ฟ้าสางที่พะเยา "ธรรมนัส พรหมเผ่า" คุมการเมืองท้องถิ่น

          ตกเป็นข่าวใหญ่อีกหนเมื่อกองปราบปรามออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีโกงเงินบิตคอยน์ 797 ล้าน ซึ่งอดีตนายทหารคนดัง ที่รับโอนหุ้นจากพี่ชาย “บูม” ก็จะถูกเรียกเข้ามาสอบปากคำในวันที่ 28 ส.ค.นี้หากไม่สามารถชี้แจงได้ ก็เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินเช่นกัน

          เมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา “ผู้กองมนัส” หรือ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เพิ่งแถลงจุดยืนทางการเมืองผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊คธรรมนัส พรหมเผ่า

          “การเมืองใหม่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อประเทศชาติ-ประชาชน”

          กล่าวโดยสรุป ผู้กองมนัส จะทำการเมืองใหม่ด้วยกลุ่มพลังเล็กๆ ในพื้นที่ แล้วเชื่อมโยงรวมตัวเป็นพลังใหญ่ในภายหลัง

          ผมจะทำที่บ้านเกิด(พะเยา) ของผมก่อน บ้านเกิดของผม” จึงเป็นที่มาของ “กลุ่มพลังพะเยา” ที่ยึดการบริหาร อบจ.พะเยา และเทศบาลเมืองพะเยาไว้เบ็ดเสร็จ

          การเมืองใหม่ของผู้กองมนัสคือ “ความรัก สมัคร สมาน สามัคคี โดยยึดผลประโยชน์ของชาติ ประชาชน” เป็นที่ตั้ง

          ว่ากันตามจริง ผู้กองมนัส ลุยการเมืองที่บ้านเกิดมานานหลายปีแล้ว จนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ในการเมืองท้องถิ่น เมื่อตระกูล “ตันบรรจง” พ่ายแพ้ หลังผูกขาดตำแหน่งนายก อบจ.มาหลายสมัย

          ผู้บงการเกมหักโค่นตระกูล “ตันบรรจง” คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า เพื่อการกุศล

          สำหรับถนนสายการเมือง ผู้กองมนัสปูฐานการเมืองด้วยการสนับสนุน “เสี่ยอี๊ด” วรวิทย์ บุรณศิริ น้องชายของวิทยา บุรณศิริ อดีต ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ลงชิงชัยตำแหน่งนายก อบจ.เมื่อปี 2554

          ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.พะเยา เป็นการต่อสู้ภายในพรรคเพื่อไทย เพราะตระกูลตันบรรจงนั้น สวมเสื้อเพื่อไทยพะเยา ส่วนธรรมนัส สนิทกับแกนนำ นปช. อย่างจตุพร พรหมพันธุ์ ตัั้งแต่สมัยการชุมนุมใหญ่ปี 2552-2553 จึงมาช่วยเปิดเวทีปราศรัย

          ผลเลือกตั้งนายก อบจ.พะเยา วรวิทย์ชนะขาดลอย ธรรมนัสส่งน้องชาย “อัครา พรหมเผ่า” เป็น รองนายก อบจ. และตัวเขาเองเป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายก อบจ.

          ถัดมาปี 2556 “ธรรมนัส” สนับสนุน จุฬาสินี โรจนคุณกำจร ลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองพะเยา และจุฬาสินี ได้เป็นนายกเทศมนตรีหญิงคนแรกของพะเยา

          แรกๆธรรมนัส ไม่เคยแสดงตัวว่าสังกัดพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเลือกตั้งต้นปี 2557 เขาเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่่อพรรคเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งหนนั้นเป็นโมฆะ หลังจากนั้นเขาไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย 

          ปลายปี 2560 ธรรมนัสย้ายภูมิลำเนาจากพะเยาไปอยู่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อความสบายใจของ “นายทหารชั้นผู้ใหญ่” ในกองทัพภาคที่ 3 แต่กลางเดือน เม.ย.2561 เขาย้ายกลับพะเยา พร้อมประกาศลงเล่นการเมืองแน่นอน

          ในอดีต ภาพของผู้กองมนัส หนีไม่พ้นเงาของผู้กว้างขวาง ผู้มีอิทธิพล แต่สำหรับชาวพะเยาวันนี้ จะได้เห็นแต่ภาพของ “นักบุญ” ที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม ดอกผลที่ได้จากการทำธุรกิจก็ทำบุญ สร้างวัด ช่วยผู้ประสบภัย และผู้ที่สังคมควรให้โอกาส

          ทุกวันนี้ ธรรมนัสควงแขนน้องชายลงพื้นที่พบปะชาวบ้านในทุกอำเภอของ จ.พะเยา โดยทุกกิจกรรมของเขาทำในนามประธานมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า เพื่อการกุศล

          จุดเริ่มต้นจากกลุ่มพลังพะเยา และจะพัฒนาไปสู่พลังอะไรนั้น คิดว่าผู้กองมนัสมีคำตอบแล้ว!