คอลัมนิสต์

ฆ่า'น้องสปาย'..สั่งตาย'น้องเนิส'! ภาพสะท้อนสังคมไทยยุค4.0

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฆ่า'น้องสปาย'..สั่งตาย'น้องเนิส'! ภาพสะท้อนสังคมไทยยุค4.0 : รายงาน   โดย...  นลิน สิงหพุทธางกูร ทีมล่าความจริง เนชั่นทีวี 22

 

          เมื่อใดที่ความรักเปลี่ยนสภาพจาก “คนรัก” เป็น “อดีตคนรัก” หรือทึกทักเข้าใจไปเองว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด “คบซ้อน” พยายามตีจาก จึงเป็นอีกสาเหตุให้เกิดคดีฆาตกรรม โดยคดี “ฆ่า” จำนวนไม่น้อยมีชนวนเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ซึ่งส่วนใหญ่ผู้กระทำเป็น “ฝ่ายชาย” ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะคนรัก หรือกลายสภาพเป็นอดีตคนเคยรัก ส่วนผู้ถูกกระทำก็ไม่พ้น “ผู้หญิง”..!

 

ฆ่า'น้องสปาย'..สั่งตาย'น้องเนิส'! ภาพสะท้อนสังคมไทยยุค4.0

 

          จากคดี “น้องเนิส” น.ส.นภธร กนกเกษมโสภณ ถูกยิงตายคาเก๋งป้ายแดงที่นครปฐมเมื่อต้นเดือนกันยายน โดยมี “เสี่ยลภ” นายวัลลภ ห้วยหงส์ทอง ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มตกเป็นผู้ต้องหา ทำให้หลายคนย้อนคิดไปถึงคดี “เสี่ยอ้วน” นายปัญญา ยิ่งดัง ที่ยกทีมกันไปฆ่าโหด “น้องสปาย” น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ กับ “น้องฟอส” นายอนันตชัย จริตรัมย์ หน้าพระแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นานนัก
คดีฆาตกรรมจากคนเคยรักกันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นข่าวใหญ่ครึกโครมบ้าง ไม่เป็นข่าวก็มี ในปีหนึ่งๆ จะเห็นข่าวความเศร้าสลดของชีวิตคู่แทบนับไม่ถ้วน และมักลงมืออย่าง “โหดเหี้ยม” ราวกับสะสมความโกรธแค้นมาตั้งแต่ชาติปางก่อน โดยคดีประเภทนี้แม้จะเป็นคดี “พิศวาสฆาตกรรม” ประเภทหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย แต่คดีอย่าง “น้องสปาย” และ “น้องเนิส” ซึ่งเกิดขึ้นในห้วงเวลาไม่ห่างกันมาก ต่างกันแค่วันเวลาและสถานที่ แต่มีพฤติการณ์คล้ายกันจากฝีมืออดีตหรือคนรัก ที่ถูกตั้งฉายานำหน้าชื่อว่า “เสี่ย” ยังมีแง่มุมสะท้อนปัญหาสังคมในมิติที่ลึกมากกว่าพิษรักแรงหึงทั่วไป

 

 

ฆ่า'น้องสปาย'..สั่งตาย'น้องเนิส'! ภาพสะท้อนสังคมไทยยุค4.0

 

          ในมุมมองของนักสิทธิมนุษยชนอย่าง นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เธอมองว่า นี่คือปัญหาของโครงสร้างสังคมไทย! เพราะสังคมไทยเป็นสังคมไม่เท่าเทียม เริ่มจากผู้หญิงที่ขาดโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การศึกษา การทำงาน การใช้ชีวิตครอบครัว ทำให้บางคนต้องพยายามไขว่คว้าให้ตัวเองมีทางเลือกในการดำเนินชีวิต และสุดท้ายบางคนเลือกที่จะยอมให้ผู้ชายมาเป็นใหญ่ มาบงการชีวิต เพื่อแลกกับผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งส่วนหนึ่งในจำนวนผู้หญิงเหล่านี้ถูกทำร้าย บางคนถูกทำร้ายซ้ำๆ จนหนักที่สุดคือถูกฆ่า..! ที่สำคัญคือผู้หญิงที่เลือกชีวิตแบบนี้ บางคนก็ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ชายด้วยซ้ำ

