ดีเอสไอส่ง"นกไฟ"ถลาลม สู่งานสอบสวนทางอากาศ

 
          กรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดตัว "ดีเอสไอโมบาย" ออกปฏิบัติการพร้อมฟินิกส์ หรือโดรนอีบีพลัส (ebee plus) อากาศยานไร้คนขับสำหรับถ่ายทำแผนที่ความละเอียดสูง นวัตกรรมที่พัฒนาและเป็นการดัดแปลงนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในงานสืบสวนสอบสวนภูมิศาสตร์ทางอากาศพร้อมเชื่อมต่อกับ ONE MAP หรือแผนที่ฉบับบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาการทับซ้อนที่ดินประเภทต่างๆ

          รถโมบายของดีเอสไอคันนี้ดูภายนอกเป็นรถตู้โดยสารหน้าตาบ้านๆ แต่อุปกรณ์ภายในถอดแบบมาจากรถปฏิบัติการเคลื่อนที่ของเอฟบีไอและหน่วยสอบสวนพิเศษในต่างประเทศซึ่งเรามักพบเห็นบ่อยๆ ในภาพยนตร์สืบสวนสอบสวน ที่มีรถยนต์ไปจอดซุ่มอยู่ตามหัวมุมตึกเพื่อสั่งการไปยังทีมสายลับหรือหน่วยสวาท โดยรถโมบายคันนี้สามารถถ่ายทอดสดภาพและเสียงของชุดปฏิบัติการ จากจุดที่ทำการสืบค้นเข้าไปยังเซ็นเตอร์ของศูนย์บัญชาการเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการได้แบบเรียลไทม์ (ในระบบปิด) โดยภาพและเสียงถูกถ่ายทอดสดแบบไม่ดีเลย์
 
          พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร บอกว่า ดีเอสไอโมบายราคาไม่สูงมาก เลือกใช้รถตู้ตามท้องตลาดราคาเพียง 1 ล้านบาทเศษ เมื่อรวมเข้ากับระบบเทคโนโลยีสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน ทำให้ได้มาซึ่งรถโมบายในสนนราคารวม 12 ล้านบาท

          ก่อนนำออกมาปฏิบัติการจริง รถคันนี้ถูกส่งเข้าไปทดสอบในปฏิบัติการเสมือนจริงมาแล้วในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งในป่าทึบ เขาสูงชัน หรือบนเกาะห่างไกล เพื่อทดสอบสัญญาณโมบาย ซึ่งดีเอสไอเลือกใช้ WIFI และซิมการ์ดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูจากทุกโครงข่ายที่ให้บริการในประเทศครบทุกค่าย โดยอุปกรณ์จะเลือกจับสัญญาณที่มีกำลังส่งสูงสุด ทดสอบจนมั่นใจว่ามีสัญญาณครอบคลุมไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมซึ่งมีราคาแพงเกินจำเป็น

          ดีเอสไอโมบายและโดรนฟินิกส์ไม่ใช่โครงการอวตารแบบไม่มีที่มาที่ไป แต่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากการถอดบทเรียน เพื่อแก้ปัญหาและอุปสรรคจากการสอบสวนคดี โดยเฉพาะการปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ถูกกดดันด้วยมวลชน ประกอบกับสภาพพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ และโดรนของทางราชการซึ่งตัวเล็กกว่า ยังถูกฝ่ายตรงข้ามตัดสัญญาณ ยิงร่วงกลายเป็นนกปีกหัก

          จากวันนั้นมาถึงวันนี้ฟินิกส์หรือแมงหวี่ ตามรหัสเรียกขานของชาวธรรมกาย ถูกพัฒนาและผ่านการแก้ไขจนมีความทันสมัยลำดับต้นๆ ไม่มีทางถูกสอยร่วงอีกแล้ว เพราะเทคโนโลยีที่มีความสามารถจะสอยโดรนตัวนี้ไม่ขายให้เอกชน ผู้ใช้ต้องเป็นราชการเท่านั้น

