ส.ส.แพร่ สมทบด้วยพรรคปวงชนชาวไทย ของ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก

          ส่วนพรรคชาติไทย สมาชิกพรรคได้เลือก พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์” เป็นหัวหน้าพรรค ที่มีความสนิทสนมกับ พล.อ.อ.เกษตร เพื่อเชื่อมประสานระหว่างพรรคชาติไทย กับ รสช. 

\"พลังประชารัฐ\"  ไม่ใช่สามัคคีธรรม ?

ณรงค์ วงศ์วรรณ

          ด้านพรรคกิจสังคม มนตรี พงษ์พานิช เลือก “พล.ท.เขษม ไกรสรรณ์ ซึ่งเป็นนายทหารรุ่นเดียวกับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ลดแรงเสียดทานจาก รสช.

          อันที่จริง ฝ่ายผู้กุมอำนาจสมัยโน้น ออกแบบรัฐบาลผสม 3 พรรคไว้ล่วงหน้าแล้ว คือ สามัคคีธรรม, ชาติไทย และกิจสังคม โดยวางตัว ณรงค์ วงศ์วรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี 

          ทุกอย่างเป็นไปตามเกมอำนาจ แต่เกิดอุบัติเหตุการเมือง “พ่อเลี้ยงณรงค์” เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ฝ่าย รสช.ก็เสียงแตก ปีกหนึ่งหนุนบิ๊กเต้ อีกปีกหนึ่งหนุน “บิ๊กสุ” พล.อ.สุจินดา คราประยูร และสุดท้าย “สุจินดา” ยอมนั่งเก้าอี้นายกฯ

          คณะทหาร รสช.จบไม่สวย แต่ “นักเลือกตั้งยังเดินลอยหน้าลอยตาไปตามวิถีคนการเมือง

         

การกลับมาของ

ดรีมทีม สมคิด” 

 

          ความต่างของพรรคสามัคคีธรรม กับพรรคพลังประชารัฐ มีหลายจุดหลายด้าน และที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ จุดเริ่มในการตั้งพรรคการเมืองนั้นมาจากกลุ่มเพื่อนสมคิด หรือ “ดรีมทีมสมคิด” ไม่ใช่นักเลือกตั้ง

          เมื่อ 17 ปีที่แล้ว สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนผู้ร่วมบุกเบิกก่อตั้งพรรคไทยรักไทย รวมถึงลงมือทำคลอดนโยบายประชานิยม ซึ่งกลายเป็นจุดขายของพรรคไทยรักไทย และ “ลัทธิประชานิยม” ได้ฝังใจชาวบ้านมาจนทุกวันนี้ 

          ช่วงรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ภาพมือเศรษฐกิจรัฐบาลทักษิณของ “สมคิด” ฉายชัด และกลายเป็น “แบรนด์สมคิด” 

          29 กันยายนนี้ “ดรีมทีมสมคิด” ประกอบด้วย อุตตม สาวนายน” รมว.อุตสาหกรรม, “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์, “สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี จะปรากฏตัวต่อหน้าสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในที่ประชุมใหญ่ ณ เมืองทองธานี

\"พลังประชารัฐ\"  ไม่ใช่สามัคคีธรรม ?

อุตตม สาวนายน

          “อุตตม-สุวิทย์” เป็นทีมเดิมที่อยู่กับสมคิด มาแต่รัฐบาลไทยรักไทย “สนธิรัตน์” เข้ามาก่อร่างสร้างมูลนิธิสัมมาชีพ เมื่อปี 2552 อันเกิดจากต้นธารความคิดของสมคิดกับ นพ.ประเวศ วะสี

          ที่เป็นคนหน้าใหม่ในทีมสมคิดคือ กอบศักดิ์ ภูตระกูล” นักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ เจ้าของรางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์ ปี 2552

          กอบศักดิ์ ผ่านการทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงเทพ

          เมื่อสมคิดก้าวเข้ามาเป็นแม่ทัพเศรษฐกิจ รัฐบาลประยุทธ์ “กอบศักดิ์” ก็ถูกดึงตัวมาเป็นผู้ช่วย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และขยับขึ้นเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายงานให้ดูแลกองทุนหมู่บ้าน และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

\"พลังประชารัฐ\"  ไม่ใช่สามัคคีธรรม ?

