คอลัมนิสต์

ดราม่า งดรับ 'นรต.หญิง' หวั่นกระทบคดี อ่อนไหวต่อเพศสภาพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดราม่า งดรับ'นรต.หญิง'หวั่นกระทบคดีอ่อนไหวเพศสภาพ..! : รายงาน   โดย.... อนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ / นลิน สิงหพุทธางกูร

 

          กลายเป็นกระแส “ดราม่า” ไม่น้อย หลังจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับบันทึกข้อความเรื่อง ตร.อนุมัติแนวทางการสรรหาและผลิตกำลังพลในส่วนของ นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) และ นักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) ในส่วนของตร.ประจำปีการศึกษา 2562 ถึง ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.ร.ร.นรต.) ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา

          โดยบันทึกข้อความที่สร้าง “ดราม่า” ครั้งนี้ ระบุว่า ตามหนังสือ ร.ร.นรต. ขออนุมัติดำเนินการรับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก (ชาย) ผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) หรือเทียบเท่าเข้าเป็นนตท. ในส่วนของตร.ประจำปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป จำนวน 280 อัตรา เข้าศึกษาต่อ โรงเรียนเตรียมทหาร (ร.ร.ตท.) เพื่อจะเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรตามระเบียบกองทัพไทย ว่า ด้วยโรงเรียนเตรียมทหาร พ.ศ.2560 และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2561 โดยใช้แนวทางการรับสมัครและสอบคัดเลือกตามแนวทางที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

 

 

          พร้อมทั้งขอยกเลิกการจัดสรรอัตราในการรับสมัครและสอบคัดเลือกข้าราชการตำรวจบุคคลภายนอก (หญิง) เข้าเป็นนรต.และบุคคลภายนอกเข้าเป็นนตท.ในส่วนของตร.จำนวน 280 อัตรา ตามที่ตร.ได้เคยอนุมัติไว้โดยไม่มีกำหนดและให้ดำเนินการรับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก (ชาย) ผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือเทียบเท่า เข้าเป็นนตท.ในส่วนของตร.ประจำปีการศึกษา 2562 จำนวน 280 อัตรา แทนจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

          จากข้อความที่ว่านี้จึงสรุปได้ประมาณว่าคำสั่งจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ คือ 1.งดรับนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง (นรต.หญิง) 2.รับเฉพาะผู้มีวุฒิม.4 เพื่อสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร และ 3.นรต.ต้องมาจากเตรียมทหารเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เลิกรับผู้หญิงเข้าเป็นนายร้อยตำรวจนั่นเอง และถึงแม้ “แม่ทัพสีกากี” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ออกมาชี้แจง แต่ไม่วายที่จะถูกคัดค้าน

 

          หลายความเห็นบอกว่ากรณี “รั้วสามพราน” งดรับ “นรต.หญิง" เสมือนปิดโอกาสนักเรียนหญิงที่ใฝ่ฝันเข้ามาเป็น “ดอกไม้สามพราน” เมื่อจบหลักสูตรจะรับราชการตำรวจมีดาวแปดแฉกประดับบ่า ทั้งๆ ที่แต่เดิมรับ “นรต.หญิง” มาประมาณ 10 รุ่น ก็ไม่มีปัญหาอะไร แถมยังได้รับเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญมากมายว่ามีความคิดก้าวหน้า ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างหญิงชาย และสอดคล้องกับคดีอ่อนไหวมากมายที่ตำรวจรับผิดชอบ ซึ่งต้องใช้ “พนักงานสอบสวนหญิง” เช่น คดีล่วงละเมิดทางเพศ คดีเด็กและเยาวชน เป็นต้น..!

          สำหรับเหตุผลเรื่องนี้ของ “แม่ทัพสีกากี” ก็คือ เป็นมติของสภากลาโหม และสภาการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร ที่ให้นักเรียนเหล่าทุกเหล่า (หมายถึงจปร.ของทหารบก, นักเรียนนายเรือ ของทหารเรือ, นักเรียนนายเรืออากาศ ของทหารอากาศ และนักเรียนนายร้อยตำรวจ ของตำรวจ) ต้องจบจากโรงเรียนเตรียมทหารเท่านั้น ซึ่งก็เท่ากับว่าจะมีแต่ผู้ชายที่ผ่านโรงเรียนเตรียมทหารมาแล้วได้เข้าเรียน ประเด็นนี้ทำให้เกิดกระแสกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

 

 

          ฟากฝ่ายโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผบช.ร.ร.นรต. ก็ให้คำตอบคล้ายๆ  ผบ.ตร. ว่าเป็นไปตามมติสภากลาโหมและสภาการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร โดยโรงเรียนนายร้อยตำรวจจะเปิดรับสมัคร บุคคลภายนอกผู้มีวุฒิม.4 เพื่อเข้าศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (เหล่าตำรวจ) จำนวน 280 อัตรา ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกจะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเตรียมทหาร 2 ปี ก่อนเข้ารับการศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยตำรวจในลักษณะเช่นเดียวกับเหล่าทัพอื่น วัตถุประสงค์เพื่อให้มีการเรียน การสอน การฝึก การปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความมุ่งมั่นในการเป็นทหาร-ตำรวจที่ดีอย่างแท้จริง เพื่อให้มีคุณสมบัติของการเป็น “ผู้นำหน่วย” เหมาะสมที่จะเป็นนายทหารและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร

