คืนโฉนดคนจน "ลุงป้อม" ทำได้ ไยนักเลือกตั้งทำไม่ได้?

          เดินหน้าคืนความสุขให้ประชาชน แม้จะถูกหยามหยันจากฝ่ายตรงข้ามว่า ทหารแก่ทหารเก่า ไม่มีน้ำยาแก้ปัญหาชาวบ้าน มาถึงวันนี้ “พี่ใหญ่” แห่งบูรพาพยัคฆ์ ได้ทำให้ประจักษ์แล้ว ท.ทหารทำได้ และทำได้ดีกว่านักเลือกตั้ง

          20 กันยายน 2561 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ (หลังเก่า) “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม เป็นประธานพิธีมอบคืนโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน “คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม”

          ดังที่ทราบ “บิ๊กป้อม” ได้มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการคลัง นำนายทุนนอกระบบเข้าสู่ระบบตามกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนเข้าสู่แหล่งเงินกู้อย่างยั่งยืน และทางรัฐบาลจะยังคงดำเนินการปราบปรามนายทุนหนี้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมาย

          พูดง่ายๆ ว่า รัฐบาล คสช.ประกาศทำสงครามกับ “นายทุนนอกระบบที่ผิดกฎหมาย” โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นชาวนาชาวไร่ในพื้นที่ภาคอีสาน 

          การขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำอย่างจริงจัง ได้นำมาสู่การคืนโฉนดสู่มือประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 18,000 ล้านบาท ประชาชนกว่า 7,000 ราย จำนวนโฉนดกว่า 8,000 ฉบับ

          มีหลายคนกังขาว่า นโยบายคืนโฉนดอย่างนี้ ทำไมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำไม่ได้ ? 

          อันที่จริง มีหนังสือวิชาการเล่มหนึ่งชื่อ “คอรัปชั่นกับประชาธิปไตยไทย” โดยการทำงานวิจัยของ สังศิต พิริยะรังสรรค์ และผาสุก พงษ์ไพจิตร ซึ่งมีการพิมพ์ออกมาวางขายนานหลายสิบปีแล้ว

          หนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงการเติบโตของนายทุนและชนชั้นกลางท้องถิ่น ที่เข้ามามีบทบาททางการเมือง ซึ่งคนกลุ่มนั้นได้ใช้เม็ดเงินจากธุรกิจนอกระบบ เข้ามาซื้อเสียงจนได้เป็นผู้แทนราษฎร

          ยกตัวอย่าง “เจ้ามือหวย” ที่เข้าสู่วิถีนักการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับชาติ โดยลงสมัคร ส.จ. ส.ท. นายก อบจ. หรือ ส.ส. และอีกจำนวนไม่น้อยเป็นหัวคะแนนให้แก่นักการเมือง

          “เจ้ามือหวย” ใช้การเมืองเป็นเกราะคุ้มกันธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และหวยใต้ดิน มีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งที่หาได้ยากจากการพนันชนิดอื่นๆ คือ การสนับสนุนค้ำจุนทางการเมือง

          กรณีตัวอย่าง “เสี่ย ล.อีสานเหนือ” กับ “เสี่ย ป.อีสานใต้” เป็นเรื่องที่มีนักวิชาการพูดถึงบ่อย เพราะทั้งคู่สร้างความมั่งคั่งจากการค้าพืชผลการเกษตร ควบคู่กับการเป็นนายทุนเงินกู้ และขายหวยใต้ดิน

          ยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ “เสี่ย ล.” ได้ลงทุนทางการเมืองสนับสนุนนักเลือกตั้งในจังหวัดภาคอีสานเหนือ โดยกระจายลงสมัครหลายพรรค และได้ ส.ส.นับสิบคนมาอยู่ในมือ สร้างอำนาจต่อรองทางการเมืองในสภาได้

          ส่วน “เสี่ย ป.” เล่นการเมืองระดับท้องถิ่น แต่เส้นทางการสู่เก้าอี้นายกเล็ก กลับเต็มไปด้วยการห้ำหั่นกัน ด้วยคมกระสุน 

          ยุคประชาธิปไตยเต็มใบ พรรคไทยรักไทย ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่เชิงนโยบาย ทำให้ชาวบ้านชื่นชอบ เหมือนโฉมหน้าการเมืองไทยจะเปลี่ยน แต่ลึกๆแล้ว  ระบบมาเฟียธิปไตยหรือกลุ่มอิทธิพลนอกกฎหมายยังดำรงอยู่

          ระบอบประชาธิปไตย และการเลือกตั้งสำหรับเมืองไทย มิได้หล่นมาจากฟากฟ้า หากแต่เกิดจากเนื้อดิน “ระบอบอุปถัมภ์” ทั้งแบบเก่าและแบบใหม่

          สิบกว่าปีมานี้ “นายทุนเงินกู้” เบ่งบานในเขตชนบท และกลุ่มคนเหล่านี้ได้ใช้ “เกราะการเมือง” คอยปกป้องคุ้มครอง โดยเฉพาะการเลือกตั้งนายก อบต. หรือนายก อบจ. ทุนสีเทายังทรงพลังเสมอ

          นายทุนเงินกู้ เจ้ามือหวย และนักเลือกตั้ง คือคนกลุ่มเดียวกัน...นี่คือคำตอบ ทำไมนักเลือกตั้งจึงทำแบบบิ๊กป้อมไม่ได้