          นางอังคณา มองเกี่ยวกับปัญหาประเด็นนี้ว่า โครงสร้างของสังคมไทย นอกจากจะไม่ได้ให้ความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงชายแล้ว ยังให้คุณค่ากับสิ่งที่ผิดด้วย เช่น ชื่นชมคนที่หน้าตา อิจฉาคนมีรถ มีบ้าน หรือใช้ของแบรนด์เนม โดยค่านิยมแบบนี้ทำให้ผู้หญิงต้องพยายามไขว่คว้า ไปทำศัลยกรรม ฉีดหน้า เพื่อความดูดี พอต้องใช้เงินเยอะ แต่สวนทางกับงานสุจริตที่ทำอยู่ไม่พอตอบสนอง ก็เลยต้อง “เอาตัวเข้าแลก” หรือไม่บางคนก็มีความจำเป็นบางอย่าง เช่น พ่อแม่ป่วยต้องหาเงินมารักษา

 

ฆ่า'น้องสปาย'..สั่งตาย'น้องเนิส'! ภาพสะท้อนสังคมไทยยุค4.0

 

 

          ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อน ผู้หญิงก็ยังไม่ได้เผชิญกับความรุนแรงมากมายขนาดนี้ ดูได้จากจำนวนผู้หญิงที่ร้องทุกข์เข้ามายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดย นางอังคณา แจกแจงว่า เรื่องร้องเรียนในปัจจุบันมีเยอะขึ้น และมีหลายระดับด้วย ตั้งแต่ถูกเจ้านายหรือผู้บังคับบัญชาเสนอผลตอบแทนทางหน้าที่การงาน เพื่อแลกกับการขอมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว สถิติความรุนแรงในครอบครัวก็สูงขึ้นอย่างชัดเจน

          “หากสังเกตดีๆ ในโซเชียลมีเดียก็สะท้อนชัดเหมือนกัน มีคนจำนวนมากที่โพสต์เรื่องราวความทุกข์ของตัวเอง สงสัยว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า ไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต ทั้งหมดนี้ชัดเจนว่าโครงสร้างสังคมไทยกำลังป่วยหนัก” นางอังคณา ระบุ

          เมื่อพิจารณาในแง่มุมของผู้ก่อเหตุ ที่ส่วนใหญ่ตามข่าวยังเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ฉะนั้นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติอย่าง นางอังคณา จึงอธิบายว่า คนพวกนี้ส่วนใหญ่เคยชินกับการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงมาก่อน และใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนนำมาสู่การก่อเหตุฆาตกรรม เมื่อผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงอยู่ก่อน พอไปบวกกับการมีอิทธิพลด้วยแล้วจึงยิ่งหนักขึ้น เพราะพวกนี้มีอาวุธ มีเพาเวอร์ มีลูกน้อง ทำให้คนรอบข้างหวาดกลัว แถมยังวิ่งเต้นคดีกับผู้บังคับใช้กฎหมายได้อีก แต่คนพวกนี้มักไม่ได้รับความรักที่จริงใจ จึงตัดสินปัญหาด้วยอำนาจตัวเอง

 

ฆ่า'น้องสปาย'..สั่งตาย'น้องเนิส'! ภาพสะท้อนสังคมไทยยุค4.0

 

          ทั้งนี้ทั้งนั้นทัศนะของ นางอังคณา ยังสอดคล้องต้องกันกับ ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ นักอาชญาวิทยาชื่อดัง ที่ขมวดปมปัญหาสังคมไทยในภาวการณ์เปลี่ยนแปลง ว่า เป็นเพราะธุรกิจผิดกฎหมาย หรือสุ่มเสี่ยงผิดจริยธรรมทำได้ง่ายขึ้น มีการจ่ายใต้โต๊ะ ทุจริตคอร์รัปชั่น ทำให้เกิด “ผู้มีอิทธิพลใหม่” หรือ “มาเฟียรุ่นใหม่” จำนวนมาก ขณะที่ผู้หญิงก็เลือกทำงานนอกบ้านมากขึ้น ก็เข้าสู่วงจรธุรกิจประเภทนี้ ผู้หญิงหลายคนกลายเป็น “เด็กเสี่ย” เป็นเป้าหมายของผู้มีอิทธิพล เมื่อมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งก็ได้รับความไว้วางใจ สุดท้ายพอขัดแย้งกัน อาจจะเกิดจากเรื่องความสัมพันธ์ หรือผลประโยชน์ จนบทสรุปของเรื่องจบลงที่การฆ่ากัน..!

          ท้ายนี้กรรมการสิทธิมนุษญชนแห่งชาติ ย้ำว่า ที่ผ่านมารัฐบาลแทบทุกรัฐบาลไม่ค่อยสนใจจัดการปัญหานี้ ปล่อยให้คนสร้างอิทธิพล บางคนอายุไม่เยอะ แต่มีลูกน้อง มีคนเรียกเสี่ย กลายเป็น “ผู้มีอิทธิพลใหม่” กระทำผิดกฎหมาย หมิ่นเหม่ผิดศีลธรรมเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด..!!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