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

          จนมาถึงวันนี้ กอบศักดิ์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ ด้วยการทำภารกิจ “ลดความเหลื่อมล้ำวางรากฐานเศรษฐกิจชาวบ้าน

          โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ 44 โครงการ ตอบโจทย์คนฐานราก โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียน 11 ล้านคน

          กอบศักดิ์ชูสวัสดิการของรัฐ เป็นนโยบายพิชิตใจคนจน ซึ่งมีความต่างจากประชานิยม ที่เน้นการหว่านเงินลงไปในหมู่บ้าน โดยไม่สอนวิธีการทำมาหากิน

          พรรคพลังประชารัฐ จึงมีกลยุทธ์การหาเสียงคล้ายพรรคไทยรักไทย เน้นขายนโยบายเอาใจคนฐานราก

 

สามมิตร

แค่กองหนุน ?

 

          ความอึกทึกครึกโครม ของกลุ่มสามมิตร เลยทำให้ผู้คนเหมารวมว่า “สามมิตรคือพลังประชารัฐ” ทั้งที่จริง มันเป็นแค่กลุ่มหนึ่งในองคาพยพแห่งพรรคการเมืองใหม่ 

          องค์ประกอบของพรรคพลังประชารัฐ แยกเป็นกลุ่มดรีมทีมสมคิด กับกลุ่มนักเลือกตั้ง ที่มีภาระหน้าที่แตกต่างกัน

          กลุ่มสามมิตร ภายในการนำของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” และ “สมศักดิ์ เทพสุทิน อาจดูใหญ่โตหน่อย มีสมาชิกนับร้อยคน ทั้งที่เป็นอดีต ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส.

\"พลังประชารัฐ\"  ไม่ใช่สามัคคีธรรม ?

          ว่ากันตามจริง สมาชิกกลุ่มสามมิตร กว่าร้อยละ 80 เป็นอดีต ส.ส.ลายคราม สอบตกซ้ำซาก แต่จะมีอดีต ส.ส. “ฐานแน่น” ประมาณร้อยละ 20

          กลุ่มชลบุรี ก็มีความชัดเจนก่อนใครเพื่อน เพราะเป็นกลุ่มเล็ก ที่ต่อสายตรงกับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และผู้ใหญ่ในทำเนียบ

          ลึกๆ แล้ว การเดินสายดึงตัวอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และอีกหลายพรรค ยังมีชื่อของ พินิจ จารุสมบัติ” และ “สุชาติ ตันเจริญ” เป็นคนเดินเกมชักชวนให้มาร่วมงานกับพลังประชารัฐ

          มินับรวมการต่อสายเจรจาระดับผู้ใหญ่โดยตรง อย่างเช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษานายก อบจ.พะเยา และ รัตนา จงสุทธานามณี อดีตนายก อบจ.เชียงราย

          กลุ่มนักเลือกตั้งที่ไหลมารวมตัวกันในพรรคพลังประชารัฐ อาจคล้ายพรรคสามัคคีธรรม แต่มีความต่างตรงที่ “หัวแถวพลังประชารัฐ เป็นนักบริหารจัดการมืออาชีพ ภาพลักษณ์ดี ไม่สีเทา

          ในแง่การบริหารนักเลือกตั้ง พลังประชารัฐน่าจะใช้ “โมเดลทักษิณ” ที่แยกให้กลุ่มก๊วนดูแลกันเอง เพื่อความคล่องตัว

          ภาพรวมคล้ายของเดิม(ไทยรักไทย)...ที่เพิ่มเติมคือ ประยุทธ์และชาวคณะ