คอลัมนิสต์

บ่แม่นสามิต ยี่ห้อ "สามมิตร" ต้นแบบนักดูด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บอกเลยชั่วโมงนี้ ภิรมย์ยังเดินหน้าพาสมศักดิ์ เดินสายไปพบกับนักเลือกตั้ง ผู้นำมวลชนในภาคอีสาน โดยไม่หวั่นคำครหานินทาว่า คสช.ไฟเขียวให้พวกเขาทำงานการเมือง!

          ทั้ง “ลุงตู่” และ “ลุงป้อม” บอกไม่รู้จักกลุ่มสามมิตร แต่อาจจะคุ้นเคยกับ “สามิต” บุหรี่ในตำนาน ฉะนั้น เราคงต้องมาทำความรู้จักกับกลุ่มนักเลือกตั้ง ที่ไม่ใช่พรรคการเมืองอีกสักครั้ง

          แม่ช้อยอาจไม่เคยไปรำ ถนัดศรีอาจไม่เคยไปชิม แต่คนแถวเมืองนนท์ คงเคยแวะชิมก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยของแท้ที่ “ร้านกินเส้น” ซึ่งอยู่ตรงข้ามสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(...) กันบ้าง

          ร้านกินเส้น ตั้งอยู่บ้านหน้าบ้านพักของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เปิดขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว จริงๆ แล้ว “อนงค์วรรณ เทพสุทิน” เป็นผู้บริหารร้านดังกล่าว

          ถ้ายังจำกันได้ 6 มีนาคม 2556 เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เคยมานั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยที่ร้านกินเส้น โดยมี สมศักดิ์ เทพสุทิน, อนงค์วรรณ เทพสุทิน และอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ร่วมต้อนรับผู้มากบารมีแห่งพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางข่าวลือสะพัด ว่ากลุ่มสมศักดิ์ จะมาร่วมรัฐบาลยิ่งลักษณ์

          ตอนนั้น กลุ่มมัชฌิมายังสังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่ในทางพฤตินัยนั้น ส..กลุ่มนี้ยกมือให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตลอด กระทั่งมีการยุบสภาปลายปี 2556 สมศักดิ์จึงนำอดีต ส..ในเครือข่ายไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

          วันนี้ กลุ่มมัชฌิมาไม่ได้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จึงไม่มีพรรคสังกัด แต่พวกเขายอมรับว่าเป็นสมาชิกกลุ่มสามมิตร

          ภิรมย์ พลวิเศษ” อดีต ส..นครราชสีมา ประกาศหน้าจอทีวีว่า กลุ่มสามมิตรนั้นมีจุดเริ่มต้นจากร้านกินเส้น สนามบินน้ำ โดยเขาได้เดินทางมาพบสมศักดิ์ เทพสุทิน พูดคุยแลกเปลี่ยนเร่ื่องบ้านเมือง และยังถกถึงอนาคตการเมืองว่า ควรจะสร้างพรรคที่มียุทธศาสตร์และนโยบายที่สามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาของประชาชนทุกระดับได้อย่างเป็นรูปธรรม 

          ที่สำคัญจะเป็นพรรคที่ใช้ยุทธศาสตร์แก้ปัญหาและพัฒนาประเทศนำหน้าการเมือง ไม่ใช่เป็นพรรคที่เอานายทุนการเมืองมานำหน้า เหมือนที่ผ่านมา

บ่แม่นสามิต ยี่ห้อ "สามมิตร" ต้นแบบนักดูด

          หลายคนเข้าใจว่า ภิรมย์เป็นอดีต ส..กลุ่มวังน้ำยม แต่ลองไปไล่เรียงดูเส้นทางของครูคนดังแห่ง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา จะพบว่าตัวเขาไม่ได้เกี่ยวพันกับสมศักดิ์มาก่อนเลย

          ต่อมา ภิรมย์ได้พาสมศักดิ์ เทพสุทิน ไปพบปะหัวคะแนนในเขต อ.แก้งสนามนาง และ อ.บัวใหญ่ เพื่อโชว์ศักยภาพของการบริหารจัดการมวลชน 

          ก่อนหน้าจะลงเล่นการเมือง ภิรมย์ พลวิเศษ เป็นผู้นำครู และมีบทบาทในภาคประชาสังคม อ.บัวใหญ่ จึงได้เข้าร่วมทำงานการเมืองกับพรรคความหวังใหม่ ตั้งแต่ปี 2544 โดยการชักนำของอดิศร เพียงเกษ และชิงชัย มงคลธรรม 

          เมื่อภิรมย์ ได้เป็น ส..นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ปี 2550 ก็ได้สร้างชื่อเป็นดาวสภา และสังกัดกลุ่มอีสานพัฒนา ที่เป็นกลุ่มนักการเมืองที่เคยสังกัดพรรคความหวังใหม่

          งานแรกของภิรมย์ในนามกลุ่มสามมิตรคือ การแจกโผรายชื่อ 54 นักเลือกตั้งให้นักข่าว อันเป็นที่มาของคำพาดหัวข่าว “พลังดูด” และหลังจากนั้นมา ชื่อของภิรมย์ก็ติดหราอยู่ในทุกสื่อ

บ่แม่นสามิต ยี่ห้อ "สามมิตร" ต้นแบบนักดูด

พบปะพี่น้องที่ อ.บัวใหญ่ (ภาพจากเฟซบุค อรทัย พลวิเศษ)

          ว่ากันตามจริง ไม่มีสื่อไหนลงลึกใน 54 รายชื่อเลย หากตรวจชื่อนักเลือกตั้งกันจริงๆ ก็เป็นเลือกตั้งเกรดบี เกรดซี แต่หากมองในมุมกติกาเลือกตั้งใหม่ที่เก็บกัน “ทุกคะแนน” และคะแนนทั้งหมดนี้มีผลต่อ “จำนวน ส..บัญชีรายชื่อ” ของพรรคการเมืองที่ลงสนาม

          ชั่วโมงนี้ ภิรมย์ยังเดินหน้าพาสมศักดิ์ เดินสายไปพบกับนักเลือกตั้ง และผู้นำมวลชนในภาคอีสาน โดยไม่หวั่นคำครหานินทาว่า คสช.ไฟเขียวให้พวกเขาทำงานการเมือง

          ตามพจนานุกรม “สามิต” หมายถึงนายตรวจ เช่นนายตรวจสรรพสามิต นายตรวจสรรพากร “สุริยะ สมศักดิ์ ภิรมย์” จึงอาจเป็นนายตรวจนักเลือกตั้งก็เป็นได้ นี่อธิบายกันแบบเอาใจลุงป้อม

/////

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