          ส่วนประเด็นที่หลายคนเป็นห่วงเกี่ยวกับการผลิต “พนักงานสอบสวนหญิง” ซึ่งปัจจุบันกฎหมายบังคับให้ใช้ “พนักงานสอบสวนหญิง” ในคดีหลายๆ ประเภทนั้น พล.ต.ท.ปิยะ บอกว่า เรื่องนี้จะยังคงมีเหมือนเดิม ไม่มีการยกเลิกแน่นอน แต่จะเปลี่ยนรูปแบบการรับเป็นแบบอื่น ไม่ผ่านโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งต้องมาจากเตรียมทหาร คือรับบุคคลภายนอกที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี “นิติศาสตร์” มาสอบบรรจุเป็นพนักงานสอบสวนชั้นสัญญาบัตรได้

 

 

          เมื่อผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรออกมาแบบนี้ซึ่งจะเห็นได้ว่าคำชี้แจงของฝ่ายตำรวจมีอยู่ 2 ประเด็นที่น่าสนใจ คือ 1.ทำตามมติสภากลาโหม และ 2.ยังคงมีพนักงานสอบสวนหญิงอยู่ แต่รับด้วยวิธีอื่น ดังนั้นในส่วนของประเด็นแรกจึงมีความเห็นจากนักวิชาการที่ศึกษาด้านความมั่นคง โดย ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง จากมหาวิทยาลัยรังสิต ที่บอกว่า รู้สึกตกใจมาก ที่ปีการศึกษา 2562 จะยกเลิกการรับ “นรต.หญิง” ยิ่งไปกว่านั้นคือการอ้างว่าต้องปฏิบัติตามมติสภากลาโหม ระบุว่านักเรียนนายร้อยต้องมาจากโรงเรียนเตรียมทหาร จึงอยากถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะย้ายองค์กรไปขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหมหรืออย่างไร ถ้าไม่ใช่ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามกองทัพทุกเรื่อง มิฉะนั้นการปฏิรูปตำรวจก็คงไม่มีความหวัง​​

          ส่วนประเด็นพนักงานสอบสวนหญิง อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อธิบายว่า การรับคนจบกฎหมายหรือจบปริญญาตรีสาขาอื่นแล้วมาอบรมในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อเป็นพนักงานสอบสวนหญิง ทำให้แต่ขาดทักษะการทำงานสืบสวนสอบสวน การแสวงหาพยานหลักฐาน และความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์ จนอาจไม่สามารถทำคดีล่วงละเมิดทางเพศที่มีความซับซ้อนได้ โดยที่ผ่านมากรรมการสิทธิฯ เคยมีข้อเสนอแนะถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติหลายครั้ง ให้มีพนักงานสอบสวนหญิงให้เพียงพอ ซึ่งควรมีทุกโรงพัก เพื่อทำคดีการคุกคามและการล่วงละเมิดทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เคารพสิทธิ์ และมีความเข้าใจเรื่องความอ่อนไหวของเพศสภาพ รวมทั้งขจัดการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง ซึ่งเป็นอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติด้วย

 

 

          “จะเอาตำรวจไปเปรียบเทียบกับทหารไม่ได้ เพราะทหารไม่ได้ทำงานสัมผัสกับประชาชนโดยตรงเหมือนตำรวจ ขณะที่ตำรวจทำหน้าที่รักษากฎหมาย บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน และที่สำคัญเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งคดีอ่อนไหวทางเพศสภาพด้วย” อังคณา กล่าวย้ำ

          พ.ศ.2552 ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของรั้วสามพรานที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน 107 ปี ด้วยการผลิต “นรต.หญิงรุ่นบุกเบิก” เทียบเท่า “นรต.รุ่น 66” โดยตลอดระยะ 4 ปีเต็ม กว่า 70 ชีวิต ต้องผ่านการฝึกฝนขัดเกลาอย่างหนักระหว่างอยู่ในรั้วสามพรานไม่ต่างอะไรจาก “นรต.ชาย” มีสารพัดหลักสูตรที่เข้มข้น ทั้งด้านจิตใจและร่างกาย เริ่มตั้งแต่เข้าสู่ภาควิชาการ การฝึกยุทธวิธีตำรวจ ฝึกการต่อสู้ป้องกันตัวยิงปืน การสืบสวนปราบปราม การก่อความไม่สงบ ฝึกโดดร่ม ตลอดจนฝึกงานที่โรงพัก เพื่อสัมผัสและรับประสบการณ์งานสอบสวน การป้องกันปราบปราม และงานสืบสวน ฉะนั้นเมื่อคำสั่งงดรับ “นรต.หญิง” มีผลแล้ว “นรต.หญิงรุ่น 75” จะกลายเป็นรุ่นสุดท้ายในรั้วสามพราน..!!

........................
ภาพ  เฟซบุ๊ก  โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