คอลัมนิสต์

ย้อนเกล็ด12ปีทักษิณบนถนนการเมืองก่อน หนี! 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ย้อนเกล็ด12ปีทักษิณบนถนนการเมืองก่อน หนี!  : คอลัมน์...  กวาดบ้านกวาดเมือง  โดย...   ลมใต้ปีก

 

          อยู่ดีไม่ว่าดี ครบรอบ 12 ปีแห่งการรัฐประหาร 19 กันยายน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร หวังจะใช้โอกาสนี้ออกมาโจมตีคณะนายทหารที่ใช้ปฏิบัติการ 2 ครั้งโค่นอำนาจเขา เมื่อปี 2549 และน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2557 ว่าเป็นการทำลายชาติบ้านเมืองและเป็นการกลั่นแกล้งตัวเขาและครอบครัว 

 

          แน่นอนข้อความรำพึงรำพันในเฟซบุ๊ก ไม่มีการกล่าวถึงว่าการรัฐประหารสองครั้งทำให้คนไทยหยุดฆ่ากันและหยุดรัฐบาลที่ทุจริตและขายชาติแต่อย่างใด เป็นการโพสต์ข้อความประเภท “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น” อย่างชัดเจน

          จึงเกิดการขุดคุ้ยประวัติและพฤติกรรมของทักษิณ ชินวัตร พร้อมภาพพินอบพิเทา บิ๊กจ๊อด พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) หัวหน้าคณะยึดอำนาจเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2534 เพื่อ “ล็อบบี้” เอาสัมปทานดาวเทียมไทยคม และได้รับสัมปทานนั่นในเวลาต่อมา เป็นการย้อนเกล็ดเกลียดการรัฐประหารแต่เอาประโยชน์จากคณะรัฐประหาร ดังสำนวนไทยที่ว่า “เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง”

          การตอบโต้ทางการเมืิองก็ว่ากันไป แต่วันนี้ขอเล่าประวัติศาสตร์ 12 ปี แห่งการเข้ามามีอำนาจทางการเมืองของทักษิณ ชินวัตร 2537-2549 (ไหนๆเขาก็เล่าเรื่อง 12 ปีแห่งการรัฐประหาร) 

          ทักษิณ ชินวัตร เข้าสู่วงจรอำนาจครั้งแรกเมื่อต้นปี 2537 ด้วยคำเชื้อเชิญของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ต่อมาเป็นหนึ่งในผู้นำประชาชนไล่ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2549 (เสียเอง) 

          ขณะที่ ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีขณะนั้น กังขาคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของทักษิณ ชินวัตร ที่ถือหุ้นในบริษัทที่ถือสัมปทานของรัฐ ทั้งสัมปทานโทรศัพท์มือถือ และสัมปทานดาวเทียม จะมีปัญหา จึงมอบหมายให้ วิษณุ เครืองาม เลขาธิการคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ตรวจสอบคุณสมบัติ

          แต่การเร่งรัดทางการเมืองของ พล.ต.จำลอง ทำให้ ชวน หลีกภัย ต้องเสนอชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เป็น รมว.ต่างประเทศ ทำงานได้เพียง 3 เดือนเศษ การตรวจสอบคุณสมบัติกำลังจะเสร็จสิ้น ทักษิณ ชินวัตร ได้ลาออกจากตำแหน่งอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำให้การตรวจสอบต้องยุติลง 

          รุ่งขึ้นอีกปี ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม หลังจากที่ไปแก้ปัญหาการถือครองหุ้นโดยไปซุกไว้ที่คนรับใช้ คนขับรถ และยาม รวมทั้งโอนหุ้นส่วนหนึ่ง(ส่วนใหญ่)ไปขังไว้ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น ผ่าน แอมเพิลริช ที่ต่อมา มีทั้งคดีซุกหุ้น และการขายหุ้นเลี่ยงภาษี 

          สองบุคคลที่รู้ทันอย่างลึกซึ้งในเรื่องซุกหุ้นต้องยกให้ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง (วันนี้จุดยืนยังอยู่ที่เดิม) อีกคนคือ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (วันนั้นตรวจสอบทักษิณ อย่างแข็งขัน วันนี้ อยู่ข้างเดียวกันแล้ว)

          การทุจริต ทั้งเชิงนโยบายและการปฏิบัติการเกิดขึ้นมากมายในช่วงที่ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ หลายโครงการถูกฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ ซักฟอกในสภา แต่เสียงข้างมากก็หักดิบผ่านการอภิปราย ปิดโอกาสฝ่ายค้านจนเกิดเหตุอภิปรายนอกสภาของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 2547 

          ฉวยเสียงข้างมากแก้กฎหมายเพื่อวางแผนล่วงหน้าขายหุ้นชิน ทั้งการแก้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต จนสุดท้าย สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ต้องติดคุก เพราะเรื่องนี้มาแล้ว แก้กฎหมายเอื้อต่างชาติถือหุ้นมากขึ้น เพื่อสร้างบันไดขายหุ้นชิน 

          มีการขายหุ้นที่ซุกไว้ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น นอกตลาดหลักทรัพย์โดยไม่เสียภาษี จนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนลุกฮือมาไล่พ้นเก้าอี้ 

          และมีการระดมกำลังเพื่อจะนำคนมาห้ำหั่นปกป้องเก้าอี้ตัวเอง ที่ฝ่ายความมั่นคงเห็นท่าไม่ดีต้องเข้ามาห้ามทัพการนองเลือดด้วยการรัฐประหาร

          นั่นคือ 12 ปี บนเส้นทางครองอำนาจที่ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยพูดถึง จึงหยิบมาเล่าเพื่อเตือนความจำทั้งของทักษิณ ชินวัตร ว่าที่แท้ต้นเหตุแห่งการเปิดประตูให้ทหารเข้ามาทางการเมืองไม่ใช่ใครอื่น... 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