          เทคโนโลยีสืบสวนสอบสวนทางอากาศของดีเอสไอ ซึ่งเชื่อมต่อดีเอสไอโมบายเข้ากับโดรนฟินิกส์ ก้าวไปไกลระดับล้ำที่สุดของประเทศ สามารถนำใช้ในภารกิจสอดแนม สืบสวนสอบสวนในพื้นที่ปิด เฝ้าระวังทางเข้า-ออก นอกจากภารกิจถ่ายภาพแผนที่ทางอากาศแล้ว ดีเอสไอโมบายถูกส่งไปใช้ปฏิบัติการจริงเพื่อรวบรวมหลักฐานในคดีค้ามนุษย์ จากการบังคับใช้แรงงานบนเรือประมง การลักลอบล่าสัตว์ ตัดไม้พะยูงกลางดึก ไปจนถึงการอารักขาบุคคลสำคัญ ซึ่งโดรนความละเอียดสูง มีความสามารถจะบินสอดแนมที่ระดับความสูง 400 เมตร หายขึ้นไปบนเมฆ หากมองจากภาคพื้นดินจะมองแทบไม่เห็นโดรน หรือมองเห็นภาพคล้ายเป็นนกที่บินอยู่บนฟ้า ขณะที่ภาพจากโดรนจะถูกถ่ายด้วยความละเอียดสูงสามารถปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มองเห็นวัตถุบนพื้นดินขนาดเล็กที่สุดความกว้าง 10 ซม. เรียกว่าเห็นภาพละเอียดแม้กระทั่งไก่แจ้ ที่เดินอยู่ในกรง

          สำหรับภารกิจบินสำรวจเพื่อถ่ายภาพแผนที่ทางอากาศ ใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์เอกสารสิทธิ์ที่ดินในคดีบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะใช้บินที่ระดับความสูง 200 เมตร ประมวลผลควบคู่กับ DSI MAP ก็จะตรวจสอบพิกัดได้จากจุดบินว่าตำแหน่งต่างๆ บนพื้นดิน เป็นที่ดินในเขตสปก.อุทยานแห่งชาติ ป่าไม้ ที่ดินสาธารณประโยชน์ เขตราชพัสดุ หรือที่ดินซึ่งสามารถออกโฉนดได้ถูกต้องตามกฎหมาย

          ภาพถ่ายจากฟินิกส์ยังสามารถนำไปอ่านแปลเป็นภาพเชิงซ้อน มองเห็นในระบบสามมิติเพื่อให้เห็นถึงสภาพพื้นที่จริงว่าเป็นภูเขาสูงชันเกินกว่า 30 องศา แอ่งน้ำ หรือหลุมลึก จนไม่สามารถเข้าถือครองหรือออกเอกสารสิทธิที่ดินทุกประเภท นอกจากนี้ภาพถ่ายจากฟินิกส์ยังมีความคมชัดสูงจนผู้อ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศสามารถระบุชนิดและอายุของไม้ยืนต้นที่ปลูกในแปลงบุกรุกได้อย่างแม่นยำว่า ไม้ยืนต้นที่นำมาอ้างการเข้าทำประโยชน์ปลูกขึ้นก่อนหรือหลังประกาศเป็นเขตป่า

          ยกตัวอย่างคดีเพื่อให้เห็นภาพชัดๆ ในคดีบุกรุกป่ากว่า 6,000 ไร่ ในจังหวัดเลยซึ่งเป็นการออกโฉนดล้อมภูเขาเนื้อที่อีกว่า 2,000 ไร่ ของอาณาจักร "รังเย็น" หากใช้วิธีเดินสำรวจเพื่อเก็บภาพถ่ายทางอากาศจากดาวเทียม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องใช้เวลาเดินสำรวจ 30 วัน แต่ด้วยเทคโนโลยีโดรน EBee ของฟินิกส์ จะใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง ก็สามารถจบปฏิบัติการตรวจค้นทางอากาศ ในส่วนของข้อกังวลว่าการสอดแนมทางอากาศจะเป็นการละเมิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น ดีเอสไอยืนยันได้ว่าก่อนส่งฟินิกส์ขึ้นบินต้องมีหมายค้นและได้รับอนุญาตจากกรมการบินพลเรือน ตอกย้ำถึงการสืบสวนสอบสวนที่เป็นมาตรฐานสากล เป็นธรรมถูกต้อง

          หลังเปิดตัวดีเอสไอโมบาย-โดรนฟินิกส์ ดีเอสไอกำหนดยุทธศาสตร์ตั้งเป้า 5 ปี ต้องเป็นเลิศในภารกิจสืบสวนสอบสวนทางภูมิศาสตร์ โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ หวังที่จะขยายขีดความสามารถของโดรนฟินิกส์ไปใช้ในภารกิจงานไล่ล่าอาชญากรหลบหนีงานอารักขาความปลอดภัย ป้องกันและปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในจังหวัดชายแดน
  
          มองจากภายนอกดีเอสไอค่อนข้างจะเนื้อหอมเป็นหน่วยสอบสวนที่องค์กรภายนอกต่างต้องการเรียกใช้บริการ ขณะที่กระทรวงยุติธรรมต้นสังกัด “สั่งเเบน” ซะงั้น